พบผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 266/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับจำนำเกิน 400 บาท ไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.โรงรับจำนำ ต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
จำเลยรับจำนำจักรไว้เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2505 เป็นเงิน1,700 บาท ขณะนั้นพระราชบัญญัติโรงรับจำนำ พ.ศ.2480 ยังใช้บังคับอยู่ มาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติให้รับจำนำประกันเงินกู้ซึ่งมีจำนวนไม่เกิน 400 บาทเมื่อเป็นเช่นนี้ จำเลยจึงไม่ได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัติโรงรับจำนำ พ.ศ.2480 การรับจำนำเช่นนี้ต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
การที่จำเลยรับจำนำจักรรายนี้ต่อเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2506และออกตั๋วให้ใหม่ ไม่ทำให้เป็นการรับจำนำตามพระราชบัญญัติโรงรับจำนำ พ.ศ.2506 ซึ่งใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันที่ 31 ธันวาคม 2505
การที่จำเลยรับจำนำจักรรายนี้ต่อเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2506และออกตั๋วให้ใหม่ ไม่ทำให้เป็นการรับจำนำตามพระราชบัญญัติโรงรับจำนำ พ.ศ.2506 ซึ่งใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันที่ 31 ธันวาคม 2505
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 266/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับจำนำเกินวงเงินที่กฎหมายกำหนด ไม่อยู่ภายใต้ความคุ้มครองของ พ.ร.บ.โรงรับจำนำ และสิทธิเจ้าของทรัพย์
จำเลยรับจำนำจักรไว้เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2505 เป็นเงิน 1,700 บาท ขณะนั้นพระราชบัญญัติโรงรับจำนำ พ.ศ.2480 ยังใช้บังคับอยู่ มาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินี้บัญญัติให้รับจำนำประกันเงินกู้ซึ่งมีจำนวนไม่เกิน 400 บาท เมื่อเป็นเช่นนี้ จำเลยจึงไม่ได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัติโรงรับจำนำ พ.ศ.2480 การรับจำนำเช่นนี้ต้องบังคับตามประมวลกฎหมายกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
การที่จำเลยรับจำนำจักรรายนี้ต่อเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2506 และออกตั๋วให้ใหม่ ไม่ทำให้เป็นการรับจำนำตามพระราชบัญญัติโรงรับจำนำ พ.ศ.2506 ซึ่งใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันที่ 31 ธันวาคม 2505
การที่จำเลยรับจำนำจักรรายนี้ต่อเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2506 และออกตั๋วให้ใหม่ ไม่ทำให้เป็นการรับจำนำตามพระราชบัญญัติโรงรับจำนำ พ.ศ.2506 ซึ่งใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันที่ 31 ธันวาคม 2505
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 776/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน - การรับจำนำเกิน 400 บาท - สิทธิติดตามเอาคืน - เจ้าของกรรมสิทธิ์มีสิทธิเหนือผู้รับจำนำ
ผู้รับอนุญาตให้ตั้งโรงรับจำนำจะถือเอาประโยชน์จากพระราชบัญญัติโรงรับจำนำ พ.ศ.2480 ได้ก็ต่อเมื่อเป็นการรับจำนำทรัพย์ไว้ในราคารายละไม่เกินสี่ร้อยบาทหากรับจำนำไว้เกินสี่ร้อยบาท ก็เป็นเรื่องที่ต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ในกรณีที่ผู้รับจำนำซึ่งไม่ได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัติโรงรับจำนำ รับจำนำทรัพย์ไว้โดยสุจริตจากบุคคลที่เช่าซื้อทรัพย์มานั้นผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์และทำการโดยสุจริตมีสิทธิติดตามเอาคืนได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1336
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 6/2506)
ในกรณีที่ผู้รับจำนำซึ่งไม่ได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัติโรงรับจำนำ รับจำนำทรัพย์ไว้โดยสุจริตจากบุคคลที่เช่าซื้อทรัพย์มานั้นผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์และทำการโดยสุจริตมีสิทธิติดตามเอาคืนได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1336
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 6/2506)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 776/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเจ้าของทรัพย์เมื่อจำนำเกิน 400 บาท: คุ้มครองตาม พ.ร.บ.โรงรับจำนำจำกัดเฉพาะราคาน้อยกว่า 400 บาทเท่านั้น
ผู้รับอนุญาตให้ตั้งโรงรับจำนำจะถือเอาประโยชน์จากพระราชบัญญัติโรงรับจำนำ พ.ศ.2480 ได้ ก็ต่อเมื่อเป็นการรับจำนำทรัพย์ไว้ในราคารายละไม่เกินสี่ร้อยบาท หากรับจำนำไว้เกินสี่ร้อย ก็เป็นเรื่องที่ต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ในกรณีที่ผู้รับจำนำซึ่งไม่ได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัติโรงรับจำนำ รับจำนำทรัพย์ไว้โดยสุจริตจากบุคคลที่เช่าซื้อทรัพย์มานั้น ผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์และทำการโดยสุจริตมีสิทธิติดตามเอาคืนได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1336.
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 6/2506)
ในกรณีที่ผู้รับจำนำซึ่งไม่ได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัติโรงรับจำนำ รับจำนำทรัพย์ไว้โดยสุจริตจากบุคคลที่เช่าซื้อทรัพย์มานั้น ผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์และทำการโดยสุจริตมีสิทธิติดตามเอาคืนได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1336.
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 6/2506)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 167/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประกอบธุรกิจรับจำนำต้องเป็นปกติธุระ มิใช่รับจำนำจากความเกรงใจ
ที่จะเป็นผิดตามมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติโรงรับจำนำ จำเลยต้องเอาทรัพย์สิ่งของไว้เป็นประกันเงินที่ยืมเป็นปกติธุระ
หากผู้ยืม 2-3 คนเกรงใจจำเลย ขืนใจให้จำเลยเอาเสื้อผ้าไว้เป็นประกันการยืม จำเลยรับไว้ไม่บ่อยครั้ง ไม่ถือว่าเป็นปกติธุระและไม่ผิดตาม พระราชบัญญัติโรงรับจำนำ
หากผู้ยืม 2-3 คนเกรงใจจำเลย ขืนใจให้จำเลยเอาเสื้อผ้าไว้เป็นประกันการยืม จำเลยรับไว้ไม่บ่อยครั้ง ไม่ถือว่าเป็นปกติธุระและไม่ผิดตาม พระราชบัญญัติโรงรับจำนำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 167/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประกอบธุรกิจรับจำนำต้องเป็นปกติธุระ การรับจำนำเฉพาะจากบุคคลใกล้ชิดไม่ถือเป็นธุรกิจปกติ
ที่จะเป็นผิดตามมาตรา 6 แห่งพ.ร.บ.โรงรับจำนำ จำเลยต้องเอาทรัพย์สิ่งของไว้เป็นประกันเงินที่ยืมเป็นปรกติธุระ
หากผู้ยืม 2-3 คนเกรงใจจำเลย ขืนใจให้จำเลยเอาเสื้อผ้าไว้เป็นประกันการยืม จำเลยรับไว้ไม่บ่อยครั้ง ไม่ถือว่าเป็นปรกติธุระและไม่ผิดตามพ.ร.บ.โรงรับจำนำ
หากผู้ยืม 2-3 คนเกรงใจจำเลย ขืนใจให้จำเลยเอาเสื้อผ้าไว้เป็นประกันการยืม จำเลยรับไว้ไม่บ่อยครั้ง ไม่ถือว่าเป็นปรกติธุระและไม่ผิดตามพ.ร.บ.โรงรับจำนำ