คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน พ.ศ.2489

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 527 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1074/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิเช่าและการยินยอมเลิกสัญญาเช่า ผู้รับโอนผูกพันตามสัญญาเดิมหรือไม่
ผู้เช่าเดิมให้ความยินยอมว่า จะออกจากเคหะแล้ว ผู้เช่าคนใหม่รับโอนการเช่านั้นมา อาจถือได้ว่ารับโอนความยินยอมนั้นมาด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1074/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิสัญญาเช่าและความยินยอมเลิกสัญญา ผู้รับโอนผูกพันตามสัญญาเดิมหรือไม่
ผู้เช่าเดิมให้ความยินยอมว่า จะออกจากเคหะแล้ว ผู้เช่าคนใหม่รับโอนการเช่านั้นมา อาจถือได้ว่ารับโอนความยินยอมนั้นมาด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1027/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ในที่ดินจากการครอบครองปรปักษ์และการเช่าที่ไม่มีหนังสือ
การที่จำเลยยกห้องแถวให้แก่โจทก์ ถึงจะมิได้ทำหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม กฎหมาย ก็ดี แต่โจทก์ได้ถือสิทธิเป็นเจ้าของมากว่า 10ปี แม้จำเลยครอบครองอยู่ก็โดยอาศัยอำนาจของโจทก์ดังนี้ ห้องแถวนั้นย่อมตกเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ตามมาตรา 1368,1382
เช่าห้องพิพาททำการค้าอยู่ในตลาดในทำเลการค้า การเช่าไม่ได้ทำเป็นหนังสือและผู้ให้เช่าได้บอกกล่าวให้ผู้เช่าออกแล้ว ดังนี้ผู้เช่าหาได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯไม่
การที่ศาลกำหนดให้จำเลยใช้ค่าเสียหายเดือนละ 20 บ.ตั้งแต่วันฟ้องจนกว่าจะออกจากห้องเช่าให้โจทก์นั้น ก็เป็นจำนวนเท่ากับอัตราค่าเช่านั่นเอง เมื่อจำเลยวางศาลไว้แล้วเท่าใดแล้วก็ไม่ต้องใช้อีกเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1027/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้กรรมสิทธิโดยการครอบครองปรปักษ์ และสิทธิของผู้เช่าในตลาดทำเลการค้า
การที่จำเลยยกห้องแถวให้แก่โจกท์ ถึงจะมิได้ทำหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม ก.ม.ก็ดี แต่โจทก์ได้ถือสิทธิเป็นเจ้าของมากกว่า 10 ปี แม้จำเลยครอบครองอยู่ก็โดยอาศัยอำนาจของโจทก์ดังนี้ ห้องแถวนั้นย่อมตกเป็นกรรมสิทธิของโจทก์ ตาม ม.1368,1382
เช่าห้องพิพากททำการค้าอยู่ ในตลาดในทำเลการค้า การเช่าไม่ได้ทำเป็นหนังสือและผู้ให้เช่าได้บอกกล่าวให้ผู้เช่าออกแล้วดังนี้ผู้เช่าหาได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ. ควบคุมค่าเช่า ฯ ไม่
การที่ศาลกำหนดให้จำเลยใช้ค่าเสียหายเดือนละ 20 บ.ตั้งแต่วันฟ้องจนกว่าจะออกจากห้องเช่าให้โจทก์นั้นก็เป็นจำนวนเท่ากับอัตราค่าเช่านั่นเอง เมื่อจำเลยวางศาลไว้แล้วเท่าใดแล้วก็ไม่ต้องใช้อีกเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1027/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์โดยอายุความ และสิทธิของผู้เช่าในตลาดทำเลการค้า
การที่จำเลยยกห้องแถวให้แก่โจทก์ ถึงจะมิได้ทำหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม กฎหมาย ก็ดี แต่โจทก์ได้ถือสิทธิเป็นเจ้าของมากว่า 10ปี แม้จำเลยครอบครองอยู่ก็โดยอาศัยอำนาจของโจทก์ดังนี้ ห้องแถวนั้นย่อมตกเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ตามมาตรา 1368,1382
เช่าห้องพิพาททำการค้าอยู่ในตลาดในทำเลการค้า การเช่าไม่ได้ทำเป็นหนังสือและผู้ให้เช่าได้บอกกล่าวให้ผู้เช่าออกแล้ว ดังนี้ผู้เช่าหาได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯไม่
การที่ศาลกำหนดให้จำเลยใช้ค่าเสียหายเดือนละ 20 บ.ตั้งแต่วันฟ้องจนกว่าจะออกจากห้องเช่าให้โจทก์นั้น ก็เป็นจำนวนเท่ากับอัตราค่าเช่านั่นเอง เมื่อจำเลยวางศาลไว้แล้วเท่าใดแล้วก็ไม่ต้องใช้อีกเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 946/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาสละสิทธิห้ามเช่าช่วง: แม้ไม่มีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร หากผู้ให้เช่ายินยอมโดยชัดแจ้งหรือโดยปริยาย ก็ถือเป็นเจตนาสละสิทธิ
แม้หนังสือสัญญาเช่าที่ดินจะมีข้อความห้ามเช่าช่วงเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าเป็นลายลักษณ์อักษรก็ดี แต่ถ้าข้อเท็จจริงปรากฏว่าผู้ให้เช่ายินยอมให้ผู้เช่าให้เช่าช่วงปลูกห้องแถวให้ผู้อื่นเช่าอยู่อาศัยย่อมแสดงเจตนาของผู้ให้เช่าว่าได้สละข้อห้ามในสัญญานั้นแล้ว ผู้เช่าห้องแถวอยู่อาศัยก็ย่อมได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ
คดีที่คู่ความฎีกาในข้อกฎหมายเมื่อศาลฎีกาเห็นว่าศาลชั้นต้นยังมิได้ฟังข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญในประเด็นก็มีอำนาจให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้นให้สืบพยานแล้วสั่งใหม่ตามรูปคดีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 946/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาสละสิทธิห้ามเช่าช่วง: แม้สัญญาห้าม แต่หากผู้ให้เช่ายินยอมก็ถือเป็นการสละสิทธิ
แม้หนังสือสัญญาเช่าที่ดินจะมีข้อความห้ามเช่าช่วงเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าเป็นลายลักษณ์อักษรก็ดี แต่ถ้าข้อเท็จจริงปรากฎว่าผู้ให้เช่ายินยอมให้ผู้เช่าให้เช่าช่วงปลูกห้องแถวให้ผู้อื่นเช่าอยู่อาศัยย่อมแสดงเจตนาของผู้ให้เช่าว่าได้สละข้อห้ามในสัญญานั้นแล้ว ผู้เช่าห้องแถวอยู่อาศัยก็ย่อมได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ
คดีที่คู่ความฎีกาในข้อ ก.ม. เมื่อศาลฎีกาเห็นว่าศาลชั้นต้นยังมิได้ฟังข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญในประเด็นก็มีอำนาจให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้นให้สืบพยานแล้วสั่งใหม่ตามรูปคดีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 921/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิของผู้ให้เช่าและการสิ้นสุดความคุ้มครองตามพรบ.ควบคุมค่าเช่าเมื่อมีการอนุมัติให้เข้าอยู่
พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าตลอดจนกฎกระทรวงมหาดไทยซึ่งออกตามความแห่งพระราชบัญญัตินี้มิได้บังคับให้ต้องสอบสวนผู้เช่าในกรณีที่ผู้ให้เช่าขอเข้าอยู่ในห้องเช่าการสอบสวนในที่นี้ก็คือสอบสวนความจำเป็นของผู้ให้เช่าที่จะต้องเข้าอยู่ในห้องของตนที่ให้เช่าโดยเฉพาะไม่เกี่ยวกับความจำเป็นของผู้เช่าฉะนั้นเมื่อคณะกรรมการสอบสวนผู้ให้เช่าแล้วลงมติไปโดยมิได้สอบสวนผู้เช่าเลยเช่นนี้จึงเป็นการชอบด้วยกฎหมายแล้ว
ผู้ให้เช่าจะร้องเท็จหรือปิดบังคณะกรรมการฯ เกี่ยวกับเรื่องขอเข้าอยู่ในห้องเช่าอย่างใดนั้นมิได้เกี่ยวข้องกับกรรมการฯ อย่างใดเมื่อคณะกรรมการได้ลงมติไปตามอำนาจหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมายแล้วผู้เช่าจะอ้างเรื่องร้องเท็จนั้นมาทำลายมติของคณะกรรมการฯ ไม่ได้
ผู้ให้เช่าจะเข้าอยู่ในห้องเช่าต้องขอมติคณะกรรมการเมื่อคณะกรรมการฯ ลงมติให้ความยินยอมแก่ผู้ให้เช่าแล้วผู้เช่าก็ไม่ได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯต่อไป (พอได้รับมติผู้ให้เช่าก็ใช้สิทธิตามมติผู้เช่าไม่ยอมออก ผู้ให้เช่า จึงฟ้องขับไล่จำเลยโดยอ้างมติคณะกรรมการฯ ผู้ให้เช่าตายลงระหว่างพิจารณาก่อนได้เข้าอยู่ในห้องเช่า) แม้ผู้ให้เช่าจะยังอยู่หรือตามไปก็ตามผู้เช่าจะอ้างความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ ต่อไปไม่ได้ภรรยาของผู้ให้เช่าจำเลยร่วมจึงไม่จำเป็นต้องร้องขอความยินยอมจากคณะกรรมการฯ ใหม่มติของคณะกรรมการฯ ในกรณีนี้ไม่เกี่ยวกับสิทธิเฉพาะตัวของผู้ให้เช่า
ผู้ใดมีส่วนได้เสียตามกฎหมาย ในผลแห่งคดีใด อาจเข้ามาเป็นคู่ความได้ด้วยการร้องสอดโดยยื่นคำร้องขอต่อศาล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 921/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการเช่าหลังมติคณะกรรมการฯ และการรับมรดกความในคดีเช่า - การไม่จำเป็นต้องสอบสวนผู้เช่า
พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าตลอดจนกฎกระทรวงมหาดไทยซึ่งออกตามความแห่ง พ.ร.บ.นี้มิได้บังคับให้ต้องสอบสวนผู้เช่าในกรณีที่ผู้ให้เช่าขอเข้าอยู่ในห้องเช่าการสอบสวนในที่นี้ก็คือสอบสวนความจำเป็นของผู้ให้เช่าที่จะต้องเข้าอยู่ในห้องของตนที่ให้เช่า โดยเฉพาะไม่เกี่ยวกับความจำเป็นของผู้เช่าฉนั้นเมื่อคณะกรรมการสอบสวนผู้ให้เช่าแล้วลงมติไปโดยมิได้สอบสวนผู้เช่าเลยเช่นนี้จึงเป็นการชอบด้วย ก.ม. แล้ว
ผู้ให้เช่าจะร้องเท็จหรือปิดบังคณะกรรมการ ฯ เกี่ยวกับเรื่องขอเข้าอยู่ในห้องเช่าอย่างใดนั้นมิได้เกี่ยวข้องกับกรรมการฯอย่างใด เมื่อคณะกรรมการได้ลงมติไปตามอำนาจหน้าที่โดยชอบด้วย ก.ม.แล้ว ผู้เช่าจะอ้างเรื่องร้องเท็จนั้นมาทำลายมติของคณะกรรมการ ฯ ไม่ได้
ผู้ให้เช่าจะเข้าอยู่ในห้องเช่าต้องขอมติคณะกรรมการเมื่อคณะกรรมการฯลงมติให้ความยินยอมแก่ผู้ให้เช่าแล้ว ผู้เช่าก็ไม่ได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ ต่อไป (พอได้รับมติผู้ให้เช่าก็ใช้สิทธิความมติผู้เช่าไม่ยอมออก ผู้ให้เช่า จึงฟ้องขับไล่ จำเลยโดยอ้างมติคณะกรรมการ ฯ ผู้ให้เช่าตายลงระหว่างพิจารณาก่อนได้เข้าอยู่ในห้องเช่า) แม้ผู้ให้เช่าจะยังอยู่หรือตายไปก็ตาม ผู้เช่าจะอ้างความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ ต่อไปไม่ได้ ภรรยาของผู้ให้เช่าจำเลยร่วมจึงไม่จำเป็นต้องร้องขอความยินยอมจากคณะกรรมการฯใหม่ มติของคณะกรรมการฯ ในกรณีนี้ไม่เกี่ยวข้องกับสิทธิเฉพาะตัวของผู้ให้เช่า
ผู้ใดมีส่วนได้เสียตาม ก.ม. ในผลแห่งคดีใด อาจเข้ามาเป็นคู่ความได้ด้วยการร้องสอดโดยยื่นคำร้องต่อศาล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 807/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การผัดเวลาออกจากที่เช่า ไม่ถือเป็นการเช่าใหม่ สิทธิขับไล่ยังคงมี
คณะกรรมการควบคุมค่าเช่ามีมติยินยอมให้ผู้ให้เช่าเข้าอยู่ในที่เช่าแล้วผู้ให้เช่ายังยอมให้ผู้เช่าอยู่ต่อไปโดยผู้เช่าทำหนังสือขอผัดว่าจะออกไปใน 3 เดือนนับแต่สามีผู้ให้เช่ากลับจากต่างจังหวัดหรือถ้าขายบ้านได้ก่อนจะออกโดยเร็ว ดังนี้ ไม่ผูกมัดผู้ให้เช่าที่จะต้องยอมให้อยู่ไปตามที่ผัด
of 53