คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน พ.ศ.2489

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 527 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 802/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความเช่าบ้านและการสิ้นสุดความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
ผู้ให้เช่าบ้านและผู้เช่า ได้ตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันต่อคณะกรมการอำเภอ โดยผู้เช่าขอเช่าอยู่ต่อไปอีก6 เดือน แล้วผู้เช่าจะออกจากบ้านรายนี้ไป ดังนี้ย่อมเป็นการแสดงความยินยอมของผู้เช่าที่จะออกจากบ้านเช่า ต้องตามข้อยกเว้นของ พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขันพ.ศ.2489 มาตรา 16(5) แล้ว เมื่อครบกำหนดแล้วไม่ยอมออกจากบ้านเช่า ผู้ให้เช่าย่อมมีอำนาจฟ้องขับไล่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 802/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความเช่าบ้านและการสิ้นสุดความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
ผู้ให้เช่าบ้านและผู้เช่า ได้ตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันต่อคณะกรมการอำเภอ โดยผู้เช่าขอเช่าอยู่ต่อ ไปอีก 6 เดือน แล้วผู้เช่าจะออกจากบ้านรายนี้ไป ดังนี้ ย่อมเป็นการแสดงความยินยอมของผู้เช่าที่จะออกจากบ้าน เช่า ต้องตามข้อยกเว้นของ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน พ.ศ.2489 มาตรา 16 (5) แล้ว เมื่อครบกำหนดแล้ว ไม่ยอมออกจากบ้านเช่า ผู้ให้เช่าย่อมมีอำนาจฟ้องขับไล่ได้./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 753-754/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ห้องเช่าเป็นที่อยู่อาศัยหลัก แม้มีการค้าเล็กน้อยยังคงได้รับการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
เช่าห้องเขาโดยผู้เช่าตลอดทั้งครอบครัว ได้อาศัยหลับนอนทำครัวหุงหาอาหารกินอยู่ในห้องเช่านั้น ส่วนตัวผู้เช่า ทำการขายทองรูปพรรณ์และกาแฟเป็นการค้าเล็กๆน้อยๆ ดังนี้ ถือว่า ผู้เช่าใช้ห้องพิพาทเป็นที่อยู่อาศัยเป็นส่วน ใหญ่ ไม่ใช้อยู่อาศัยเพื่อควบคุมการค้า จึงเป็นเคหะได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 753-754/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ห้องเช่าเป็นที่อยู่อาศัยหลัก แม้มีการค้าเล็กน้อย ยังคงได้รับการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
เช่าห้องเขาโดยผู้เช่าตลอดทั้งครอบครัว ได้อาศัยหลับนอนทำครัวหุงหาอาหารกินอยู่ในห้องเช่านั้นส่วนตัวผู้เช่าทำการขายทองรูปพรรณและกาแฟเป็นการค้าเล็กๆ น้อยๆ ดังนี้ถือว่า ผู้เช่าใช้ห้องพิพาทเป็นที่อยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่ ไม่ใช่อยู่อาศัยเพื่อควบคุมการค้าจึงเป็นเคหะได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯลฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 562/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการครอบครองเรือนในที่ดินเช่าสิ้นสุดเมื่อสัญญาเช่าที่ดินสิ้นสุด ผู้เช่าเรือนไม่ได้รับการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
ปลูกเรือนอยู่ในที่ผู้อื่นเขาโดยอาศัยสิทธิการเช่าที่ดินของน้องภรรยา เมื่อน้องภรรยาบอกเลิกการเช่าที่ดินกับเจ้า ของที่ดินแล้ว คนย่อมไม่มีสิทธิอันใดที่จะให้เรือนตนคงปลูกอยู่ในที่ดินของเขาค่อไปได้แม้ผู้เช่าเรือนนั้นอยู่อาศัย ก็ย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 562/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการใช้ประโยชน์ในที่ดินเมื่อสัญญาเช่าสิ้นสุด: ผู้ปลูกเรือนในที่ดินเช่าไม่มีสิทธิเรียกร้องเมื่อสัญญาเช่าเดิมสิ้นสุด
ปลูกเรือนอยู่ในที่ผู้อื่นเขาโดยอาศัยสิทธิการเช่าที่ดินของน้องภรรยาเมื่อน้องภรรยาบอกเลิกการเช่าที่ดินกับเจ้าของที่ดินแล้วตนย่อมไม่มีสิทธิอันใดที่จะให้เรือนของตนคงปลูกอยู่ในที่ดินของเขาต่อไปได้ แม้ผู้เช่าเรือนนั้นอยู่อาศัย ก็ย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯลฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 442/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การผูกพันตามสัญญาเช่าเมื่อเจ้าของที่ดินยินยอมให้ผู้อื่นทำสัญญาแทน
เจ้าของที่ดิน เชิดให้มารดาภริยา แสดงเป็นตัวแทน หรือรู้แล้วยอมให้มารดาภริยา แสดงเป็นตัวแทน ทำสัญญาให้ผู้อื่นเช่าที่ดินปลูกเรือนอยู่อาศัย นั้นเจ้าของที่ดินย่อมต้องผูกพันตามสัญญาเช่าที่มารดาภริยาทำไว้กับผู้เช่า ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก ผู้สุจริตเสมือนหนึ่งมารดาภริยาเป็นตัวแทนของเจ้าของที่ดินฉะนั้นผู้ซื้อที่ดินนั้นไปจากเจ้าของ จึงต้องรับโอนสิทธิและหน้าที่ในสัญญาเช่าติดตามไปด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 442/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การผูกพันตามสัญญาเช่าที่ตัวแทนทำไป แม้มิได้รับมอบหมายโดยตรง สิทธิและหน้าที่ย่อมตกแก่ผู้รับโอน
เจ้าของที่ดิน เชิดให้มารดาภริยา แสดงเป็นตัวแทน หรือรู้แล้วยอมให้มารดา ภริยา แสดงเป็นตัวแทน ทำสัญญา
ให้ผู้อื่นเช่าที่ดินปลูกเรือนอยู่อาศัย นั้น เจ้าของที่ดินย่อมต้องผูกพันตามสัญญาเช่าที่มารดาภริยาทำไว้กับผู้เช่า
ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก ผู้สุจริตเสมือนหนึ่งมารดาภริยาเป็นตัวแทนของเจ้าของที่ดิน ฉะนั้นผู้ซื้อที่ดินนั้นไปจากเจ้า
ของ จึงต้องรับโอนสิทธิและหน้าที่ในสัญญาเช่าติดตามไปด้วย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 409/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าคุ้มครองครอบครัวผู้เช่า แม้ผู้เช่ามีที่อยู่อื่น
พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ คุ้มครองผู้เช่าตลอดจนถึงครอบครัวของผู้เช่าด้วย.
เช่าห้องให้ภริยาและบุตรอยู่เป็นที่อาศัย แม้ผู้เช่าจะมีภริยาอีกและอยู่อีกบ้านหนึ่งก็ดี ภริยาและบุตรของผู้เช่าที่อยู่ ในห้องเช่า ก็ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ เพราะเป็นครอบครัวของผู้เช่า และอยู่ในนามของ ผู้เช่าและโดยภาระของผู้เช่าโดยตรง, ถือได้ว่าผู้เช่าได้อยู่ในห้อง รายนี้ด้วย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 409/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คุ้มครองครอบครัวผู้เช่าภายใต้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า แม้ผู้เช่ามีครอบครัวอื่น
พระราบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯลฯ คุ้มครองผู้เช่าตลอดจนถึงครอบครัวของผู้เช่าด้วย
เช่าห้องให้ภริยาและบุตรอยู่เป็นที่อาศัยแม้ผู้เช่าจะมีภริยาอีกและอยู่อีกบ้านหนึ่งก็ดีภริยาและบุตรของผู้เช่าที่อยู่ในห้องเช่า ก็ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯลฯ เพราะเป็นครอบครัวของผู้เช่า และอยู่ในนามของผู้เช่าและโดยภาระของผู้เช่าโดยตรงถือได้ว่าผู้เช่าได้อยู่ในห้อง รายนี้ด้วย
of 53