คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน พ.ศ.2489

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 527 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 458/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเช่าหลังคู่สมรสเสียชีวิต: ต้องแจ้งความประสงค์เป็นหนังสือภายใน 30 วัน
ผู้เช่าเคหะอยู่อาศัยถึงแก่กรรมแล้ว ภรรยาผู้ตายซึ่งอยู่อาศัยในเคหะนั้นต่อมามิได้แสดงความจำนงเป็นหนังสือขอเช่าบ้านรายนั้นต่อผู้ให้เช่าต่อไปภายใน 30 วันนับแต่วันที่สามีตายนั้นจะอ้างความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าไม่ได้ เว้นแต่ผู้ให้เช่าและภรรยาผู้ตายจะตกลงกันยอมให้ภรรยาผู้ตายเช่าบ้านนั้นต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 436/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช่าตึกแถวเพื่อค้าขาย ไม่เป็นเคหะตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
เช่าตึกแถว ซึ่งตั้งอยู่ที่ถนนสำเพ็ง อำเภอสัมพันธ์วงศ์จังหวัดพระนคร) ในทำเลการค้า ทำการค้าขายผ้าต่างประเทศและในประเทศและผ้าแพรแถวนั้นการเช่าเพื่ออยู่อาศัยอย่างเดียวไม่มีเลย ดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่าเป็นเรื่องเช่าเพื่อประกอบการค้า ส่วนการที่ผู้เช่าและครอบครัวอยู่อาศัยในสถานที่เช่าด้วยก็เพียงอยู่เพื่อประกอบการค้าเท่านั้น สถานที่เช่าเช่นนี้จึงไม่เป็นเคหะตามความหมายแห่ง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 436/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าตึกแถวเพื่อประกอบการค้า ไม่เข้าข่ายเคหะตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
เช่าตึกแถว ซึ่งตั้งอยู่(ที่ถนนสำเพ็ง อำเภอสัมพันธ์วงศ์ จังหวัดพระนคร) ในทำเลการค้า ทำการค้าขายผ้าต่างประเทศและในประเทศและผ้าแพร แถวนั้นการเช่าเพื่ออยู่อาศัยอย่างเดียวไม่มีเลย ดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่า เป็นเรื่องเช่าเพื่อประกอบการค้า ส่วนการที่ผู้เช่าและครอบครัวอยู่อาศัยในสาถนที่เช่าด้วยก็เพียงอยู่เพื่อประกอบการค้าเท่านั้น สถานที่เช่านี้จึงไม่เป็นเคหะตามความหมายแห่ง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 311/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมอบอำนาจดูแลทรัพย์สินโดยปริยาย การเช่าได้รับความคุ้มครอง
เจ้าของบ้านไม่อยู่ไปต่างประเทศเสียได้มอบบ้านให้ภรรยาดูแลแทนแม้ภรรยานั้นจะไม่ใช่ภรรยาเจ้าของบ้านตามกฎหมายก็ตามเมื่อภรรยานั้นให้คนเช่าบ้านนั้นเช่าอยู่อาศัย ผู้เช่านั้นก็ย่อมได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯลฯ เพราะถือได้ว่าเป็นการตั้งภรรยาเป็นตัวแทนด้วยการแสดงออก จึงไม่ต้องทำเป็นหนังสือ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 311/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าบ้านผ่านตัวแทนที่แต่งตั้งโดยการแสดงออก แม้ไม่มีหนังสือก็ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
เจ้าของบ้านไม่อยู่ ไปต่างประเทศเสีย ได้มอบบ้านให้ภรรยาดูแลแทน แม้ภรรยานั้นจะไม่ใช่ภรรยาเจ้าของบ้านตามกฎหมายก็ตาม เมื่อภรรยานั้นให้คนเช่าบ้านนั้นแยู่อาศัย ผู้เช่านั้นก็ย่อมได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ เพราะถือได้ว่าเป็นการตั้งภรรยาเป็นตัวแทนด้วยการแสดงออก จึงไม่ต้องทำเป็นหนังสือ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 145/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้สถานที่เช่าเพื่ออยู่อาศัยและประกอบอาชีพส่วนตัว ไม่ถือเป็นการประกอบการค้า
แม้ตึกเช่าจะอยู่ในทำเลการค้าก็ดีแต่ทางพิจารณาที่ได้ความประกอบกับสถานที่ซึ่งศาลไปตรวจ มิได้แสดงให้เห็นว่าจำเลยได้ใช้สถานที่นั้นเป็นที่ประกอบการค้า หากใช้เป็นที่อยู่อาศัยและติดป้ายแสดงเพื่อให้คนมาว่าจ้างไปทำไฟฟ้า เป็นการประกอบอาชีพของจำเลยการกระทำเช่นนี้ ไม่เพียงพอที่จะถือว่าเข้าอยู่ในลักษณะประกอบการค้าในห้องเช่าตามนัยฎีกาที่ 1099-1147/2491 จำเลยย่อมได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 43-44/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุเพลิงไหม้ทำให้คดีเช่าสิ้นสุด ศาลฎีกายกคำร้องเนื่องจากไม่มีประโยชน์ในการพิจารณาต่อไป
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากตึกเช่าของโจทก์ และเรียกค่าเสียหายศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ขับไล่จำเลยระหว่างจำเลยฎีกา ไฟไหม้ตึกเช่ารายพิพาทหมดสิ้น ดังนี้ เมื่อปรากฏว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายเท่าจำนวนค่าเช่าซึ่งจำเลยจำต้องใช้ให้โจทก์จนเกิดเพลิงไหม้ เมื่อตึกเช่าหมดสิ้นไปจำเลยก็ไม่จำต้องใช้ค่าเสียหายภายหลังจากเพลิงไหม้อีก ไม่มีประโยชน์ที่ศาลฎีกาจะชี้ขาดคดีต่อไปศาลฎีกาย่อมพิพากษาให้ยกฎีกาเสียได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 43-44/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุเพลิงไหม้ทำลายทรัพย์สินทำให้คดีสิ้นสุด ศาลยกฎีกาไม่ต้องชี้ขาดค่าเสียหาย
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากตึกเช่าของโจทก์ และเรียกค่าเสียหาย ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ขับไล่จำเลยระหว่างจำเลยฎีกา ไฟไหม้ตึกเช่ารายพิพาทหมดสิ้น ดังนี้เมื่อปรากฏว่า ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายเท่าจำนวนค่าเช่า ซึ่งจำเลยจำต้องใช้ให้โจทก์จนเกิดเพลิงไหม้ เมื่อตึกเช่าหมดสิ้นไปจำเลยก็ไม่จำต้องใช้ค่าเสียหายภายหลังจากเพลิงไหม้อีก ไม่มีประโยชน์ที่ศาลฎีกาจะชี้ขาดคดีต่อไป ศาลฎีกาย่อมพิพากษาให้ยกฎีกาเสียได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2002/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงสภาพอาคารจากที่อยู่อาศัยเป็นร้านค้า ทำให้ไม่ได้รับการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
ชั้นแรกจำเลยได้ตกลงกับโจทก์เช่าห้องเป็นที่อยู่อาศัย ต่อมาจำเลยได้ตกลงกับโจทก์เปลี่ยนแปลงห้องเช่าเป็นร้านค้า และเพิ่มอัตราค่าเช่าให้โจทก์ด้วย ดังนี้คู่กรณีได้เปลี่ยนแปลงอาคารจากบ้านที่อยู่มาเป็นร้านค้า จำเลยจึงไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯลฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2002/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์การเช่าจากที่อยู่อาศัยเป็นร้านค้า ทำให้ไม่ได้รับการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
ชั้นแรกจำเลยได้ตกลงกับโจทก์เช่าห้องเป็นที่อยู่อาศัย ต่อมาจำเลยได้ตกลงกับโจทก์เปลี่ยนแปลงห้องเช่าเป็นร้านค้า และเพิ่มอัตราค่าเช่า ให้โจทก์ด้วย ดังนี้คู่กรณีได้เปลี่ยนแปลงอาคารจากบ้านที่อยู่มาเป็นร้านค้า จำเลยจึงไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ
of 53