พบผลลัพธ์ทั้งหมด 527 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 605/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
มติคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าชอบด้วยกฎหมาย แม้ความเห็นอนุกรรมการฯจะต่างกัน การฟ้องขับไล่เป็นคนละประเด็น
มติของคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าที่ให้ความยินยอมแก่ผู้ให้เช่าเข้าอยู่อาศัยในเคหะที่เช่าเองนั้น แม้ในชั้นแรกคณะอนุกรรมการฯจะมีความเห็นว่าไม่ควรอนุญาตก็ดี แต่เมื่อคณะกรรมการผู้มีอำนาจสูงกว่าได้พิจารณาอนุญาตแล้ว มตินั้นหาตกเป็นโมฆะไม่
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากเคหะที่เช่าโดยอ้างว่า ครบกำหนดสัญญาเช่าและบอกเลิกสัญญาเช่าแล้ว แต่ศาลพิพากษายกฟ้องโดยวินิจฉัยว่าจำเลยได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ โจทก์จึงขอต่อคณะกรรมการฯเข้าอยู่เองเมื่อได้รับอนุญาตแล้วจึงฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยอีกโดยอ้างมติอนุญาตของคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าฯ ดังนี้ ย่อมเป็นคนละเรื่องคนละประเด็นกัน หาต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148 หรือ 173(1)ไม่
ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงแล้วข้าหลวงยุติธรรมก็ยังมีอำนาจอนุญาตให้อุทธรณ์ในข้อเท็จจริงได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 230 วรรคสาม
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากเคหะที่เช่าโดยอ้างว่า ครบกำหนดสัญญาเช่าและบอกเลิกสัญญาเช่าแล้ว แต่ศาลพิพากษายกฟ้องโดยวินิจฉัยว่าจำเลยได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ โจทก์จึงขอต่อคณะกรรมการฯเข้าอยู่เองเมื่อได้รับอนุญาตแล้วจึงฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยอีกโดยอ้างมติอนุญาตของคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าฯ ดังนี้ ย่อมเป็นคนละเรื่องคนละประเด็นกัน หาต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148 หรือ 173(1)ไม่
ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงแล้วข้าหลวงยุติธรรมก็ยังมีอำนาจอนุญาตให้อุทธรณ์ในข้อเท็จจริงได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 230 วรรคสาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 571/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำยินยอมการเข้าอยู่ตามคำสั่ง คณะกรรมการควบคุมค่าเช่า มิถือเป็นการผิดสัญญา หากผู้เช่ายินดีเข้าอยู่ด้วยฐานะเช่า
มติคณะกรรมการควบคุมค่าเช่ามีว่า "คณะกรรมการควบคุมค่าเช่าได้พิจารณาแล้วเห็นว่าท่านมีความจำเป็นจะต้องเข้าอยู่อาศัยกับทั้งท่านได้ให้คำมั่นว่าจะจัดการให้ผู้เช่าได้เข้าไปอยู่ในเคหะที่บิดามารดาของท่านเช่าอยู่ในปัจจุบันนี้ จึงลงมติให้ความยินยอมแก่ท่านในอันที่จะเข้าอยู่อาศัยในตึกแถวเลขที่ 60-61 ได้ตามขอ" และยังปรากฎในรายงานพิจารณาของศาลอีกว่าโจทก์ได้ยินยอให้จำเลยผู้เช่าอยู่ในบ้านบิดามารดา หากจำเลยไม่ยอมเข้าอยู่เองโดยอ้างว่าจะต้องอยู่ในฐานะเช่าไม่ใช่ฐานะอาศัย ซึ่งโจทก์ได้แถลงต่อไปว่า จะให้เช่าไม่ได้เพราะโจทก์และบิดามารดาไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิสถานที่และโจทก์จะไม่ขับไล่จำเลยเป็นอันขาด เช่นนั้น จะถือว่าโจทก์ปฏิบัติผิดคำสั่งคณะกรรมการมิได้ฉะนั้นโจทก์จึงมีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยออกจากตึกเช่าที่กล่าวแล้วได้
จำเลยให้การข้อหนึ่งว่าคำสั่งคณะกรรมการจะควบองค์ประชุมตาม ก.ม.หรือไม่ จำเลยไม่ทราบนั้น ถือว่าเป็นคำสั่งให้การเคลือบคลุม เพราะมิได้แสดงให้ชัดแจ้งชัดว่าจะรับหรือปฏิเสธฉะนั้นศาลจึงไม่ยอมให้จำเลยนำสืบได้
จำเลยให้การข้อหนึ่งว่าคำสั่งคณะกรรมการจะควบองค์ประชุมตาม ก.ม.หรือไม่ จำเลยไม่ทราบนั้น ถือว่าเป็นคำสั่งให้การเคลือบคลุม เพราะมิได้แสดงให้ชัดแจ้งชัดว่าจะรับหรือปฏิเสธฉะนั้นศาลจึงไม่ยอมให้จำเลยนำสืบได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 571/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยินยอมให้เข้าอยู่อาศัยและสิทธิในการฟ้องขับไล่: คำให้การเคลือบคลุมทำให้จำเลยไม่อาจสืบได้
มติคณะกรรมการควบคุมค่าเช่ามีว่า 'คณะกรรมการควบคุมค่าเช่าได้พิจารณาแล้วเห็นว่าท่านมีความจำเป็นจะต้องเข้าอยู่อาศัยกับทั้งท่านได้ให้คำมั่นว่าจะจัดการให้ผู้เช่าได้เข้าไปอยู่ในเคหะที่บิดามารดาของท่านเช่าอยู่ในปัจจุบันนี้ จึงลงมติให้ความยินยอมแก่ท่านในอันที่จะเข้าอยู่อาศัยในตึกแถวเลขที่ 60-61 ได้ตามขอ' และยังปรากฏในรายงานพิจารณาของศาลอีกว่า โจทก์ได้ยินยอมให้จำเลย(ผู้เช่า) อยู่ในบ้านบิดามารดาหากจำเลยไม่ยอมเข้าอยู่เองโดยอ้างว่าจะต้องอยู่ในฐานะเช่าไม่ใช่ฐานะอาศัยซึ่งโจทก์ได้แถลงต่อไปว่า จะให้เช่าไม่ได้เพราะโจทก์และบิดามารดาไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์สถานที่ และโจทก์จะไม่ขับไล่จำเลยเป็นอันขาด เช่นนี้จะถือว่าโจทก์ปฏิบัติผิดคำสั่งคณะกรรมการมิได้ ฉะนั้นโจทก์จึงมีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยออกจากตึกเช่าที่กล่าวแล้วได้
จำเลยให้การข้อหนึ่งว่าคำสั่งคณะกรรมการจะครบองค์ประชุมตาม กฎหมายหรือไม่ จำเลยไม่ทราบนั้น ถือว่าเป็นคำให้การเคลือบคลุม เพราะมิได้แสดงให้แจ้งชัดว่าจะรับหรือปฏิเสธ ฉะนั้นศาลจึงไม่ยอมให้จำเลยนำสืบได้
จำเลยให้การข้อหนึ่งว่าคำสั่งคณะกรรมการจะครบองค์ประชุมตาม กฎหมายหรือไม่ จำเลยไม่ทราบนั้น ถือว่าเป็นคำให้การเคลือบคลุม เพราะมิได้แสดงให้แจ้งชัดว่าจะรับหรือปฏิเสธ ฉะนั้นศาลจึงไม่ยอมให้จำเลยนำสืบได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 539/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงเคหะที่เช่า ไม่เป็นเหตุบังคับตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
การเปลี่ยนแปลงเคหะที่เช่า(ย้ายบันได) จะโดยรับอนุญาตหรือไม่รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าก็ดี หาใช่เป็นมูลเหตุที่จะยกขึ้นพิจารณาและบังคับตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ ไม่เพราะ พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ ไม่มีบทกล่าวไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 539/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงเคหะที่เช่า (ย้ายบันได) ไม่เป็นเหตุบอกเลิกสัญญาเช่าตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
การเปลี่ยนแปลงเคหะที่เช่า (ย้ายบรรได) จะโดยรับอนุญาตหรือไม่รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าก็ดี หาใช่เป็นมูลเหตุที่จะยกขึ้นพิจารณาและบังคับตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ ไม่ เพราะ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ ไม่มีบทกล่าวไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 490/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสิ้นสุดสัญญาเช่าช่วงเมื่อสัญญาเช่าที่ดินสิ้นสุด ผู้เช่าช่วงไม่มีสิทธิอ้าง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
เช่าที่ดินเขามาแล้วปลูกห้องแถวให้คนเช่าอยู่อาศัยเมื่อเจ้าของที่ดินบอกเลิกการเช่าที่ดินและให้รื้อห้องแถวไปดังนี้ เจ้าของห้องแถวจึงฟ้องขับไล่ผู้เช่าห้องแถว เนื่องจากบอกเลิกสัญญาเช่าแล้ว ผู้เช่าไม่ยอมออกไป ถ้าผู้เช่ามิได้ให้การโต้แย้งการบอกเลิกสัญญาเช่าที่ดินของเจ้าของที่ดินที่บอกเลิกกับเจ้าของห้องแถวไวแล้ว แต่กลับแถลงรับว่าเป็นความจริง ผู้เช่าย่อมไม่มีสิทธิที่จะยก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ มาใช้บังคับแก่เจ้าของห้องแถวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 490/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกเลิกสัญญาเช่าที่ดินส่งผลถึงสัญญาเช่าห้องแถว ผู้เช่ามิอาจอ้าง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าได้หากยอมรับการบอกเลิก
เช่าที่ดินเขามาแล้วปลูกห้องแถวให้คนเช่าอยู่อาศัยเมื่อเจ้าของที่ดินบอกเลิกการเช่าที่ดินและให้รื้อห้องแถวไป ดังนี้ เจ้าของห้องแถวจึงฟ้องขับไล่ผู้เช่าห้องแถว เนื่องจากบอกเลิกสัญญาเช่าแล้ว ผู้เช่าไม่ยอมออกไปถ้าผู้เช่ามิได้ให้การโต้แย้งการบอกเลิกสัญญาเช่าที่ดินของเจ้าของที่ดินที่บอกเลิกกับเจ้าของห้องแถวไว้แล้ว แต่กลับแถลงรับว่าเป็นความจริงผู้เช่าย่อมไม่มีสิทธิที่จะยก พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯลฯ มาใช้บังคับแก่เจ้าของห้องแถวได้
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 14/2494)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 14/2494)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 441/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องขับไล่ผู้เช่าช่วง แม้มิได้ระบุชื่อผู้เช่าช่วงในฟ้อง ไม่ถือเป็นฟ้องเคลือบคลุม หากจำเลยไม่เสียเปรียบในการต่อสู้คดี
ฟ้องขอให้ขับไล่ผู้เช่าโดยอ้างว่าผู้เช่าให้ผู้อื่นเช่าช่วงนั้น แม้โจทก์จะมิได้ระบุชื่อผู้เเช่าช่วงมาในฟ้อง ก็จะถือว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุมได้ เพราะไม่ทำให้ผู้เช่าหลงหรือเสียเปรียบในการต่อสู้คดีอย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 441/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องขับไล่ผู้เช่าช่วงที่ไม่ระบุชื่อ แม้มิใช่ฟ้องเคลือบคลุม หากไม่ทำให้เสียเปรียบ
ฟ้องขอให้ขับไล่ผู้เช่าโดยอ้างว่าผู้เช่าให้ผู้อื่นเช่าช่วงนั้น แม้โจทก์จะมิได้ระบุชื่อผู้เช่าช่วงมาในฟ้อง ก็จะถือว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุมมิได้ เพราะไม่ทำให้ผู้เช่าหลงหรือเสียเปรียบในการต่อสู้คดีอย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 420/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคุ้มครองสัญญาเช่าเพื่ออยู่อาศัยและค้าขายในเขตเทศบาล: การพิสูจน์เหตุสมควร
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่าของโจทก์ โดยอ้างว่าห้องเช่าอยู่ในทำเลการค้า และจำเลยเช่าเพื่อประกอบการค้า
จำเลยต่อสู้ว่าเช่าห้องเป็นที่อยู่อาศัยและทำการค้าด้วยย่อมได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า เพราะอยู่ในเขตเทศบาล
แม้โจทก์รับว่าห้องเช่าอยู่ในเขตเทศบาลและจำเลยใช้เป็นที่อยู่อาศัยด้วยจำเลยก็คงมีหน้าที่นำสืบว่า จำเลยมีเหตุสมควรได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายพิเศษอย่างไร
จำเลยต่อสู้ว่าเช่าห้องเป็นที่อยู่อาศัยและทำการค้าด้วยย่อมได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า เพราะอยู่ในเขตเทศบาล
แม้โจทก์รับว่าห้องเช่าอยู่ในเขตเทศบาลและจำเลยใช้เป็นที่อยู่อาศัยด้วยจำเลยก็คงมีหน้าที่นำสืบว่า จำเลยมีเหตุสมควรได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายพิเศษอย่างไร