คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน พ.ศ.2489

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 527 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 52/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าตึกเพื่ออยู่อาศัยหรือประกอบธุรกิจ: การคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเช่าตึกพิพาทเพื่อประกอบการค้าเป็นส่วนใหญ่ ขอให้ขับไล่ แต่โจทก์ยอมรับว่าจำเลยได้อยู่อาศัยในที่เช่าด้วย ดังนี้ มีประเด็นเป็นข้อเท็จจริงที่จะต้องพิจารณาว่าตึงพิพาทที่จำเลยเช่าอยู่นี้ จำเลยได้เช่าเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยหรือเพียงแต่อยู่ในฐานะเพื่อประกอบธุรกิจการค้า หรืออุตสาหกรรมเพราะถ้าจำเลยเข้าอยู่ตามความในวรรคหลัง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ
(อ้างฎีกาที่ 1099-1147/91)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 52/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าตึกเพื่ออยู่อาศัยหรือประกอบธุรกิจ: การคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเช่าตึกพิพาทเพื่อประกอบการค้าเป็นส่วนใหญ่ขอให้ขับไล่ แต่โจทก์ยอมรับว่าจำเลยได้อยู่อาศัยในที่เช่าด้วยดังนี้ มีประเด็นเป็นข้อเท็จจริงที่จะต้องพิจารณาต่อไปว่าตึกพิพาทที่จำเลยเช่าอยู่นี้จำเลยได้เช่าเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยหรือเพียงแต่อยู่ในฐานะเพื่อประกอบธุรกิจการค้า หรืออุตสาหกรรม เพราะถ้าจำเลยเข้าอยู่ตามความในวรรคหลังพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ ก็ไม่คุ้มครองจำเลย (อ้างฎีกาที่ 1099/2491,1147/2491)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 11/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าเพื่อใช้เป็นสำนักงานไม่คุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ
บริษัทจำกัดเป็นผู้เช่าเคหะเพื่อใช้เป็นสำนักงานประกอบการค้า แม้จะมีผู้จัดการอยู่ในที่เช่าก็ดี พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ ก็ไม่คุ้มครอง เพราะไม่ได้เช่าเป็นที่อยู่อาศัยตามความหมายแห่ง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 11/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าเพื่อใช้เป็นสำนักงานไม่คุ้มครองตามพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ
บริษัทจำกัดเป็นผู้เช่าเคหะเพื่อใช้เป็นสำนักงานประกอบการค้าแม้จะมีผู้จัดการอยู่ในที่เช่าก็ดีพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ ก็ไม่คุ้มครองเพราะไม่ได้เช่าเป็นที่อยู่อาศัยตามความหมายแห่งพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับใช้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ พิจารณาเจตนาการเช่าเพื่ออยู่อาศัยหรือไม่
โจทก์ผู้ให้เช่ามีหนังสือไปยังจำเลยผู้เช่าเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2488บอกเลิกสัญญาเช่าในวันที่ 31 พฤษภาคม 2489 ในวันใช้พระราชบัญญัติ 2489 จึงยังคงมีสัญญาเช่าระหว่างโจทก์จำเลยอยู่ และโจทก์ได้ยื่นฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2490 คดียังอยู่ในระหว่างพิจารณาตลอดมา พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ 2490 ประกาศใช้เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2490 คดีจึงตกอยู่ในบังคับแห่งมาตรา 4แห่งพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ 2490 ต้องใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้บังคับ
การที่จะวินิจฉัยว่าเป็น 'เคหะ' ตามความหมายในพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน 2490 หรือไม่นั้น จะต้องพิจารณาถึงเจตนาของคู่กรณีในเวลาที่ทำสัญญากัน ประกอบกับเหตุผลแวดล้อมอื่น ๆ รวมกันว่าการเช่าสิ่งปลูกสร้างนั้น เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยหรือมิใช่ การที่ผู้เช่าอยู่ในที่เช่าจะต้องพิจารณาด้วยว่าการอยู่,อยู่ในฐานะอย่างใด
(อ้างฎีกา 1099-1147/2491)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1238/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับข้อเท็จจริงในสัญญาเช่าและการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า กรณีใช้เป็นสำนักงาน
ในคดีแพ่ง เมื่อจำเลยให้การรับตามฟ้องของโจทก์แล้วโจทก์ก็ไม่ต้องสืบพะยานในข้อที่จำเลยรับ.
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเป็นสถานที่ทำการ หาใช่เป็นเคหะไม่ เพราะมิใช่เป็นที่อยู่อาศัย จึงไม่ได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า.
(อ้างฎีกา ที่ 1099,1147/2491)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1238/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าเพื่อใช้เป็นสำนักงานพาณิชย์ ไม่คุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า เมื่อจำเลยให้การรับตามฟ้อง โจทก์ไม่ต้องสืบพยาน
ในคดีแพ่ง เมื่อจำเลยให้การรับตามฟ้องของโจทก์แล้วโจทก์ก็ไม่ต้องสืบพยานในข้อที่จำเลยรับ
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเป็นสถานที่ทำการหาใช่เป็นเคหะไม่เพราะมิใช่เป็นที่อยู่อาศัย จึงไม่ได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ (อ้างฎีกาที่ 1099-1147/2491)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1233-1235/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าก่อนพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า: การขึ้นค่าเช่าตามสัญญาที่ทำไว้ไม่ขัดกฎหมาย
จำเลยเช่าห้องของโจทก์อยู่อาศัยและทำการค้าตั้งแต่ก่อนใช้พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ พ.ศ.2486 โจทก์จำเลยได้ทำสัญญากันฉบับหนึ่งเมื่อตุลาคม 2488 ความว่า ให้ขยายเวลาเช่าให้จำเลยต่อไปอีก 12 เดือน ค่าเช่าตามเดิม และถ้าในเดือนตุลาคม 2489 จำเลยยังคงอยู่ในที่เช่าต่อไป จำเลยจะต้องเสียค่าเช่าเพิ่มให้โจทก์เป็นเดือนละ 100 บาท สัญญานี้สมบูรณ์ใช้ได้ตามกฎหมาย เพราะในวันทำสัญญานั้น ไม่มีกฎหมายใดห้ามไม่ให้ขึ้นค่าเช่า ถ้าการเช่ามิได้ใช้เป็นที่อยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่ตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า 2488 และคดีไม่มีทางจะยกเอาพระราชบัญญัติ ปี 2489 และ 2490 มาบังคับกับสัญญานี้ เพราะได้ทำกันไว้ก่อนแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1233-1235/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าก่อนมี พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า: สิทธิในการปรับขึ้นค่าเช่า
จำเลยเช่าห้องของโจทก์อยู่อาศัยและทำการค้าตั้งแต่ก่อนใช้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ พ.ศ. 2486 โจทก์จำเลยได้ทำสัญญากันฉบับหนึ่งเมื่อ-ตุลาคม 2488 ความว่า ให้ขยายเวลาเช่าให้จำเลยต่อไปอีก 12 เดือน ค่าเช่าตามเดิม และในเดือนตุลาคม 2489 จำเลยยังคงอยู่ในที่เช่าต่อไป จำเลยจะต้องเสียค่าเช่าเพิ่มให้โจทก์เป็นเดือนละ 100 บาท สัญญานี้สมบูรณ์ใช้ได้ตามกฎหมาย เพราะในวันทำสัญญานั้น ไม่มีกฎหมายใดห้ามไม่ให้ขึ้นค่าเช่า ถ้าการเช่ามิได้ใช้เป็นที่อยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่ตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า 2488 และ คดีไม่มีทางจะยกเอา พ.ร.บ.ปี 2489 และ2490 มาบังคับกับสัญญานี้ เพราะได้ทำกันไว้ก่อนแล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1228/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าช่วง, สิทธิผู้เช่า, การบอกเลิกสัญญาเช่า, และผลของ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
ฟ้องของโจทก์กล่าวว่าเจ้าของเดิมโอนที่ให้โจทก์เมื่อเดือนธันวาคม 2488และนับตั้งแต่ ธันวาคม 2488เป็นต้นมา โจทก์ได้ทราบภายหลังว่าจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นผู้เช่าได้กระทำผิดกฎหมายการเช่าและผิดสัญญาการเช่าหลายประการดังนี้ ต้องแปลว่าโจทก์หาว่าจำเลยได้ทำผิดสัญญาตั้งแต่ ธันวาคม 2488 เป็นต้นมา
โจทก์ขอให้จำเลยออกจากห้องเช่า จำเลยมีหนังสือถึงโจทก์ใจความว่า ไม่สามารถจะปฏิบัติตามความประสงค์ของโจทก์ จำเลยจะอยู่ต่อไปจนสิ้นอายุสัญญาเช่า ดังนี้ ข้อความในหนังสือไม่ได้แสดงความยินยอมเลิกใช้ทรัพย์ตามความหมายในพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า
จำเลยเช่าตึกแถวแล้วนำรถยนต์และน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปเก็บไว้ในตึกแถวนั้น เมื่อสัญญาไม่ได้ระบุห้ามไว้จะถือว่าผิดสัญญาไม่ได้
of 53