พบผลลัพธ์ทั้งหมด 527 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 496/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้รับโอนสิทธิเช่ามีอำนาจฟ้องขับไล่ได้ - ผู้ให้เช่าเดิมรวมถึงผู้รับโอนกรรมสิทธิ์
ผู้ให้เช่าเดิมนั้นหมายความถึงผู้รับโอนกรรมสิทธิ์มาจากเจ้าของผู้ให้เช่าเดิมด้วย (อ้างฎีกาที่ 845/2490)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 429/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้พื้นที่เช่าเพื่อการค้าหรือไม่ และผลกระทบต่อความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากสถานที่เช่าโดยอ้างเหตุว่าสัญญาเช่าสิ้นอายุ จำเลยต่อสู้ว่าได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯลฯ เพราะจำเลยใช้เป็นที่อยู่อาศัย แต่โจทก์เถียงว่าจำเลยใช้เป็นที่ทำการค้าดังนี้ แม้ในฟ้องโจทก์จะมิได้บรรยายว่าจำเลยได้ใช้สถานที่เช่าทำการค้าก็ดีคดีย่อมมีประเด็นที่คู่ความจะต้องนำสืบว่าเป็นที่อยู่อาศัยหรือทำการค้า
เมื่อจำเลยใช้อาคารเพื่อการค้า จึงไม่เป็นเคหะตามความหมายแห่ง พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า 2488 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้อยู่ในขณะที่โจทก์ฟ้องคดี จำเลยย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า 2486และไม่อาจยกพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าปี 2489 มาใช้บังคับเพราะเป็นกฎหมายที่เพิ่งใช้ภายหลังเวลาที่จำเลยได้ครอบครองอาคารมาอย่างละเมิดฉะนั้น พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าปี 2490 ก็จะนำมาย้อนหลังบังคับไม่ได้ในกรณีเช่นนี้
เมื่อจำเลยใช้อาคารเพื่อการค้า จึงไม่เป็นเคหะตามความหมายแห่ง พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า 2488 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้อยู่ในขณะที่โจทก์ฟ้องคดี จำเลยย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า 2486และไม่อาจยกพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าปี 2489 มาใช้บังคับเพราะเป็นกฎหมายที่เพิ่งใช้ภายหลังเวลาที่จำเลยได้ครอบครองอาคารมาอย่างละเมิดฉะนั้น พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าปี 2490 ก็จะนำมาย้อนหลังบังคับไม่ได้ในกรณีเช่นนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 296/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าเพื่อค้าไม่อยู่ในบังคับ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า และสัญญาที่ไม่มีลายมือชื่อผู้ให้เช่าไม่มีผลผูกพัน
การเช่าเคหะเพื่อประกอบกิจการค้า มิใช่เพื่ออยู่อาศัย ไม่อยู่ในบังคับแห่ง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ
สัญญาเช่าที่มีลายมือชื่อผู้เช่าแต่ฝ่ายเดียว ไม่มีลายมือชื่อฝ่ายผู้ให้เช่านั้น ผู้เช่าจะฟ้องร้องผู้ให้เช่า เพื่อให้ปฏิบัติตามสัญญาเช่านั้นไม่ได้ และจะฟ้องเรียกค่าเสียหายในการไม่ได้ ใช้ทรัพย์ที่เช่าก็ไม่ได้
สัญญาเช่าที่มีลายมือชื่อผู้เช่าแต่ฝ่ายเดียว ไม่มีลายมือชื่อฝ่ายผู้ให้เช่านั้น ผู้เช่าจะฟ้องร้องผู้ให้เช่า เพื่อให้ปฏิบัติตามสัญญาเช่านั้นไม่ได้ และจะฟ้องเรียกค่าเสียหายในการไม่ได้ ใช้ทรัพย์ที่เช่าก็ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 296/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าเพื่อค้าไม่อยู่ในบังคับคุมค่าเช่า และสัญญาที่ไม่มีลายมือชื่อผู้ให้เช่าไม่มีผลผูกพัน
การเช่าเคหะเพื่อประกอบกิจการค้า มิใช่เพื่ออยู่อาศัยไม่อยู่ในบังคับแห่ง พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ
สัญญาเช่าที่มีลายมือชื่อผู้เช่าแต่ฝ่ายเดียว ไม่มีลายมือชื่อฝ่ายผู้ให้เช่านั้นผู้เช่าจะฟ้องร้องผู้ให้เช่าเพื่อให้ปฏิบัติตามสัญญาเช่านั้นไม่ได้และจะฟ้องเรียกค่าเสียหายในการไม่ได้ใช้ทรัพย์ที่เช่าไม่ได้
สัญญาเช่าที่มีลายมือชื่อผู้เช่าแต่ฝ่ายเดียว ไม่มีลายมือชื่อฝ่ายผู้ให้เช่านั้นผู้เช่าจะฟ้องร้องผู้ให้เช่าเพื่อให้ปฏิบัติตามสัญญาเช่านั้นไม่ได้และจะฟ้องเรียกค่าเสียหายในการไม่ได้ใช้ทรัพย์ที่เช่าไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 226/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดุลยพินิจคณะกรรมการควบคุมค่าเช่า: ศาลต้องเคารพและพิจารณาตามสิทธิทั่วไป
พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ เป็นกฏหมายที่ออกเพื่อยับยั้งการใช้สอยและแสวงหาดอกผลจากทรัพย์ สินของเจ้าของกรรมสิทธิไว้ชั่วคราว กล่าว+บทบัญญัติใน ป.พ.พ.ม. 1336 +อยู่ภายในบังคับแห่ง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ แต่ได้มีข้อยกเว้นไว้ในบางกรณีตามมาตรา 16 แห่ง พ.ร.บ. นั้น
เมื่อ คณะกรรมการควบคุมค่าเช่าได้ใช้ดุลยพินิจให้ผู้ให้เช่าเดิมเข้าอยู่อาศัยในเคหะของตนแล้ว ก็เท่ากับว่าได้ใช้ดุลยพินิจให้ผู้มีสิทธิของตนตามหลักกฏหมายทัวไปแล้ว และเมื่อไม่มีบทบัญญัติในกฏหมายพิเศษนั้น ให้ศาลมีอำนาจรื้อฟื้นแก้ไขการใช้ดุลยพินิจของคณะกรรมการไว้อย่างไรแล้ว ดุลยพินิจของคณะกรรมการที่ให้ความยินยอมก็+ยุตติเป็นเด็ดขาดเพียงเท่านั้น ศาลย่อม+ต้องพิจารณาข้อพิพาทของคู่ความตามสิทธิในหลักกฏหมาย ทั่วไป.
เมื่อ คณะกรรมการควบคุมค่าเช่าได้ใช้ดุลยพินิจให้ผู้ให้เช่าเดิมเข้าอยู่อาศัยในเคหะของตนแล้ว ก็เท่ากับว่าได้ใช้ดุลยพินิจให้ผู้มีสิทธิของตนตามหลักกฏหมายทัวไปแล้ว และเมื่อไม่มีบทบัญญัติในกฏหมายพิเศษนั้น ให้ศาลมีอำนาจรื้อฟื้นแก้ไขการใช้ดุลยพินิจของคณะกรรมการไว้อย่างไรแล้ว ดุลยพินิจของคณะกรรมการที่ให้ความยินยอมก็+ยุตติเป็นเด็ดขาดเพียงเท่านั้น ศาลย่อม+ต้องพิจารณาข้อพิพาทของคู่ความตามสิทธิในหลักกฏหมาย ทั่วไป.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 226/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดุลพินิจคณะกรรมการควบคุมค่าเช่า: ศาลต้องเคารพเมื่อใช้สิทธิเจ้าของกรรมสิทธิ์แล้ว
พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ เป็นกฎหมายที่ออกเพื่อยับยั้งการใช้สอยและแสวงหาดอกผลจากทรัพย์สินของเจ้าของกรรมสิทธิ์ไว้ชั่วคราวกล่าวคือบทบัญญัติใน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1336 ต้องอยู่ภายในบังคับแห่ง พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ แต่ได้มีข้อยกเว้นไว้ในบางกรณีตามมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติ นั้น
เมื่อคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าได้ใช้ดุลพินิจให้ผู้ให้เช่าเดิมเข้าอยู่อาศัยในเคหะของตนแล้ว ก็เท่ากับว่าได้ใช้ดุลพินิจให้ผู้มีสิทธิในทรัพย์สินได้ใช้สิทธิของตนตามหลักกฎหมายทั่วไปแล้ว และเมื่อไม่มีบทบัญญัติในกฎหมายพิเศษนั้น ให้ศาลมีอำนาจรื้อฟื้นแก้ไขการใช้ดุลพินิจของคณะกรรมการไว้อย่างไรแล้ว ดุลพินิจของคณะกรรมการที่ให้ความยินยอมก็ต้องยุติเป็นเด็ดขาดเพียงนั้น ศาลย่อมจะต้องพิจารณาข้อพิพาทของคู่ความตามสิทธิในหลักกฎหมายทั่วไป
เมื่อคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าได้ใช้ดุลพินิจให้ผู้ให้เช่าเดิมเข้าอยู่อาศัยในเคหะของตนแล้ว ก็เท่ากับว่าได้ใช้ดุลพินิจให้ผู้มีสิทธิในทรัพย์สินได้ใช้สิทธิของตนตามหลักกฎหมายทั่วไปแล้ว และเมื่อไม่มีบทบัญญัติในกฎหมายพิเศษนั้น ให้ศาลมีอำนาจรื้อฟื้นแก้ไขการใช้ดุลพินิจของคณะกรรมการไว้อย่างไรแล้ว ดุลพินิจของคณะกรรมการที่ให้ความยินยอมก็ต้องยุติเป็นเด็ดขาดเพียงนั้น ศาลย่อมจะต้องพิจารณาข้อพิพาทของคู่ความตามสิทธิในหลักกฎหมายทั่วไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 178/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานที่เช่าใช้เป็นสำนักงานและที่อยู่อาศัยเข้าข่ายเคหะตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
บริษัทจำกัดเช่าสถานที่เป็นสาขาสำนักงานของบริษัท แลสำหรับเสมียนพนักงานของบริษัทอยู่อาศัย เวลาเช่ากันนั้นรู้กันอยู่ว่า จะใช้เป็นที่อาศัย ดังนี้ สถานที่เช่านั้นย่อมเป็นเคหะตามความใน พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ 2489
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 178/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าพื้นที่เพื่อใช้เป็นสำนักงานและที่อยู่อาศัยของพนักงาน ถือเป็นเคหะภายใต้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
บริษัทจำกัดเช่าสถานที่เป็นสาขาสำนักงานของบริษัทและสำหรับเสมียนพนักงานของบริษัทอยู่อาศัย เวลาเช่ากันนั้นรู้กันอยู่ว่าจะใช้เป็นที่อาศัยดังนี้สถานที่เช่านั้นย่อมเป็นเคหะตามความใน พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯลฯ 2489
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 166/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกเลิกสัญญาเช่าก่อนบังคับใช้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ทำให้ผู้เช่าย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายฉบับดังกล่าว
การเช่าที่ไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ในภาวะคับขัน พ.ศ. 2486 หรือ 2488 นั้น ถ้ามีการบอกเลิกการเช่ากันโดยชอบก่อนแล้ว แต่ผู้เช่าไม่ยอมออกจากที่เช่าจนใช้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ 2486 ถือว่าไม่ได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ฉบับใหม่นี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 118/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอนุญาตให้เข้าอยู่อาศัยตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า: ศาลไม่รับวินิจฉัยข้อโต้แย้งความจำเป็นของผู้ให้เช่า หากคณะกรรมการปฏิบัติตามกฎหมาย
คณะกรรมการควบคุมค่าเช่าฯได้มีมติอนุญาติให้ผู้เช่า เข้าอยู่ในบ้าน ซึ่งผู้เช่า เช่าอยู่ตามความใน พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขันมาตรา 16(6) แล้ว ผู้เช่าไม่ยอมออกจากที่เช่า จะมารื้อฟื้นข้อเถียงว่า ผู้ให้เช่าไม่มีความจำเป็นจะเข้าอยู่ในที่เช่า คณะกรรมการออกคำสั่งโดยหลงผิดนั้น ไม่เป็นเหตุที่ศาลควรรับวินิจฉัย ในเมื่อไม่ปรากฎว่าคณะกรรมการได้กระทำนอกเหนือความใน พ.ร.บ.ที่กล่าวแต่อย่างใด