พบผลลัพธ์ทั้งหมด 527 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 386/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนขายทรัพย์สินและสัญญาเช่า: ผลกระทบต่อสิทธิผู้เช่าเดิม
เดิมที่ดินและตึกพิพาทเป็นของโจทก์ ให้ผู้ร้องเช่าอยู่อาศัยอันได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯลฯมาก่อนแล้วต่อมาโจทก์โอนขายตึกให้จำเลยโดยไม่ขายที่ดินจำเลยรับซื้อตึกแล้วขอเช่าที่ดินเพียง 1 ปี พอซื้อแล้วจำเลยก็ผิดสัญญาไม่ชำระค่าเช่าที่ดินให้โจทก์ โจทก์จึงฟ้องและศาลพิพากษาขับไล่จำเลย ดังนี้ เป็นอุบายที่จะขับไล่ผู้ร้อง จะเอาผลคำพิพากษานั้นมาบังคับขับไล่ผู้ร้องด้วยหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1237/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าที่ดินเพื่ออยู่อาศัยและการประกอบอาชีพเสริมที่ไม่ถึงขั้นเป็นการค้า ศาลคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
จำเลยเช่าที่ดิน ปลูกอาคารโดยจำเลยและบุตรสาวมีอาชีพรับจ้างฟั่นธูปโดยเนื้อธูปและก้านธูปเป็นของผู้ว่าจ้างและรับจ้างสานกระเป๋าหวาย โดยเส้นหวายที่เหลาแล้วเป็นผู้ว่าจ้าง ดังนี้ยังหาพอแสดงว่า มีวัตถุประสงค์ใช้ที่เช่าเป็นสถานที่ประกอบธุรกิจหรือการค้าไม่จำเลยย่อมได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1237/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคุ้มครองค่าเช่าเมื่อใช้ที่ดินประกอบอาชีพที่ไม่ใช่การค้า
จำเลยเช่าที่ดินปลูกอาคารโดยจำเลยและบุตรสาวมีอาชีพรับจ้างฟั่นธูปโดยเนื้อธูปและก้านธูปเป็นของผู้ว่าจ้างและรับจ้างสานกระเป๋าหวาย โดยเส้นหวายที่เหลาแล้วเป็นของผู้ว่าจ้าง ดังนี้ ยังหาพอแสดงว่ามีวัตถุประสงค์ใช้ที่เช่าเป็นสถานที่ประกอบธุระกิจหรือการค้าไม่จำเลยย่อมได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 910/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ศาลไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยประเด็นที่ศาลล่างงดสืบพยาน หากศาลอุทธรณ์ยกฟ้องด้วยเหตุอื่น
ในกรณีที่ศาลชั้นต้นงดสืบพยานจำเลยและฟังว่าห้องพิพาทไม่เป็นเคหะ แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์โดยอาศัยเหตุอื่นนั้น จำเลยจะฎีกาขอให้ศาลชั้นต้นสืบพยานจำเลยเพื่อจะได้วินิจฉัยว่าการเช่าเป็นเคหะหรือไม่ ศาลฎีกาไม่จำต้องพิจารณาฎีกาคัดค้านคดีของจำเลยต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 910/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกฟ้องโดยเหตุอื่น ทำให้ศาลไม่ต้องวินิจฉัยประเด็นที่ยังไม่ได้ตัดสินในชั้นต้น
ในกรณีที่ศาลชั้นต้นงดสืบพยานจำเลยและฟังว่าห้องพิพาทไม่เป็นเคหะ แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์โดยอาศัยเหตุอื่นนั้น จำเลยจะฎีกาขอให้ศาลชั้นต้นสืบพยานจำเลยเพื่อจะได้วินิจฉัยว่าการเช่าเป็นเคหะหรือไม่ ศาลฎีกาไม่จำต้องพิจารณาฎีกาคัดค้านคดีของจำเลยต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 728-730/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าเพื่ออยู่อาศัย vs. เช่าเพื่อค้า: เหตุผลการเช่าและสภาพการใช้งานเป็นหลัก
ในการที่จะวินิจฉัยว่าการเช่ารายใดเป็นการเช่าเพื่ออยู่อาศัยอันได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ หรือเป็นการเช่าเพื่อประกอบธุรกิจการค้าอันมีผลตรงข้ามนั้น จะถือหลักเกณฑ์ตายตัวแบบองค์ความผิดในทางอาญา เป็นต้นว่าที่เช่าอยู่ในทำเลการค้า จดทะเบียนการค้า ยอมให้ขึ้นค่าเช่าได้เรื่อยมา ถือว่าเป็นการเช่าเพื่อประกอบธุรกิจการค้าเช่นนั้นไม่ได้ เหตุผลเหล่านี้เป็นเพียงเครื่องประกอบข้อวินิจฉัยทั่วๆ ไปเท่านั้น และในเรื่องจดทะเบียนการค้า เมื่อผู้เช่าไปจดทะเบียนประเภทตรงตามที่จำเลยกระทำอยู่ เพื่อความสะดวกในการเรียกเก็บภาษีของเจ้าพนักงานส่วนหนึ่งโดยเฉพาะ ไม่เป็นการเด็ดขาดตายตัวว่าเป็นการเช่าเพื่อประกอบธุรกิจการค้าขึ้นมาได้
หลักสำคัญอยู่ที่เหตุผลแห่งการเช่าและการค้าของผู้เช่าแต่ละรายในห้องเช่านั้นๆ ว่ามีอยู่มากหรือน้อยเพียงใด ตลอดจนรายได้จากการค้าดังกล่าว อันปรากฏจากพยานหลักฐานในสำนวนประกอบกับสภาพความจริงตามที่ศาลได้ไปตรวจดูสถานที่มานั้น ซึ่งควรที่จะได้บันทึกโดยละเอียดและชัดแจ้ง ย่อมชี้ถึงความจริงได้ว่าเป็นการเช่าเพื่อประกอบธุรกิจการค้าโดยตรง หรือเป็นการเช่าเพื่ออยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่ หากแต่มีการค้าปะปนบ้างเล็กๆ น้อยๆ เพียงเพื่อการดำรงชีวิตของตนเองหรือครอบครัวเท่านั้น ซึ่งเหตุผลเหล่านี้ล้วนแต่เป็นข้อเท็จจริงโดยเฉพาะของแต่ละเรื่อง ไม่ใช่หลักเกณฑ์ตายตัวที่จะนำไปใช้กันได้ในทุกเรื่อง
หลักสำคัญอยู่ที่เหตุผลแห่งการเช่าและการค้าของผู้เช่าแต่ละรายในห้องเช่านั้นๆ ว่ามีอยู่มากหรือน้อยเพียงใด ตลอดจนรายได้จากการค้าดังกล่าว อันปรากฏจากพยานหลักฐานในสำนวนประกอบกับสภาพความจริงตามที่ศาลได้ไปตรวจดูสถานที่มานั้น ซึ่งควรที่จะได้บันทึกโดยละเอียดและชัดแจ้ง ย่อมชี้ถึงความจริงได้ว่าเป็นการเช่าเพื่อประกอบธุรกิจการค้าโดยตรง หรือเป็นการเช่าเพื่ออยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่ หากแต่มีการค้าปะปนบ้างเล็กๆ น้อยๆ เพียงเพื่อการดำรงชีวิตของตนเองหรือครอบครัวเท่านั้น ซึ่งเหตุผลเหล่านี้ล้วนแต่เป็นข้อเท็จจริงโดยเฉพาะของแต่ละเรื่อง ไม่ใช่หลักเกณฑ์ตายตัวที่จะนำไปใช้กันได้ในทุกเรื่อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 271/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ: ประเด็นต่างกัน แม้เคยเป็นบริวาร ไม่ถือฟ้องซ้ำตามมาตรา 148(1) ว.พ.พ.
ชั้นบังคับคดีแพ่งคดีหนึ่งจำเลยเคยถูกศาลสั่งให้ขับไล่ให้ออกจากห้องเช่าโดยว่าเป็นบริวารนายงักย้งจำเลยในคดีแต่จำเลยได้ต่อสู้ว่าไม่ใช่ซึ่งศาลได้ไต่สวนแล้วสั่งว่าจำเลยไม่ใช่บริวารของนายงักย้งแต่จำเลยได้เข้าอยู่อาศัยโดยเช่าจากโจทก์และสามีต่อมาโจทก์มาฟ้องขับไล่จำเลยอีกได้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำเพราะมีประเด็นคนละประเด็นเพราะในคดีก่อนประเด็นมีเพียงว่าจำเลยเป็นบริวารนายงักย้งหรือไม่ทั้งคดีเข้าข้อยกเว้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 271/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ: ประเด็นต่างกัน แม้เคยถูกกล่าวอ้างเป็นบริวารในคดีก่อน ไม่ถือฟ้องซ้ำตามกฎหมาย
ขั้นบังคับคดีแพ่งคดีหนึ่งจำเลยเคยถูกศาลสั่งให้ขับไล่ให้ออกจากห้องเช่าโดยว่าเป็นบริวารนายงักย้งจำเลยในคดี แต่จำเลยได้ต่อสู้ว่าไม่ใช่ ซึ่งศาลได้ไต่สวนแล้วสั่งว่า จำเลยไม่ใช่บริวารของนายงักย้ง แต่จำเลยได้เข้าอยู่อาศัยโดยเช่าจากโจทก์และสามี ต่อมาโจทก์มาฟ้องขับไล่จำเลยอีกได้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ เพราะมีประเด็นคนละประเด็น เพราะในคดีก่อนประเด็นมีเพียงว่าจำเลยเป็นบริวารนายงักย้นหรือไม่ ทั้งคดีเข้าข้อยกเว้นตาม ประมวล.วิ.แพ่ง มาตรา 148(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 121/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการเช่าช่วงและการพิสูจน์สถานะผู้เช่า: การไต่สวนข้อเท็จจริงเพื่อคุ้มครองสิทธิ
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยผู้เช่าอ้างว่าจำเลยเอาไปให้ผู้ร้องเช่าช่วง จำเลยไม่สู้คดี ในชั้นบังคับคดีให้ขับไล่บริวารจำเลย ผู้ร้องซึ่งอยู่ในเรือนรายนี้ร้องว่าโจทก์เก็บค่าเช่าจากผู้ร้องตลอดมา ไม่ใช่บริวารจำเลย ศาลทำการไต่สวน เมื่อตัวผู้ร้องและสามีผู้ร้องเบิกความแสดงว่า สามีผู้ร้องเป็นผู้เช่า ผู้ร้องเป็นผู้อยู่ประจำ ได้ความเพียงเท่านี้ศาลจะด่วนสั่งให้งดสืบพยานเสีย โดยถือว่าผู้ร้องไม่ใช่ผู้เช่า ไม่มีสิทธิคัดค้านการบังคับดคีนั้น ไม่ได้ เพราะผู้ร้องและสามีผู้ร้องมีส่วนได้เสียในสิทธิที่ได้อยู่ในเรือนด้วยกัน คดีต้องฟังข้อเท็จจริงต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 121/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิผู้เช่าช่วงและการพิสูจน์สถานะการเช่า: ศาลต้องรับฟังข้อเท็จจริงให้ครบถ้วนเพื่อวินิจฉัยสิทธิ
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยผู้เช่าอ้างว่าจำเลยเอาไปให้ผู้ร้องเช่าช่วงจำเลยไม่สู้คดี ในชั้นบังคับคดีให้ขับไล่บริวารจำเลยผู้ร้องซึ่งอยู่ในเรือนรายนี้ร้องว่าโจทก์เก็บค่าเช่าจากผู้ร้องตลอดมาไม่ใช่บริวารจำเลยศาลทำการไต่สวนเมื่อตัวผู้ร้องและสามีผู้ร้องเบิกความแสดงว่าสามีผู้ร้องเป็นผู้เช่าผู้ร้องเป็นผู้อยู่ประจำได้ความเพียงเท่านี้ศาลจะด่วนสั่งให้งดสืบพยานเสียโดยถือว่าผู้ร้องไม่ใช่ผู้เช่า ไม่มีสิทธิคัดค้านการบังคับคดีนั้น ไม่ได้ เพราะผู้ร้องและสามีผู้ร้องมีส่วนได้เสียในสิทธิที่ได้อยู่ในเรือนด้วยกันคดีต้องฟังข้อเท็จจริงต่อไป