คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน พ.ศ.2489

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 527 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 32/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าเพื่ออยู่อาศัย แม้มีเจตนาทำการค้าบ้าง ก็ยังได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายควบคุมค่าเช่า
แม้หนังสือสัญญาเช่าจะระบุไว้ว่าเช่าเพื่อใช้ทำการค้าก็ย่อมนำสืบความจริงว่าได้ใช้เป็นที่อยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่อันได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขันฯได้ไม่เป็นการสืบแก้ไขเปลี่ยนแปลงเอกสารอันต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 32/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าที่ดินเพื่ออยู่อาศัย แม้ระบุในสัญญาว่าเพื่อการค้า ยังคงได้รับการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
แม้หนังสือสัญญาเช่าจะระบุไว้ว่าเช่าเพื่อใช้ทำการค้าก็ย่อมนำสืบความจริงว่าได้ใช้เป็นที่อยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่ อันได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขันได้ ไม่เป็นการสืบแก้ไขเปลี่ยนแปลงเอกสารอันต้องห้ามตาม ป.วิ.แพ่ง มาตรา 94

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกเลิกสัญญาเช่าและการพิพากษาคดีขับไล่ เมื่อจำเลยยังคงอยู่ในอสังหาริมทรัพย์หลังบอกเลิกสัญญา
เมื่อตึกพิพาทมิได้เป็นเคหะ จำเลยไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ แล้วก็ไม่มีทางที่จำเลยจะมาคัดค้านว่าโจทก์ทำผิด พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯประการใดได้
เมื่อโจทก์บอกเลิกการเช่ากับจำเลยโดยชอบแล้วจำเลยยังขืนอยู่ในตึกของโจทก์โดยไม่มีสิทธิอย่างใดจึงเป็นการจงใจกระทำต่อโจทก์โดยผิดกฎหมายให้โจทก์ต้องเสียหายในสิทธิแห่งทรัพย์สินของโจทก์จึงเป็นการกระทำละเมิดต่อกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกเลิกสัญญาเช่าและการรอนสิทธิในทรัพย์สินของผู้เช่าหลังบอกเลิกสัญญา
เมื่อตึกพิพาทมิได้เป็นเคหะจำเลยไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯแล้ว ก็ไม่มีทางที่จำเลยจะมาคัดค้านว่าโจทก์ทำผิด พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ ประการใดได้ เมื่อโจทก์บอกเลิกการเช่ากับจำเลยโดยชอบแล้ว จำเลยยังขืนอยู่ในตึกของโจทก์โดยไม่มีสิทธิ์อย่างใด จึงเป็นการจงใจกระทำต่อโจทก์โดยผิดกฎหมายให้โจทก์ต้องเสียหายในสิทธิแห่งทรัพย์สินของโจทก์ จึงเป็นการกระทำละเมิดต่อกม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1704/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงการใช้สถานที่จากที่อยู่อาศัยเป็นที่ทำการค้า ทำให้ไม่ได้รับการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
เดิมจำเลยเช่าห้องพิพาทของโจทก์เป็นที่อยู่อาศัย และจำเลยก็ได้อยู่อาศัยตลอดมา แต่ต่อมาจำเลยได้เอาห้องพิพาทให้ผู้อื่นเช่าช่วงทำการค้าโดยจำเลยได้รับประโยชน์จากผู้เช่าช่วงมากมาย ทั้งห้องพิพาทก็เป็นตึกแถวอยู่ในทำเลการค้า และแม้จำเลยยังคงพักพิงอาศัยอยู่ในห้องพิพาทตลอดมา ก็ย่อมเป็นที่เห็นได้ว่า จำเลยได้เปลี่ยนการใช้ห้องพิพาทให้เป็นสถานที่ทำการค้าไปเสียแล้ว ห้องพิพาทจึงไม่เป็นเคหะซึ่งจำเลยจะได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯต่อไปได้ และเมื่อเช่นนี้ การที่จำเลยยังคงพักพิงอาศัยอยู่ในห้องพิพาทตลอดมาก็ดีข้อที่ว่าจำเลยให้เช่าช่วงไปโดยได้รับความยินยอมจากผู้แทนของโจทก์ก็ดี หาเป็นข้อสำคัญที่จะทำให้ห้องพิพาทคงเป็นเคหะตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ อยู่ต่อไปไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1701/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลฎีกาเมื่อศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริงขัดกับข้อจำกัดการอุทธรณ์
เมื่อศาลฎีกาเห็นว่า คำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ไม่ถูกกฎหมาย เพราะเป็นคดีต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ซึ่งศาลอุทธรณ์ต้องฟังข้อเท็จจริงตามศาลชั้นต้น แต่ศาลอุทธรณ์กลับวินิจฉัยฟังข้อเท็จจริงไปเสียตรงข้าม ดังนี้ศาลฎีกามีอำนาจพิพากษาโดยถือตามข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นฟังมา ไปได้ทีเดียว (โดยไม่จำต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาใหม่)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1701/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลฎีกาเมื่อศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริงขัดกับข้อห้ามอุทธรณ์: คดีค่าเช่า
เมื่อศาลฎีกาเห็นว่า คำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ไม่ถูกกฎหมาย เพราะเป็นคดีต้องห้ามอุทธรณ์ ในข้อเท็จจริง ซึ่งศาลอุทธรณ์ต้องฟังข้อเท็จจริงตามศาลชั้นต้น แต่ศาลอุทธรณ์กลับวินิจฉัยฟังข้อเท็จจริงไปเสียตรงข้าม ดังนี้ ศาลฎีกามีอำนาจพิพากษาโดยถือตามข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นฟังมา ไปได้ทีเดียว (โดยไม่จำต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาใหม่).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1539/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิฟ้องของเจ้าของที่ดินย่อมเกิดก่อนกฎหมายใหม่ แม้เขตเทศบาลเปลี่ยนแปลง
แม้จะได้ความว่าเมื่อคดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ได้มีพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงเขตเทศบาล เป็นเหตุให้ที่ดินที่จำเลยเช่าจากโจทก์เข้าอยู่ในเขตเทศบาลก็ตาม ก็ไม่บังเกิดผลให้จำเลยได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ. ควบคุมค่าเช่าฯ เพราะสิทธิของโจทก์ที่จะฟ้องจำเลยได้เกิดขึ้นก่อนวันประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาดังกล่าว และโจทก์ได้ใช้สิทธินั้นฟ้องจำเลยแล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1539/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิโจทก์ฟ้องขับไล่ย่อมมีก่อนกฎหมายควบคุมค่าเช่า แม้เขตเทศบาลเปลี่ยนแปลง
แม้จะได้ความว่าเมื่อคดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ได้มีพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงเขตเทศบาลเป็นเหตุให้ที่ดินที่จำเลยเช่าจากโจทก์เข้าอยู่ในเขตเทศบาลก็ตาม ก็ไม่บังเกิดผลให้จำเลยได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ เพราะสิทธิของโจทก์ที่จะฟ้องจำเลยได้เกิดขึ้นก่อนวันประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาดังกล่าว และโจทก์ได้ใช้สิทธินั้นฟ้องจำเลยแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 592/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวินิจฉัยการเช่าเพื่อการค้าหรือไม่ พิจารณาตามความเป็นจริง ไม่ใช่เพียงตัวอักษรในสัญญาเช่า
การวินิจฉัยการเช่าว่า เพื่ออยู่อาศัยหรือเพื่อค้านั้น
ศาลพิจารณาตามความเป็นจริง ไม่ใช่พิจารณาเฉพาะตัวอักษรในสัญญาเช่าเท่านั้น เช่าอาคารในย่านตลาด และทำการค้าไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ
of 53