คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พระธรรมนูญศาลยุติธรรม ม. 20 วรรคสอง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2892/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำพิพากษาศาลฎีกาถึงที่สุด ห้ามฎีกาคัดค้านได้ แม้ผู้พิพากษาลงนามไม่ครบองค์คณะ
ตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรมมาตรา20วรรคสองบัญญัติไว้ว่าคดีใดซึ่งศาลฎีกาได้พิจารณาพิพากษาแล้วคู่ความหามีสิทธิที่จะทูลเกล้าฯถวายฎีกาคัดค้านคดีนั้นต่อไปอีกไม่ดังนั้นคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีนี้จึงเป็นอันถึงที่สุดแล้วจะร้องคัดค้านหรือขอให้เพิกถอนหาได้ไม่ ผู้พิพากษาศาลฎีกาอีก2คนที่ได้ลงนามในต้นร่างคำพิพากษาแล้วแต่ได้เกษียณอายุราชการ1คนและย้ายไปดำรงตำแหน่งอื่น1คนก่อนที่จะลงลายมือชื่อในคำพิพากษาดังบันทึกของประธานศาลฎีกาต่อท้ายคำพิพากษาศาลฎีกาดังกล่าวการที่องค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาลงลายมือชื่อไว้ในต้นร่างคำพิพากษาย่อมแสดงแจ้งชัดแล้วว่าองค์คณะดังกล่าวมีความเห็นพ้องด้วยกับคำพิพากษานั้นเมื่อประธานศาลฎีกาจดแจ้งเหตุที่พิพากษาคนนั้นมิได้ลงลายมือชื่อโดยอ้างถึงการลงลายมือชื่อในต้นร่างคำพิพากษาเป็นสำคัญจึงเป็นการปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา141วรรคสองถือได้ว่ามีการร่วมปรึกษาครบองค์คณะตามกฎหมายและเป็นคำพิพากษาที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2892/2540 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำพิพากษาศาลฎีกาถึงที่สุด ห้ามยื่นฎีกาคัดค้านซ้ำ องค์คณะครบถ้วนแม้ผู้พิพากษาบางคนย้าย
ตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 20 วรรคสองบัญญัติไว้ว่า คดีใดซึ่งศาลฎีกาได้พิจารณาพิพากษาแล้วคู่ความหามีสิทธิที่จะทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาคัดค้านคดีนั้นต่อไปอีกไม่ ดังนั้น คำพิพากษาศาลฎีกาในคดีนี้จึงเป็นอันถึงที่สุดแล้ว จะร้องคัดค้านหรือขอให้เพิกถอนหาได้ไม่ ผู้พิพากษาศาลฎีกาอีก 2 คนที่ได้ลงนามในต้นร่างคำพิพากษาแล้วแต่ได้เกษียณอายุราชการ 1 คน และย้ายไปดำรงตำแหน่งอื่น 1 คน ก่อนที่จะลงลายมือชื่อในคำพิพากษาดังบันทึกของประธานศาลฎีกาต่อท้ายคำพิพากษาศาลฎีกาดังกล่าวการที่องค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาลงลายมือชื่อไว้ในต้นร่างคำพิพากษาย่อมแสดงแจ้งชัดแล้วว่าองค์คณะดังกล่าวมีความเห็นพ้องด้วยกับคำพิพากษานั้น เมื่อประธานศาลฎีกาจดแจ้งเหตุที่พิพากษาคนนั้นมิได้ลงลายมือชื่อโดยอ้างถึงการลงลายมือชื่อในต้นร่างคำพิพากษาเป็นสำคัญ จึงเป็นการปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 141 วรรคสองถือได้ว่ามีการร่วมปรึกษาครบองค์คณะตามกฎหมายและเป็นคำพิพากษาที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2892/2540 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำพิพากษาศาลฎีกาถึงที่สุด และการร่วมปรึกษาขององค์คณะผู้พิพากษา
ตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 20 วรรคสอง บัญญัติไว้ว่า คดีใดซึ่งศาลฎีกาได้พิจารณาพิพากษาแล้ว คู่ความหามีสิทธิที่จะทูลเกล้าฯถวายฎีกาคัดค้านคดีนั้นต่อไปอีกไม่ ดังนั้น คำพิพากษาศาลฎีกาในคดีนี้จึงเป็นอันถึงที่สุดแล้ว จะร้องคัดค้านหรือขอให้เพิกถอนหาได้ไม่
ผู้พิพากษาศาลฎีกาอีก 2 คนที่ได้ลงนามในต้นร่างคำพิพากษาแล้วแต่ได้เกษียณอายุราชการ 1 คน และย้ายไปดำรงตำแหน่งอื่น 1 คน ก่อนที่จะลงลายมือชื่อในคำพิพากษา ดังบันทึกของประธานศาลฎีกาต่อท้ายคำพิพากษาศาลฎีกาดังกล่าว การที่องค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาลงลายมือชื่อไว้ในต้นร่างคำพิพากษาย่อมแสดงแจ้งชัดแล้วว่าองค์คณะดังกล่าวมีความเห็นพ้องด้วยกับคำพิพากษานั้น เมื่อประธานศาลฎีกาจดแจ้งเหตุที่ผู้พิพากษาคนนั้นมิได้ลงลายมือชื่อโดยอ้างถึงการลงลายมือชื่อในต้นร่างคำพิพากษาเป็นสำคัญ จึงเป็นการปฏิบัติตาม ป.วิ.พ.มาตรา 141วรรคสอง ถือได้ว่ามีการร่วมปรึกษาครบองค์คณะตามกฎหมายและเป็นคำพิพากษาที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 85/2489

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดในการฎีกา: ประเด็นที่เคยตัดสินแล้ว และประเด็นใหม่ที่ไม่เคยยกขึ้นในศาลอุทธรณ์
ปัญหาข้อใดที่ศาลฎีกาได้วินิจฉัยชี้ขาดไปแล้วจะฎีกาคัดค้านอีกไม่ได้
ปัญหาใดที่คู่ความมิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ จะฎีกาไม่ได้ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา249