คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 31

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 48 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3854/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกักขังแทนค่าปรับสำหรับความผิดหลายกระทง ต้องเฉลี่ยเวลาและไม่เกินอัตราสูงสุดตามกฎหมาย
ศาลพิพากษาลงโทษปรับจำเลย 5 คนโดยรวมปรับ เมื่อจะต้องกักขังแทนค่าปรับ แม้จำเลยจะถูกลงโทษปรับในความผิดหลายกระทงก็คงกักขังจำเลยทุกคนแทนค่าปรับได้ไม่เกินสองปีตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 30 โดยต้องเฉลี่ยกักขังไปตามสัดส่วน ของตัวจำเลย และเมื่อรวมจำนวนวันที่ถูกกักขังของจำเลยทุกคนแล้ว ต้องไม่เกินสองปีตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 30

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3854/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกักขังแทนค่าปรับ: การรวมโทษปรับหลายกระทงและการเฉลี่ยระยะเวลา
ศาลพิพากษาลงโทษปรับจำเลย 5 คนโดยรวมปรับ เมื่อจะต้องกักขังแทนค่าปรับ แม้จำเลยจะถูกลงโทษปรับในความผิดหลายกระทงก็คงกักขังจำเลยทุกคนแทนค่าปรับได้ไม่เกินสองปีตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 30 โดยต้องเฉลี่ยกักขังไปตามสัดส่วนของตัวจำเลย และเมื่อรวมจำนวนวันที่ถูกกักขังของจำเลยทุกคนแล้วต้องไม่เกินสองปีตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 30

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2642/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษปรับผู้กระทำผิด พ.ร.บ.ยาสูบ หลายคน ให้ปรับเรียงรายตัวบุคคลตามประมวลกฎหมายอาญา
พระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. 2509 มาตรา 49 บัญญัติเรื่องโทษว่าผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 19 มาตรา 20 ต้องระวางโทษปรับสิบ เท่าของค่าแสตมป์ยาสูบที่จะต้องปิดหรือที่ยังขาดอยู่แต่ ต้องไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยบาทถ้าเป็นบุหรี่ซิกาแรตที่ผลิต ในประเทศและมิได้ประกาศกำหนดราคาขายปลีกไว้ต้อง ระวางโทษปรับกรัมละสองบาทแต่ต้องไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยบาทดังนี้ย่อมเห็นได้ว่าผู้กระทำผิดพระราชบัญญัติยาสูบฐานนี้จะต้องถูกลงโทษปรับเป็นจำนวนสิบเท่าของค่าแสตมป์ยาสูบที่จะต้องปิด มิได้มีข้อจำกัดว่าถ้ามีผู้ร่วมกระทำผิดหลายคนให้ปรับรวมกัน ตามค่าแสตมป์ยาสูบที่จะต้องปิดทั้ง ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 17 ได้บัญญัติให้ใช้บังคับบทบัญญัติ ในภาค 1 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ในกรณีความผิดตามกฎหมายอื่น ด้วยคดีพระราชบัญญัติยาสูบมิได้บัญญัติ ไว้เป็นอย่างอื่น จึงต้องลงโทษปรับจำเลยทั้งสองเรียงตามรายตัวบุคคล ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 31(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2528)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2642/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษปรับผู้กระทำผิด พ.ร.บ.ยาสูบ หลายคน ศาลต้องปรับเรียงรายตัวบุคคลตามประมวลกฎหมายอาญา
พระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. 2509 มาตรา 49 บัญญัติเรื่องโทษว่าผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 19 มาตรา 20 ต้องระวางโทษปรับสิบ เท่าของค่าแสตมป์ยาสูบที่จะต้องปิดหรือที่ยังขาดอยู่แต่ ต้องไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยบาทถ้าเป็นบุหรี่ซิกาแรตที่ผลิต ในประเทศและมิได้ประกาศกำหนดราคาขายปลีกไว้ต้อง ระวางโทษปรับกรัมละสองบาทแต่ต้องไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยบาท ดังนี้ย่อมเห็นได้ว่าผู้กระทำผิดพระราชบัญญัติยาสูบฐานนี้จะต้องถูกลงโทษปรับเป็นจำนวนสิบเท่าของค่าแสตมป์ยาสูบที่จะต้องปิด มิได้มีข้อจำกัดว่าถ้ามีผู้ร่วมกระทำผิดหลายคนให้ปรับรวมกัน ตามค่าแสตมป์ยาสูบที่จะต้องปิดทั้ง ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 17 ได้บัญญัติให้ใช้บังคับบทบัญญัติ ในภาค 1 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ในกรณีความผิดตามกฎหมายอื่นด้วยคดีพระราชบัญญัติยาสูบมิได้บัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น จึงต้องลงโทษปรับจำเลยทั้งสองเรียงตามรายตัวบุคคล ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 31 (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2528)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3389/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษปรับในความผิดตาม พ.ร.บ.ขนส่งทางบก ต้องปรับตามตัวบุคคล ไม่รวมกัน
พระราชบัญญัติการขนส่งทางบก มาตรา 40 และมาตรา 138 ที่โจทก์ฟ้องไม่ได้บัญญัติเกี่ยวกับการลงโทษปรับไว้เป็นอย่างอื่น จึงต้องนำประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 31 มาใช้บังคับ โดยต้องปรับจำเลยทั้งสามเรียงตามรายตัวบุคคลไป จะปรับจำเลยทั้งสามรวมกันไม่ได้
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1339/2506)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3389/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษปรับในความผิด พ.ร.บ.ขนส่งทางบก ต้องปรับตามตัวบุคคลตามประมวลกฎหมายอาญา
พระราชบัญญัติการขนส่งทางบก มาตรา 40 และมาตรา 138ที่โจทก์ฟ้องไม่ได้บัญญัติเกี่ยวกับการลงโทษปรับไว้เป็น อย่างอื่น จึงต้องนำประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 31 มา ใช้บังคับ โดยต้องปรับจำเลยทั้งสามเรียงตามรายตัวบุคคล ไป จะปรับจำเลยทั้งสามรวมกันไม่ได้ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1339/2506)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 925/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษปรับในความผิดฆ่าสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องปรับตามจำนวนสัตว์ที่ฆ่าต่อจำเลยแต่ละคน
โทษปรับฐานฆ่าสัตว์ไม่รับอนุญาตตามมาตรา 18 พระราชบัญญัติควบคุมการฆ่าสัตว์และจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ. 2502 ไม่มีข้อความบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่นอันจะแสดงให้เห็นว่า ไม่ต้องการให้นำบทบัญญัติในภาค 1 แห่งประมวลกฎหมายอาญามาใช้ ในกรณีความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ จึงต้องนำประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 31 มาใช้บังคับแก่โทษปรับตามพระราชบัญญัตินี้ด้วย ฉะนั้น แม้กฎหมายให้ลงโทษปรับเรียงตัวสัตว์ที่ฆ่า เมื่อมีผู้กระทำผิดหลายคนในความผิดอันเดียวกัน ศาลก็ต้องลงโทษปรับเรียงตามรายตัวบุคคลด้วย โดยปรับจำเลยแต่ละคนเรียงตามรายตัวสัตว์ที่ร่วมกันฆ่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 925/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษปรับสำหรับความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมการฆ่าสัตว์ ต้องปรับตามจำนวนสัตว์ที่ฆ่า และปรับเรียงรายตัว
โทษปรับฐานฆ่าสัตว์ไม่รับอนุญาตตามมาตรา 18 พระราชบัญญัติควบคุมการฆ่าสัตว์และจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ. 2502 ไม่มีข้อความบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่นอันจะแสดงให้เห็นว่า ไม่ต้องการให้นำบทบัญญัติในภาค 1 แห่งประมวลกฎหมายอาญามาใช้ ในกรณีความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ จึงต้องนำประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 31 มาใช้บังคับแก่โทษปรับตามพระราชบัญญัตินี้ด้วย ฉะนั้น แม้กฎหมายให้ลงโทษปรับเรียงตัวสัตว์ที่ฆ่า เมื่อมีผู้กระทำผิดหลายคนในความผิดอันเดียวกัน ศาลก็ต้องลงโทษปรับเรียงตามรายตัวบุคคลด้วย โดยปรับจำเลยแต่ละคนเรียงตามรายตัวสัตว์ที่ร่วมกันฆ่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2247/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ โทษตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469: ปรับรวมสำหรับความผิดครั้งเดียว
โทษตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 27 ทวิแม้จะมิได้บัญญัติว่าสำหรับความผิดครั้งหนึ่ง ๆ เหมือนดังที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 27 ก็ตามก็มีความหมายว่าเป็นโทษสำหรับความผิดครั้งหนึ่ง ๆ เช่นเดียวกัน จึงต้องปรับจำเลยทุกคนรวมกัน จะนำเอาประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 31 ที่ให้ปรับเรียงตามตัวบุคคลมาในกรณีนี้ไม่ได้เพราะ พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 ได้บัญญัติไว้เป็นพิเศษแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 401/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการปรับโทษในความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร การปรับโทษต่อความผิดต่อครั้งและจำเลย
พระราชบัญญัติศุลกากร มาตรา 27 บัญญัติเรื่องโทษไว้ว่า สำหรับความผิดครั้งหนึ่ง ๆ ให้ปรับเป็นเงิน 4 เท่าราคาของซึ่งรวมค่าอากรเข้าด้วยแล้ว และมาตรา 27 ทวิ เป็นบทบัญญัติต่อท้าย และเป็นความผิดต่อเนื่องจากมาตรา 27 แม้ในมาตรา 27 ทวิจะมิได้บัญญัติถึงข้อความเจาะจงลงไปว่าความผิดครั้งหนึ่ง ๆ ด้วยก็ตาม ก็ย่อมมีความหมายเช่นเดียวกับมาตรา 27 ฉะนั้น ถ้าศาลจะปรับจำเลยเรียงตัวคนละ 4 เท่าราคาของรวมค่าอากรเข้าด้วยแล้ว ก็จะเป็นการปรับจำเลยสำหรับความผิดครั้งหนึ่ง ๆ เกินกว่า 4 เท่าขัดต่อบทกฎหมายดังกล่าว และมาตรา 120 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากรบัญญัติไว้เป็นพิเศษว่า เมื่อบทบัญญัติในพระราชบัญญัตินี้แตกต่างกับกฎหมายอื่น ให้ยกเอาบทพระราชบัญญัตินี้ขึ้นบังคับ จึงเอามาตรา 31 แห่งประมวลกฎหมายอาญามาบังคับไม่ได้ จึงต้องปรับจำเลยรวมกันไม่เกิน 4 เท่าราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้ว
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 4/2509).
of 5