พบผลลัพธ์ทั้งหมด 8 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4649/2548 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาล: ความผิดฐานยักยอกทรัพย์ต้องเกิดขึ้นในเขตอำนาจศาล จึงจะรับคดีได้
จำเลยมิได้ยักยอกเงินของโจทก์ที่จังหวัดเชียงราย จำเลยรับเงินและเช็คจากลูกค้าของโจทก์ที่จังหวัดสมุทรปราการแล้วไม่นำส่งให้โจทก์ที่จังหวัดเชียงราย แต่กลับนำเงินและเช็คเข้าบัญชีเงินฝากของจำเลยที่ธนาคารซึ่งตั้งอยู่ที่กรุงเทพมหานคร แม้อาจจะเป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์ แต่ความผิดดังกล่าวก็มิได้เกิดขึ้น อ้างหรือเชื่อว่าได้เกิดขึ้นในจังหวัดเชียงราย อันจะทำให้ศาลจังหวัดเชียงรายมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีได้ การที่จำเลยมีเจตนาทุจริต โดยมีการวางแผนยักยอกเงินของโจทก์ที่จังหวัดเชียงราย หลังจาก ส. ถึงแก่ความตายแล้ว ก็ยังถือไม่ได้ว่าความผิดได้เกิดขึ้นแล้วอันจะทำให้ศาลจังหวัดเชียงรายไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีแล้ว กรณีจึงไม่อาจโอนคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 23 วรรคหนึ่ง ไปชำระที่ศาลแขวงสมุทรปราการได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1330/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนคดีอาญา: ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าต้องใช้บทบัญญัติประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาโดยเฉพาะ แม้จะมีความเกี่ยวข้องกัน
โจทก์ฟ้องต่อศาลจังหวัดปัตตานีขอให้ลงโทษจำเลยฐานหมิ่นประมาทจำเลยได้ยื่นคำร้องขอให้รวมการพิจารณาคดีที่โจทก์ฟ้องเข้ากับคดีที่โจทก์อีกคนหนึ่งฟ้องจำเลยที่ศาลแขวงพระนครเหนือ โดยขอให้โอนคดีไปพิจารณาพิพากษาที่ศาลแขวงพระนครเหนือ แต่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาต เช่นนี้จำเลยหาอาจยื่นคำร้องขอให้อธิบดีผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ชี้ขาดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 6,8ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ได้ไม่เพราะคดีอาญานั้นมีประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 23,26บัญญัติเรื่องการโอนคดีไว้โดยเฉพาะแล้ว จึงไม่อาจนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตราดังกล่าวมาปรับแก่กรณีของจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1330/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจโอนคดีอาญา: ศาลอุทธรณ์มีอำนาจจำกัดตามกฎหมายเฉพาะ, ไม่อาจใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งอนุโลม
โจทก์ฟ้องต่อศาลจังหวัดปัตตานี ขอให้ลงโทษจำเลยฐานหมิ่นประมาทโจทก์จำเลยได้ยื่นคำร้องขอให้รวมการพิจารณาคดีที่โจทก์ฟ้องเข้ากับคดีที่โจทก์อีกคนหนึ่งฟ้องจำเลยที่ศาลแขวงพระนครเหนือ โดยขอให้โอนคดีไปพิจารณาพิพากษาที่ศาลแขวงพระนครเหนือ แต่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาต เช่นนี้จำเลยหาอาจยื่นคำร้องขอให้อธิบดีผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ชี้ขาดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 6,8 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ได้ไม่ เพราะคดีอาญานั้นมีบทบัญญัติตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 23,26บัญญัติเรื่องการโอนคดีไว้โดยเฉพาะแล้ว จึงไม่อาจนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตราดังกล่าวมาปรับแก่กรณีของจำเลยได้.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1754-1755/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เขตอำนาจสอบสวนคดีเช็คพิพาท: ความผิดต่อเนื่องและสถานที่กระทำผิด
จำเลยออกเช็คพิพาทมอบให้โจทก์ร่วมที่บ้านตำบลบางกระสออำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี ซึ่งอยู่ในเขตท้องที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองนนทบุรี เมื่อโจทก์ร่วมนำเช็คไปเบิกเงินที่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาอินทามระธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน โจทก์ร่วมจึงไปร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองนนทบุรี เช่นนี้พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองนนทบุรี มีอำนาจสอบสวนคดีนี้เพราะเป็นความผิดต่อเนื่อง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 19(3) (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 4-5/2523)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 603/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สำคัญผิดในสัญญาประนีประนอม และการขยายเวลาการยื่นฎีกา
โจทก์ลงลายมือชื่อในบันทึกข้อตกลงประนีประนอมยอมความโดยสำคัญผิดว่าเป็นการรับทราบพินัยกรรม ข้อตกลงเป็นโมฆะ
จำเลยฎีกาภายในกำหนดอายุฎีกา แต่มีเงินค่าธรรมเนียมไม่พอศาลชั้นต้นสั่งขยายเวลาให้เกิน 1 เดือนออกไป เมื่อจำเลยวางเงินแล้วจึงสั่งรับฎีกา ดังนี้ชอบแล้ว
จำเลยฎีกาภายในกำหนดอายุฎีกา แต่มีเงินค่าธรรมเนียมไม่พอศาลชั้นต้นสั่งขยายเวลาให้เกิน 1 เดือนออกไป เมื่อจำเลยวางเงินแล้วจึงสั่งรับฎีกา ดังนี้ชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 279/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เขตอำนาจศาล: ดุลพินิจไม่อนุญาตฟ้องนอกเขต หากโจทก์สามารถมอบอำนาจทนายได้
ศาลล่าง 2 ศาลพิพากษาต้องกันให้คืนฟ้อง ไม่ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219
เหตุคดีอาญาเกิดที่จังหวัดศรีสะเกษและจำเลยก็อยู่ในห้องที่จังหวัดศรีสะเกษแต่ตัวโจทก์ต้องควบคุมอยู่ที่จังหวัดพระนคร ดังนี้การที่ศาลอาญาใช้ดุลพินิจไม่อนุญาตให้โจทก์ฟ้องคดีต่อศาลอาญา เป็นดุลพินิจที่ชอบ
เหตุคดีอาญาเกิดที่จังหวัดศรีสะเกษและจำเลยก็อยู่ในห้องที่จังหวัดศรีสะเกษแต่ตัวโจทก์ต้องควบคุมอยู่ที่จังหวัดพระนคร ดังนี้การที่ศาลอาญาใช้ดุลพินิจไม่อนุญาตให้โจทก์ฟ้องคดีต่อศาลอาญา เป็นดุลพินิจที่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 436/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้คำรับสารภาพของจำเลยประกอบพยานหลักฐานที่ไม่สมบูรณ์ในคดีอาญา ศาลฎีกาตัดสินให้ลงโทษฐานลักทรัพย์ได้
โจทก์ฟ้องคดีอาญาอ้างบทลงโทษเกินกว่าสิบปี และโทษเบารวมกันมา จำเลยให้การรับสารภาพ โจทก์สืบพะยานประกอบในข้อหาอุกฉกรรจ์ฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้กระทำผิด ศาลก็ลงโทษในข้อหาฐานเมาได้ แม้คำพะยานโจทก์ในข้อหานี้จะไม่มีน้ำหนักก็ตาม เพราะจำเลยให้การรับสารภาพแล้ว ไม่มีกฎหมายบังคับให้สืบพะยานประกอบ เช่น ข้อหาอุกฉกรรจ์