พบผลลัพธ์ทั้งหมด 48 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 363-393/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตลาดในวัดเป็นพื้นที่เอกชน การค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตผิดเทศบัญญัติ
ตลาดที่จัดตั้งขึ้นในบริเวณวัดแม้จะได้รับอนุญาตให้จัดตั้งหรือไม่ก็ตาม ก็ยังเป็นสถานที่เอกชน ผู้ที่นำของไปขายในสถานที่นั้นโดยมิได้รับอนุญาตต่อเจ้าหน้าที่ของเทศบาลย่อมเป็นความผิดต่อเทศบัญญัติซึ่งออกตามพระราชบัญญัติสาธารณสุข พ.ศ.2484 มาตรา 50
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1707/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความเชื่อโดยสุจริตเป็นเหตุยกฟ้อง แม้ใบอนุญาตไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ถึงแม้จะวินิจฉัยว่าใบเสร็จรับเงินค่าใบอนุญาตเร่ขายไม่ใช่เป็นใบอนุญาตให้ทำการเร่ขายได้ก็ดี แต่ข้อเท็จจริงซึ่งศาลฎีกาจำต้องถือตามคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์คือ จำเลยเชื่อโดยสุจริตว่าเป็นในอนุญาตให้เร่ขายได้แล้วเช่นนี้ จึงย่อมเอาผิดแก่จำเลยหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1707/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสุจริตของผู้กระทำผิดและผลต่อการเอาผิดทางอาญา แม้ใบอนุญาตไม่ชอบ
ถึงแม้จะวินิจฉัยว่าใบเสร็จรับเงินค่าใบอนุญาตเร่ขายไม่ใช่เป็นใบอนุญาตให้ทำการเร่ขายได้ก็ดี แต่ข้อเท็จจริงซึ่งศาลฎีกาจำต้องถือตามคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์คือ จำเลยเชื่อโดยสุจริตว่าเป็นใบอนุญาตให้เร่ขายได้แล้วเช่นนี้ จึงย่อมเอาผิดแก่จำเลยหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1707/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความเชื่อโดยสุจริตเป็นเหตุยกฟ้อง แม้ใบอนุญาตไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ถึงแม้จะวินิจฉัยว่าใบเสร็จรับเงินค่าใบอนุญาตเร่ขายไม่ใช่เป็นใบอนุญาตให้ทำการเร่ขายได้ก็ดี แต่ข้อเท็จจริงซึ่งศาลฎีกาจำต้องถือตามคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์คือ จำเลยเชื่อโดยสุจริตว่าเป็นใบอนุญาตให้เร่ขายได้แล้วเช่นนี้ จึงย่อมเอาผิดแก่จำเลยหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1630/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลอุทธรณ์ในการสั่งให้ศาลชั้นต้นพิจารณาคำขอห้ามเพิ่มเติมหลังพิพากษาปรับ
ในคดีที่ขอให้ห้ามจำเลยไม่ให้ก่อความรำคาญตามพระราชบัญญัติสาธารณสุข เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่า ศาลชั้นต้นยังไม่ได้วินิจฉัยว่า จะควรห้ามตามคำขอของโจทก์ด้วยหรือไม่ ศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจสั่งให้ศาลชั้นต้นพิจารณาใหม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1630/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลอุทธรณ์ในการสั่งให้ศาลชั้นต้นพิจารณาคำขอห้ามกระทำการรำคาญเพิ่มเติม
ในคดีที่ขอให้ห้ามจำเลยไม่ให้ก่อความรำคาญตาม พ.ร.บ.สาธารณสุขเมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่า ศาลชั้นต้นยังไม่ได้วินิจฉัยว่า จะควรห้ามตามคำขอของโจทก์ด้วยหรือไม่ ศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจสั่งให้ศาลชั้นต้นพิจารณาใหม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 472/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลสั่งห้ามประกอบการค้าตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข: การวินิจฉัยข้อเท็จจริงและขอบเขตการฎีกา
พระราชบัญญัติสาธารณะสุขพ.ศ.2484 มาตรา 68 ให้ศาลมีอำนาจที่จะสั่งห้ามจำเลยมิให้ประกอบการค้านั้นต่อไป ซึ่งเป็นการให้อำนาจศาลใช้ดุลยพินิจวินิจฉัยตามเหตุการณ์แห่งคดี ถือว่าเป็นการวินิจฉัยข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม พระราชบัญญัติสาธารณะสุข พ.ศ.2484 มาตรา 7,8,68 ปรับ 100 บาท ส่วนคำขอให้ห้ามจำเลยประกอบการค้าทำเต้าหู้ต่อไปนั้น ไม่บังคับให้แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ห้ามจำเลยทำการค้าเต้าหู้ต่อไป ดังนี้ จำเลยจะฎีกาในข้อห้ามทำการค้าทำเต้าหู้ไม่ได้เพราะเป็นฎีกาข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม พระราชบัญญัติสาธารณะสุข พ.ศ.2484 มาตรา 7,8,68 ปรับ 100 บาท ส่วนคำขอให้ห้ามจำเลยประกอบการค้าทำเต้าหู้ต่อไปนั้น ไม่บังคับให้แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ห้ามจำเลยทำการค้าเต้าหู้ต่อไป ดังนี้ จำเลยจะฎีกาในข้อห้ามทำการค้าทำเต้าหู้ไม่ได้เพราะเป็นฎีกาข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 472/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลสั่งห้ามประกอบการค้าตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข: การวินิจฉัยข้อเท็จจริงที่ไม่สามารถฎีกาได้
พ.ร.บ.สาธารณะสุข พ.ศ. 2484 มาตรา 68 ให้ศาลมีอำนาจที่จะสั่งห้ามจำเลยมิให้ประกอบการค้านั้น ต่อไป ซึ่งเป็นการให้อำนาจศาลใช้ดุลยพินิจวินิจฉัยตามเหตุการณ์แห่งคดี ถือว่าเป็นการวินิจฉัยข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข พ.ศ. 2484 มาตรา 7, 8, 68 ปรับ 100 บาท ส่วนคำขอให้ห้ามจำเลยประกอบการค้าทำเต้าหู้ต่อไปนั้น ไม่บังคับให้ แต่ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ให้ห้ามจำเลยทำการค้าเต้าหู้ต่อไป ดังนี้ จำเลยจะฎีกาในข้อห้ามทำการค้าเต้าหู้ ไม่ได้ เพราะเป็นฎีกาข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข พ.ศ. 2484 มาตรา 7, 8, 68 ปรับ 100 บาท ส่วนคำขอให้ห้ามจำเลยประกอบการค้าทำเต้าหู้ต่อไปนั้น ไม่บังคับให้ แต่ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ให้ห้ามจำเลยทำการค้าเต้าหู้ต่อไป ดังนี้ จำเลยจะฎีกาในข้อห้ามทำการค้าเต้าหู้ ไม่ได้ เพราะเป็นฎีกาข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2000/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจเจ้าพนักงานท้องถิ่นในการสั่งรื้อเคหะ: ต้องผ่านศาล
เจ้าพนักงานท้องถิ่นไม่มีอำนาจโดยพลการตนเองที่จะสั่งให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองเคหะคนใด รื้อเคหะหรืออาคาร นอกจากจะร้องขอต่อศาลตามความในพระราชบัญญัติสาธารณะสุข พ.ศ.2484 มาตรา 29
ฉะนั้นถ้าเจ้าพนักงานท้องถิ่นสั่งให้ผู้ครอบครองเคหะรื้อเคหะนั้นโดยพลการตนเอง คำสั่งนั้นก็เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงไม่จำต้องปฏิบัติตาม
ฉะนั้นถ้าเจ้าพนักงานท้องถิ่นสั่งให้ผู้ครอบครองเคหะรื้อเคหะนั้นโดยพลการตนเอง คำสั่งนั้นก็เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงไม่จำต้องปฏิบัติตาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2000/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานท้องถิ่นไม่มีอำนาจสั่งรื้อเคหะโดยพลการ ต้องร้องขอต่อศาลตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข
เจ้าพนักงานท้องถิ่นไม่มีอำนาจโดยพละการตนเองที่จะสั่งให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองเคหะคนใด รื้อเคหะหรืออาคารนอกจากจะร้องขอต่อศาลตามความใน พ.ร.บ.สาธารณะสุข พ.ศ.2484 มาตรา 89
ฉะนั้นถ้าเจ้าพนักงานท้องถิ่นสั่งให้ผู้ครอบครองเคหะรื้อเคหะนั้นโดยพละการตนเองคำสั่งนั้นก็เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงไม่จำต้องปฏิบัติตาม
ฉะนั้นถ้าเจ้าพนักงานท้องถิ่นสั่งให้ผู้ครอบครองเคหะรื้อเคหะนั้นโดยพละการตนเองคำสั่งนั้นก็เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงไม่จำต้องปฏิบัติตาม