พบผลลัพธ์ทั้งหมด 9 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 434-435/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจสอบสวนผู้จัดการนิติบุคคล: เมื่อการกระทำมีมูลความผิดอาญา แม้เป็นกิจการบริษัท ก็สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้
เมื่อผู้จัดการของนิติบุคคลกระทำการซึ่งมีมูลเป็นความผิดทางอาญา แม้จะกระทำในกิจการของบริษัทซึ่งเป็นนิติบุคคล ผู้จัดการนั้นก็อาจถูกควบคุมในระหว่างสอบสวนได้ในเมื่อตกเป็นผู้ต้องหา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1728/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หลักฐานทางอ้อมพิสูจน์ความผิดฐานลักทรัพย์ และการขาดการร้องทุกข์ทำให้ฟ้องฐานฉ้อโกงไม่ได้
ที่จะมีความผิดฐานลักทรัพย์นั้นแม้ไม่มีประจักษ์พยานเห็นว่าจำเลยเป็นคนร้ายเข้าไปลักกระบือ แต่ได้ความว่ากระบือหายเวลาก่อนแจ้ง กำนันจับจำเลยได้ขณะขี่กระบือในวันรุ่งขึ้นเวลาบ่าย จำเลยก็รับว่าไม่รู้จักเจ้าทรัพย์ แม้บ้านก็ไม่รู้จัก ครั้นจำเลยได้ประกันตัวไปจากอำเภอเพื่อนำหลักฐานมาแสดง จำเลยก็ตรงไปหาเจ้าทรัพย์ถูก ซ้ำยังหลอกลวงว่าจะไปไถ่กระบือคืนให้ให้เจ้าทรัพย์มอบตั๋วพิมพ์รูปพรรณไป พฤติการณ์ดังนี้เป็นเหตุแวดล้อมให้เห็นว่าจำเลยนั่นเองเป็นผู้เข้าไปลักกระบือรายนี้
อันความผิดฐานฉ้อโกงนั้นแม้ในฟ้องจะกล่าวว่า เจ้าทุกข์ได้ร้องทุกข์ให้เจ้าพนักงานสอบสวนจัดการดำเนินคดีแก่จำเลยก็ดีแต่เวลาโจทก์นำสืบไม่ปรากฏว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานขอให้ดำเนินคดีในความผิดฐานนี้เลยทั้งหลักฐานการร้องทุกข์ก็ไม่ปรากฏ ฉะนั้นจะฟังว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานขอให้ดำเนินคดีแก่จำเลยหาได้ไม่ โจทก์จึงฟ้องจำเลยฐานฉ้อโกงยังไม่ได้
อันความผิดฐานฉ้อโกงนั้นแม้ในฟ้องจะกล่าวว่า เจ้าทุกข์ได้ร้องทุกข์ให้เจ้าพนักงานสอบสวนจัดการดำเนินคดีแก่จำเลยก็ดีแต่เวลาโจทก์นำสืบไม่ปรากฏว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานขอให้ดำเนินคดีในความผิดฐานนี้เลยทั้งหลักฐานการร้องทุกข์ก็ไม่ปรากฏ ฉะนั้นจะฟังว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานขอให้ดำเนินคดีแก่จำเลยหาได้ไม่ โจทก์จึงฟ้องจำเลยฐานฉ้อโกงยังไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1728/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หลักฐานแวดล้อมบ่งชี้การลักทรัพย์ & การขาดการร้องทุกข์ในคดีฉ้อโกง
ที่จะมีความผิดฐานลักทรัพย์นั้นแม้ไม่มีประจักษ์พยานเห็นว่าจำเลยเป็นคนร้ายเข้าไปลักกระบือ แต่ได้ความว่ากระบือหายเวลาก่อนแจ้ง กำนันจับจำเลยได้ขณะขี่กระบือในวันรุ่งขึ้นเวลาบ่าย จำเลยก็รับว่าไม่รู้จักเจ้าทรัพย์ แม้บ้านก็ไม่รู้จัก ครั้นจำเลยได้ประกันตัวไปจากอำเภอเพื่อนำหลักฐานมาแสดง จำเลยก็ตรงไปหาเจ้าทรัพย์ถูก ซ้ำยังหลอกลวงว่าจะไปไถ่กระบือคืนให้ให้เจ้าทรัพย์มอบตั๋วพิมพ์รูปพรรณไป พฤติการณ์ดังนี้เป็นเหตุแวดล้อมให้เห็นว่าจำเลยนั่นเองเป็นผู้เข้าไปลักกระบือรายนี้
อันความผิดฐานฉ้อโกงนั้นแม้ในฟ้องจะกล่าวว่า เจ้าทุกข์ได้ร้องทุกข์ให้เจ้าพนักงานสอบสวนจัดการดำเนินคดีแก่จำเลยก็ดีแต่เวลาโจทก์นำสืบไม่ปรากฏว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานขอให้ดำเนินคดีในความผิดฐานนี้เลยทั้งหลักฐานการร้องทุกข์ก็ไม่ปรากฏ ฉะนั้นจะฟังว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานขอให้ดำเนินคดีแก่จำเลยหาได้ไม่ โจทก์จึงฟ้องจำเลยฐานฉ้อโกงยังไม่ได้
อันความผิดฐานฉ้อโกงนั้นแม้ในฟ้องจะกล่าวว่า เจ้าทุกข์ได้ร้องทุกข์ให้เจ้าพนักงานสอบสวนจัดการดำเนินคดีแก่จำเลยก็ดีแต่เวลาโจทก์นำสืบไม่ปรากฏว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานขอให้ดำเนินคดีในความผิดฐานนี้เลยทั้งหลักฐานการร้องทุกข์ก็ไม่ปรากฏ ฉะนั้นจะฟังว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานขอให้ดำเนินคดีแก่จำเลยหาได้ไม่ โจทก์จึงฟ้องจำเลยฐานฉ้อโกงยังไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 705/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนคำร้องทุกข์ของผู้เสียหายทำให้สิทธิฟ้องคดีอาญาของโจทก์ระงับ
คดีอาญาในความผิดฐานฉ้อโกงที่อัยการเป็นโจทก์ฟ้อง และจำเลยที่ถูกศาลล่างพิพากษาลงโทษคนหนึ่งได้ฎีกาต่อมา เมื่อผู้เสียหายถอนคำร้องทุกข์ต่อศาลฎีกาไม่เอาความเฉพาะจำเลยที่ฎีกานั้น ศาลฎีกาก็สั่งให้จำหน่ายคดีเสียได้เพราะสิทธิฟ้องคดีทางอาญาของอัยการโจทก์ระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา39
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 771/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานฉ้อโกงและยักยอกทรัพย์: การบรรยายความผิดและช่วงเวลากระทำผิดในฟ้อง
ฟ้องว่าจำเลยหลอกลวงให้เขาส่งทรัพย์ให้โดยมีเจตนาฉ้อโกงหรือมิฉะนั้นจำเลยคิดทุจริตยักยอกทรัพย์ที่เขามอบให้ ขอให้ลงโทษตาม มาตรา 304,314 ดังนี้ ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
ฟ้องเรื่องยักยอกหรือฉ้อโกงโจทก์หาว่าจำเลยกระทำผิดมาถึงวันก่อนฟ้องเดือนเศษ แม้ไม่ปรากฏว่ารู้เรื่องความผิดเมื่อไรก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
ฟ้องเรื่องยักยอกหรือฉ้อโกงโจทก์หาว่าจำเลยกระทำผิดมาถึงวันก่อนฟ้องเดือนเศษ แม้ไม่ปรากฏว่ารู้เรื่องความผิดเมื่อไรก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 771/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานฉ้อโกงและยักยอกทรัพย์: การพิเคราะห์เจตนาและวันกระทำผิด
ฟ้องว่าจำเลยหลอกลวงให้เขาส่งทรัพย์ให้โดยมีเจตนาฉ้อโกง หรือมิฉะนั้นจำเลยคิดทุจจริตยักยอกทรัพย์ที่เขามอบให้ ขอให้ลงโทษตาม ม. 304,314 ดังนี้ ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
ฟ้องเรื่องยักยอกหรือฉ้อโกงโจทก์หาว่าจำเลยกระทำผิดมาถึงวันก่อนฟ้องเดือนเศษ แม้ไม่ปรากฎว่ารู้เรื่องความผิดเมื่อไรก็ไม่เป็นฟ้อง เคลือบคลุม.
ฟ้องเรื่องยักยอกหรือฉ้อโกงโจทก์หาว่าจำเลยกระทำผิดมาถึงวันก่อนฟ้องเดือนเศษ แม้ไม่ปรากฎว่ารู้เรื่องความผิดเมื่อไรก็ไม่เป็นฟ้อง เคลือบคลุม.