พบผลลัพธ์ทั้งหมด 95 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3716/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทสัญญาประนีประนอมต้องดำเนินการในคดีเดิม ห้ามฟ้องเป็นคดีใหม่
ข้อโต้แย้งเกี่ยวกับการบังคับคดีตามสัญญาประนีประนอมยอมความในคดีเดิมต้องขอให้ดำเนินกระบวนพิจารณาในคดีเดิมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา7(2),302วรรคแรกจะนำมาฟ้องเป็นคดีใหม่ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3716/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ต้องดำเนินการในคดีเดิม
ข้อโต้แย้งเกี่ยวกับการบังคับคดีตามสัญญาประนีประนอมยอมความในคดีเดิม ต้องขอให้ดำเนินกระบวนพิจารณาในคดีเดิมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 7(2),302 วรรคแรก จะนำมาฟ้องเป็นคดีใหม่ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1696/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการรับคืนโฉนดที่ดินหลังการบังคับคดีสำเร็จ การสอบถามความเห็นคู่ความก่อนศาลมีคำสั่ง
โจทก์บังคับคดียึดที่ดินของจำเลยเพื่อขายทอดตลาดโดยโจทก์เป็นผู้มอบโฉนดที่ดินแก่เจ้าพนักงานบังคับคดีเพื่อประกอบการยึดต่อมาจำเลยชำระเงินให้โจทก์พร้อมทั้งค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีครบถ้วนและเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ถอนการบังคับคดีแล้วการบังคับคดีย่อมสำเร็จบริบูรณ์หากโจทก์ละเลยเพิกเฉยไม่ไปขอรับโฉนดที่ดินคืนจากเจ้าพนักงานบังคับคดีความเสียหายย่อมตกแก่จำเลยซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมอยู่ด้วยฉะนั้นเมื่อจำเลยยื่นคำร้องขอรับโฉนดคืนศาลชั้นต้นชอบที่จะนัดพร้อมโจทก์จำเลยเพื่อสอบถามว่าโจทก์จะคัดค้านประการใดหรือไม่เพื่อจะได้ทำคำวินิจฉัยชี้ขาดให้ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา302ต่อไปการที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องของจำเลยโดยไม่นัดพร้อมเพื่อสอบถามคู่ความที่เกี่ยวข้องก่อนจึงเป็นการไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 107/2534 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่า: อำนาจฟ้อง แม้ทรัพย์สินไม่ใช่ของเจ้าของสัญญา, การอุทธรณ์ข้อที่ไม่ได้ว่ากล่าวในศาลชั้นต้น, และการบังคับคดี
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับตามสัญญาเช่าซึ่งโจทก์จำเลยทำไว้ต่อกันแม้ทรัพย์สินที่ให้เช่าจะมิใช่ของโจทก์ แต่เมื่อจำเลยยอมทำสัญญาเช่ากับโจทก์ จำเลยย่อมต้องผูกพันตามสัญญา เมื่อจำเลยผิดสัญญา โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยได้ ข้อที่จำเลยอุทธรณ์ว่าจำเลยทำสัญญาเช่าในฐานะตัวแทนของบุคคลอื่นนั้นมิได้มีอยู่ในคำให้การของจำเลย และถือไม่ได้ว่าประเด็นดังกล่าวรวมอยู่ในข้อต่อสู้เรื่องอำนาจฟ้อง จึงเป็นข้อที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวมาแล้วในศาลชั้นต้น จำเลยจึงไม่มีสิทธิอุทธรณ์ การที่จำเลยจะต้องรับผิดในผลเสียที่เกิดขึ้นนับแต่วันที่โจทก์ได้รับมอบทรัพย์สินอันเป็นวัตถุแห่งสัญญาเช่าคืนหรือไม่นั้น เป็นเรื่องเกี่ยวด้วยการบังคับคดีตามคำพิพากษา ซึ่งอยู่ในอำนาจของศาลในชั้นต้น ที่พิจารณาและชี้ขาดตัดสินคดีตาม ป.วิ.พ. มาตรา 302วรรคแรกที่จะวินิจฉัย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 107/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องสัญญาเช่า, การบังคับคดี, และการข้ามขั้นตอนศาล
แม้ทรัพย์สินที่ให้เช่าจะมิใช่ของโจทก์ แต่เมื่อจำเลยยอมทำสัญญาเช่ากับโจทก์แล้วย่อมต้องผูกพันตามสัญญา และเมื่อจำเลยผิดสัญญา โจทก์ก็มีอำนาจฟ้องบังคับจำเลยตามสัญญาเช่าได้ ส่วนเจ้าของทรัพย์สินจะให้อำนาจโจทก์นำทรัพย์สินออกให้เช่าหรือให้เช่าช่วงได้หรือไม่มิใช่ข้อสำคัญ เพราะมิใช่เป็นเรื่องพิพาทกันระหว่างเจ้าของทรัพย์สินกับจำเลยผู้เช่า และเจ้าของทรัพย์สินก็มิได้โต้แย้งอำนาจของโจทก์ในการนำทรัพย์สินออกให้จำเลยเช่า ข้อที่จำเลยต่อสู้ว่าจำเลยทำสัญญาเช่าในฐานะตัวแทนของบริษัทฉ.นั้นมิได้อยู่ในคำให้การ และประเด็นข้อนี้มิใช่ส่วนหนึ่งของข้อต่อสู้ในเรื่องอำนาจฟ้อง จึงเป็นข้อที่ไม่ได้ว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลชั้นต้น ชอบที่ศาลอุทธรณ์จะไม่รับวินิจฉัยในประเด็นดังกล่าว ปัญหาว่าเมื่อศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาแล้วจำเลยได้ส่งมอบทรัพย์สินอันเป็นวัตถุแห่งหนี้ตามสัญญาเช่าคืนแก่โจทก์แล้วหรือไม่นั้น เป็นเรื่องอันเกี่ยวด้วยการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งซึ่งอยู่ในอำนาจของศาลที่ได้พิจารณาและชี้ขาดตัดสินคดีในชั้นต้นที่จะทำคำวินิจฉัยชี้ขาดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 302 วรรคแรก เมื่อศาลชั้นต้นอันเป็นศาลที่ได้พิจารณาและชี้ขาดตัดสินคดีในชั้นต้นยังไม่ได้วินิจฉัยชี้ขาดปัญหาข้อนี้ จำเลยจะฎีกาข้ามขั้นขึ้นมาให้ศาลฎีกาวินิจฉัยหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4542-4544/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิกรมสรรพากรขอเฉลี่ยทรัพย์ในชั้นบังคับคดี ไม่ใช่คดีพิพาทภาษีอากร ต้องดำเนินการตามวิธิพิจารณาความแพ่ง
ศาลแรงงานยึดทรัพย์สินของจำเลยไว้เพื่อบังคับคดีตามคำพิพากษาเมื่อจำเลยค้างชำระค่าภาษีอากรอันเป็นภาษีอากรค้าง กรมสรรพากรจึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ต่อศาลแรงงานได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 290 ซึ่งเป็นบทบัญญัติบังคับไว้โดยเฉพาะในชั้นบังคับคดี กรณีไม่อาจถือว่าเป็นคดีพิพาทอันเกี่ยวกับสิทธิเรียกร้องของรัฐในหนี้ค่าภาษีอากรตามมาตรา 7 (2) แห่งพระราชบัญญัติจักตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ.2528 ที่จะต้องให้กรมสรรพากรไปดำเนินคดีที่ศาลภาษีอากรก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4542-4544/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิกรมสรรพากรขอเฉลี่ยทรัพย์ในชั้นบังคับคดีภาษีอากรค้าง ไม่ต้องฟ้องคดีภาษีอากรแยก
ศาลแรงงานยึดทรัพย์สินของจำเลยไว้เพื่อบังคับคดีตามคำพิพากษาเมื่อจำเลยค้างชำระค่าภาษีอากรอันเป็นภาษีอากรค้าง กรมสรรพากรจึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ต่อศาลแรงงานได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 290ซึ่งเป็นบทบัญญัติบังคับไว้โดยเฉพาะในชั้นบังคับคดี กรณีไม่อาจถือว่าเป็นคดีพิพาทอันเกี่ยวกับสิทธิเรียกร้องของรัฐในหนี้ค่าภาษีอากรตามมาตรา 7(2) แห่งพระราชบัญญัติจักตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ.2528 ที่จะต้องให้กรมสรรพากรไปดำเนินคดีที่ศาลภาษีอากรก่อน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1219/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการพิจารณาคำร้องคัดค้านการบังคับคดี: ศาลชั้นต้นยังมีอำนาจ แม้จะมอบหมายให้ศาลอื่นบังคับคดีแทน
ศาลที่มีอำนาจรับบรรดาคำฟ้องและคำขอที่เสนอเกี่ยวเนื่องกับการบังคับคดีตามป.วิ.พ.มาตรา7(2)คือศาลตามป.วิ.พ.มาตรา302ซึ่งหมายถึงศาลที่ได้พิจารณาและชี้ขาดคดีในชั้นต้นแม้ว่าศาลนั้นจะมอบให้ศาลอื่นบังคับคดีตามหมายบังคับคดีแทนและยังมิได้รับทรัพย์ที่ยึดได้หรือเงินที่ได้จากการขายทรัพย์นั้นซึ่งทำให้ศาลที่รับบังคับคดีแทนมีอำนาจรับวินิจฉัยคำร้องที่อ้างว่าการบังคับคดีปฏิบัติไปโดยมิชอบได้ก็ตามแต่ศาลที่ได้พิจารณาและชี้ขาดคดีในชั้นต้นก็ยังมีอำนาจที่จะรับบรรดาคำร้องเช่นนั้นได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1219/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการพิจารณาคำร้องคัดค้านการบังคับคดี: ศาลชั้นต้น หรือ ศาลที่บังคับคดีแทน
คำร้องซึ่งอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีของศาลชั้นต้นที่ได้รับแต่ตั้งให้บังคับคดีแทนดำเนินการบังคับคดีโดยไม่ชอบนั้น ผู้ร้องมีสิทธิยื่นต่อศาลที่ชี้ขาดตัดสินคดีในชั้นต้นได้
(วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2529)
(วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2529)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1219/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการพิจารณาคำร้องคัดค้านการบังคับคดี: ศาลชั้นต้นหรือศาลที่รับมอบหมาย
คำร้องซึ่งอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีของศาลชั้นต้นที่ได้รับแต่ตั้งให้บังคับคดีแทนดำเนินการบังคับคดีโดยไม่ชอบนั้นผู้ร้องมีสิทธิยื่นต่อศาลที่ชี้ขาดตัดสินคดีในชั้นต้นได้. (วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่1/2529)