คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 302

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 95 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4824-4825/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความและการคืนเงินเมื่อโอนที่ดินไม่ได้ ศาลฎีกาพิพากษากลับให้คืนเงินพร้อมดอกเบี้ย
โจทก์ผู้ร้องสอดและจำเลยทั้งสามได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความซึ่งศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาตามยอมแล้ว มีใจความสำคัญว่าโจทก์ตกลงซื้อที่พิพาททั้งโฉนดคืนจากจำเลยที่ 3 เป็นเงินจำนวนหนึ่ง โดยจะนำเงินมาวางศาลภายในกำหนด และจำเลยที่3 จะโอนที่ดินพร้อมทั้งสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดให้โจทก์ เมื่อโจทก์นำเงินมาวางศาลตามกำหนด. จำเลยที่ 3 รับเงินจำนวนดังกล่าวไปแล้วแต่โอนที่ดินให้โจทก์ไม่ได้เพราะที่ดินถูกศาลสั่งอายัดไว้ในคดีอื่น. จำเลยที่ 3 จึงไม่เป็นฝ่ายผิดสัญญา แต่จำเลยที่ 3 ต้องคืนเงินจำนวนดังกล่าวแก่โจทก์เพราะสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวเป็นสัญญาต่างตอบแทน. เมื่อจำเลยที่ 3 ไม่เป็นฝ่ายผิดสัญญา โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิเรียกเอาค่าเสียหาย. แต่เมื่อคำพิพากษาได้อ่านหรือถือว่าได้อ่านให้จำเลยที่ 3 ฟังแล้วจำเลยที่ 3 ไม่ปฏิบัติตามคำบังคับถือว่าผิดนัด โจทก์มีสิทธิคิดดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันผิดนัดดังกล่าวนั้นได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3213/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการแก้ไขคำสั่งบังคับคดี และการเพิกถอนการขายทอดตลาดที่ไม่บริบูรณ์
ศาลแพ่งเป็นศาลที่ได้พิจารณาและชี้ขาดคดีนี้ในชั้นต้นจึงเป็นศาลที่มีอำนาจออกหมายบังคับคดีและทำคำวินิจฉัยชี้ขาดในเรื่องใด ๆอันเกี่ยวด้วยการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งที่เสนอต่อศาลได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 302คำสั่งของศาลจังหวัดธัญบุรีที่อนุญาตให้ขายที่ดินแก่ผู้ที่ประมูลให้ราคาสูงสุดได้เป็นการสั่งในการบังคับคดีแทนศาลแพ่งเท่านั้น เมื่อจำเลยยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการขายทอดตลาดฝ่าฝืนต่อกฎหมายก่อนการบังคับคดีได้เสร็จสิ้นและไม่ช้ากว่า 8 วันนับแต่วันทราบการฝ่าฝืนศาลแพ่งย่อมมีอำนาจที่จะสั่งแก้ไขเปลี่ยนแปลงคำสั่งดังกล่าวของศาลจังหวัดธัญญบุรี ซึ่งเป็นศาลที่ดำเนินการบังคับคดีแทนศาลแพ่งได้ ในการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลนั้น เมื่อปรากฏว่าราคาสูงสุดที่มีผู้ประมูลได้เป็นราคาที่ต่ำไปมาก โดยต่ำกว่าราคาประเมินของเจ้าพนักงานที่ดินมากจำเลยที่เป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาซึ่งต้องเสียหายย่อมขอให้ศาลสั่ง เพิกถอนการขายและขอให้ขายทอดตลาดใหม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3213/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการแก้ไขคำสั่งบังคับคดี และการเพิกถอนการขายทอดตลาดที่ราคต่ำกว่าราคาประเมิน
ศาลแพ่งเป็นศาลที่ได้พิจารณาและชี้ขาดคดีนี้ในชั้นต้น จึงเป็นศาลที่มีอำนาจออกหมายบังคับคดีและทำคำวินิจฉัยชี้ขาดในเรื่องใด ๆ อันเกี่ยวด้วยการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งที่เสนอต่อศาลได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 302 คำสั่งของศาลจังหวัดธัญบุรีที่อนุญาตให้ขายที่ดินแก่ผู้ที่ประมูลให้ราคาสูงสุดได้เป็นการสั่งในการบังคับคดีแทนศาลแพ่งเท่านั้น เมื่อจำเลยยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการขายทอดตลาดฝ่าฝืนต่อกฎหมายก่อนการบังคับคดีได้เสร็จสิ้นและไม่ช้ากว่า 8 วันนับแต่วันทราบการฝ่าฝืน ศาลแพ่งย่อมมีอำนาจที่จะสั่งแก้ไขเปลี่ยนแปลงคำสั่งดังกล่าวของศาลจังหวัดธัญญบุรี ซึ่งเป็นศาลที่ดำเนินการบังคับคดีแทนศาลแพ่งได้
ในการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลนั้น เมื่อปรากฏว่าราคาสูงสุดที่มีผู้ประมูลได้เป็นราคาที่ต่ำไปมาก โดยต่ำกว่าราคาประเมินของเจ้าพนักงานที่ดินมากจำเลยที่เป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาซึ่งต้องเสียหายย่อมขอให้ศาลสั่ง เพิกถอนการขายและขอให้ขายทอดตลาดใหม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1085/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจบังคับคดีเป็นของศาล เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาล
อำนาจเกี่ยวกับการบังคับคดีเป็นของศาล เจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นเพียงเจ้าพนักงานของศาลซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของศาลในการที่จะ บังคับคดีเท่านั้น ไม่อาจเข้ามาเป็นผู้มีส่วนได้เสียหรือเป็นคู่ความได้ แต่อย่างใด เมื่อศาลสั่งให้ยกเลิกการขายทอดตลาด เจ้าพนักงานบังคับคดี ก็ต้องปฏิบัติการไปตามนั้น ไม่มีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาคำสั่งศาลได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1085/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจบังคับคดีเป็นของศาล เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาล
อำนาจเกี่ยวกับการบังคับคดีเป็นของศาล เจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นเพียงเจ้าพนักงานของศาลซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของศาลในการที่จะบังคับคดีเท่านั้น ไม่อาจเข้ามาเป็นผู้มีส่วนได้เสียหรือเป็นคู่ความได้แต่อย่างใด เมื่อศาลสั่งให้ยกเลิกการขายทอดตลาด เจ้าพนักงานบังคับคดี ก็ต้องปฏิบัติการไปตามนั้น ไม่มีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาคำสั่งศาลได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1120/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจบังคับคดีทรัพย์นอกเขตศาล: ศาลสั่งให้ศาลที่ทรัพย์ตั้งอยู่ดำเนินการ หรือมอบให้ศาลแรกทำได้
การบังคับคดีแก่ทรัพย์ซึ่งอยู่นอกเขตสาลนั้น ศาลชั้นต้นที่ชี้ขาดตัดสินจะทำการบังคับคดีเอากับทรัพย์นั้น ๆ ไม่ได้ จักต้องตั้งศาลชั้นต้นที่ทรัพย์นั้นอยู่ในเขตศาลให้ดำเนินการบังคับดคีแทนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 16 ประกอบกับมาตรา 302 วรรคท้าย เมือ่ได้ตั้งศาลชั้นต้นใดให้ดำเนินการบังคับคดีแทนแล้ว ศาลชั้นต้นที่ตั้งศาลอื่นก็ยังมีอำนาจหน้าที่เกี่ยบวกับการบังคับคดีต่อไปจนเสร็จสิ้น โดนจะให้ศาลชั้นต้นที่ทำการบังคับคดีแทนทำการขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดแล้วส่งเงินที่ได้จากการขายทรัพย์นั้นไป หรือเพียงแต่มอบให้ยึดทรัพย์ไว้โดยจะทำการขายทอดตลาดเสียเองก็ย่อมทำได้
การที่จำเลยยื่นฎีกาโดยใช้แบบพิมพ์คำร้อง เมื่อศาลชั้นต้นสั่งรับเป็นฎีกาขึ้นมา โดยมิได้สั่งให้ทำใหม่เสียให้ถูกต้อง ก็อนุโลมให้ถือว่าเป็นฎีกาที่สั่งรับไว้แล้วโดยชอบ ไม่จำเป็นต้องสั่งย้อนให้จำเลยทำใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1266/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำร้องขออธิบายคำพิพากษาศาลฎีกาและการบังคับคดี: ศาลฎีกาไม่จำเป็นต้องอธิบายคำพิพากษาที่ชัดเจน และโจทก์ควรดำเนินการบังคับคดีในคดีเดิม
โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลฎีกาอธิบายคำพิพากษาศาลฎีกาว่าจะใช้คำพิพากษาศาลใดบังคับ ศาลชั้นต้นควรส่งคำร้องให้ศาลฎีกาสั่งโดยตรง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่พิพากษายืนตามศาลล่างว่าทรัพย์พิพาทตามฟ้องไม่ใช่ของโจทก์ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง พิพากษายกฟ้องนั้น มีข้อความแจ้งชัด ไม่จำต้องมีคำอธิบายเพิ่มเติมทั้งกรณีมิใช่คำพิพากษามีข้อผิดพลาด หรือข้อผิดหลงเล็กน้อยหรือจะต้องมีการบังคับคดีเกี่ยวกับทรัพย์พิพาทอย่างใดอีก
ตามคำร้องของโจทก์เป็นเรื่องโจทก์ถูกโต้แย้งสิทธิตามคำพิพากษาในคดีแพ่งของศาลชั้นต้น หมายเลขแดงที่ 24/2512โจทก์ชอบที่จะไปดำเนินการบังคับคดีในคดีดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1266/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำพิพากษาศาลฎีกาแจ้งชัดแล้ว ไม่ต้องอธิบายเพิ่มเติม การบังคับคดีต้องดำเนินการในคดีเดิม
โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลฎีกาอธิบายคำพิพากษาศาลฎีกาว่า จะใช้คำพิพากษาศาลใดบังคับ ศาลชั้นต้นควรส่งคำร้องให้ศาลฎีกาสั่งโดยตรง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่พิพากษายืนตามศาลล่างว่าทรัพย์พิพาทตามฟ้องไม่ใช่ของโจทก์ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง พิพากษายกฟ้องนั้น มีข้อความแจ้งชัด ไม่จำต้องมีคำอธิบายเพิ่มเติม ทั้งกรณีมิใช่คำพิพากษามีข้อผิดพลาด หรือข้อผิดหลงเล็กน้อย หรือจะต้องมีการบังคับคดีเกี่ยวกับทรัพย์พิพาทอย่างใดอีก
ตามคำร้องของโจทก์เป็นเรื่องโจทก์ถูกโต้แย้งสิทธิตามคำพิพากษาในคดีแพ่งของศาลชั้นต้น หมายเลขแดงที่ 24/2512โจทก์ชอบที่จะไปดำเนินการบังคับคดีในคดีดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2510/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีตามสัญญาประนีประนอม การร้องขอขัดขวางสิทธิในที่ดินและบ้านที่ไม่ระบุในสัญญา
ตามสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์กับจำเลยทั้งสามซึ่งศาลได้พิพากษาตามยอมไปแล้ว ไม่ปรากฏว่ามีบ้านของจำเลยที่ 2 ปลูกอยู่ในที่ดินที่ตกลงแบ่งให้จำเลยที่ 3 และมีข้อตกลงให้จำเลยที่ 2 รื้อไปได้ การที่จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องอ้างว่ามีบ้านของตนอยู่ในที่ดินนั้นและจะรื้อไป แต่จำเลยที่ 3 ขัดขวาง จึงขอให้ศาล ห้ามนั้น เป็นการร้องขอนอกเหนือจากสัญญาประนีประนอมยอมความ หากจำเลยที่ 2 จะมีสิทธิในบ้านดังกล่าวประการใด และจำเลยที่ 3 กระทำการขัดขวางอันเป็นการโต้แย้งสิทธิ จำเลยที่ 2 ก็ชอบที่จะต้องฟ้องร้องเป็นคดีใหม่จะร้องขอให้ศาลบังคับในคดีเดิมหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2510/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับตามสัญญาประนีประนอมยอมความ: สิทธิในบ้านต้องฟ้องใหม่หากไม่ได้ระบุในสัญญา
ตามสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์กับจำเลยทั้งสามซึ่งศาลได้พิพากษาตามยอมไปแล้ว ไม่ปรากฏว่ามีบ้านของจำเลยที่ 2ปลูกอยู่ในที่ดินที่ตกลงแบ่งให้จำเลยที่ 3 และมีข้อตกลงให้จำเลยที่ 2รื้อไปได้ การที่จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องอ้างว่ามีบ้านของตนอยู่ในที่ดินนั้นและจะรื้อไป แต่จำเลยที่ 3 ขัดขวาง จึงขอให้ศาลห้ามนั้น เป็นการร้องขอนอกเหนือจากสัญญาประนีประนอมยอมความ หากจำเลยที่ 2จะมีสิทธิในบ้านดังกล่าวประการใด และจำเลยที่ 3 กระทำการขัดขวางอันเป็นการโต้แย้งสิทธิ จำเลยที่ 2 ก็ชอบที่จะต้องฟ้องร้องเป็นคดีใหม่จะร้องขอให้ศาลบังคับในคดีเดิมหาได้ไม่
of 10