พบผลลัพธ์ทั้งหมด 553 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 203/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดี: การไม่ดำเนินการบังคับคดีภายในระยะเวลาที่กำหนด ทำให้สิทธิในการบังคับคดีสิ้นสุดลง
ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ชนะคดี เพียงแต่ขอหมายบังคับคดีไว้เฉยๆ 5-6 ปี มิได้นำยึดเพื่อบังคับให้เป็นผลตามคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นต่อไเมื่อโจทก์ผู้ชนะคดีนี้ได้บังคับคดีเอากับจำเลยผู้ร้องจึงโต้แย้งสิทธิขึ้นมา ดังนี้ จึงเป็นการยากที่จะถือว่ายังอยู่ในระยะเวลาที่ผู้ร้องจะปฏิบัติตามคำพิพากษาเท่าที่จำเป็นเพื่อบังคับตามคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 170/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งระหว่างพิจารณา: การไม่อนุญาตสืบพยานเพิ่มเติมและข้อจำกัดในการอุทธรณ์ฎีกา
ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์ในคดีที่ผู้ร้องขอสืบพยานต่อไป โดยอ้างว่าเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ผู้ร้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์สั่งว่าผู้ร้องอุทธรณ์ไม่ได้ คำสั่งของศาลอุทธรณ์เช่นว่านี้เป็นที่สุด ผู้ร้องจะฎีกาอีกหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 123/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ละเมิดจากความประมาทเลินเล่อของผู้ว่าฯ-อนามัยจังหวัด กรณีเงินยักยอก อายุความ 1 ปี
กรมอนามัยได้ส่งเงินงบประมาณเป็นค่าใช้จ่ายของสถานีอนามัยจังหวัดไปให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้รับเงิน
ผู้ว่าราชการจังหวัดมอบฉันทะให้สารวัตรสุขาภิบาลแผนกอนามัยไปรับเงินแทนแล้วสารวัตรสุขาภิบาลยักยอกเงินนั้นไปเนื่องจากความประมาทเลินเล่อของผู้ว่าราชการจังหวัดและอนามัยจังหวัดดังนี้เป็นกรณีละเมิดต้องใช้อายุความ 1 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 วรรคหนึ่งโดยนับแต่วันที่กระทรวงการคลังได้รับทราบการยักยอกจากสำนวนการสอบสวน และความเห็นของคณะกรรมการที่สอบสวนเรื่องยักยอกเงินรายนี้
ผู้ว่าราชการจังหวัดมอบฉันทะให้สารวัตรสุขาภิบาลแผนกอนามัยไปรับเงินแทนแล้วสารวัตรสุขาภิบาลยักยอกเงินนั้นไปเนื่องจากความประมาทเลินเล่อของผู้ว่าราชการจังหวัดและอนามัยจังหวัดดังนี้เป็นกรณีละเมิดต้องใช้อายุความ 1 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 วรรคหนึ่งโดยนับแต่วันที่กระทรวงการคลังได้รับทราบการยักยอกจากสำนวนการสอบสวน และความเห็นของคณะกรรมการที่สอบสวนเรื่องยักยอกเงินรายนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 123/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางละเมิดของผู้ว่าราชการจังหวัดและอนามัยจังหวัด จากการยักยอกเงินของสารวัตรสุขาภิบาล โดยอายุความ 1 ปี
กรมอนามัยได้ส่งเงินงบประมาณเป็นค่าใช้จ่ายของสถานีอนามัยจังหวัดชัยภูมิไปให้ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิเป็นผู้รับเงิน ผู้ว่าราชการจังหวัดมอบฉันทะให้สารวัตรสุขาภิบาลแผนกอนามัยไปรับเงินแทน แล้วสารวัตรสุขาภิบาลยักยอกเงินนั้นไปด้วยความประมาทเลินเล่อของผู้ว่าราชการจังหวัดและอนามัยจังหวัดดังนี้ เป็นกรณีละเมิด ต้องใช้อายุความ 1 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 458 วรรค 1 โดยนับแต่วันที่กระทรวงการคลังได้รับทราบการยักยอกจากสำนวนสอบสวนและความเห็นของคณะกรรมการที่สอบสวนเรื่องยักยอกเงินรายนี้
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 2/2504)
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 2/2504)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 104/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการยึดเงินประกันการเลือกตั้ง: โจทก์ไม่มีสิทธิยึดเงินประกันการเลือกตั้งโดยตรง แต่มีสิทธิอายัดได้ เงินประกันตกเป็นของรัฐหากผู้สมัครไม่ผ่านเกณฑ์
โจทก์ไม่มีสิทธิขอให้ศาลบังคับคดียึดเงินที่จำเลยวางเป็นประกันไว้ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดในการสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้แทนราษฎรกรณีต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 287 โดยผู้ว่าราชการจังหวัดมีสิทธิชนิดหนึ่งอันเข้าสิทธิอื่นๆ ดังบัญญัติไว้ในมาตรา 287 นั้นโจทก์จะยึดอันเป็นการบังคับเหนือเงินนี้ทีเดียวไม่ได้ ได้ก็แต่เพียงจะอายัดไว้เท่านั้น
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 36/2503)
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 36/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 104/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเหนือเงินประกันการเลือกตั้ง: โจทก์ไม่มีสิทธิยึดเงินประกันการเลือกตั้งที่ผู้ว่าฯ ยึดไว้ได้ เพียงอายัดได้
โจทก์ไม่มีสิทธิขอให้ศาลบังคับคดียึดเงินที่จำเลยวางเป็นประกันไว้ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดในการสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้แทนราษฎร กรณีต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 287 โดยผู้ว่าราชการจังหวัดมีสิทธิชนิดหนึ่งอันเข้าสิทธิอื่นๆ ดังบัญญัติไว้ในมาตรา 287 นั้น โจทก์จะยึดอันเป็นการบังคับเหนือเงินนี้ทีเดียวไม่ได้ ได้ก็แต่เพียงจะอายัดไว้เท่านั้น
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 36/2503
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 36/2503
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1735/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นายจ้างเข้าใจผิดเรื่องค่าจ้างวันหยุดงาน ลูกจ้างไม่ทักท้วงนาน ไม่ถือว่าจงใจผิดนัด
ลูกจ้างรายเดือนที่มาทำงานให้นายจ้างในวันหยุดงาน มีสิทธิได้ค่าจ้างเป็น 2 เท่า ตามพระราชบัญญัติแรงงาน พ.ศ. 2499 มาตรา 26
นายจ้างประกาศไม่จ่ายค่าจ้าง 2 เท่า ให้ลูกจ้างรายเดือนโดยเข้าใจข้อกฎหมายผิด ฝ่ายลูกจ้างไม่ทักท้วงและไม่เรียกร้องเอาค่าจ้างจนล่วง 1 ปี เศษจึงมาฟ้องโดยจำเลยก็ยินดีจะจ่ายให้ตามความเห็นของสารวัดแรงงาน ดังนี้จะถือว่านายจ้างจงใจผิดนัดไม่จ่ายค่าจ้างโดยไม่มีเหตุผลสมควรไม่ได้ ตามพระราชบัญญัติแรงงาน พ.ศ. 2499 มาตรา 33 วรรค 2
นายจ้างประกาศไม่จ่ายค่าจ้าง 2 เท่า ให้ลูกจ้างรายเดือนโดยเข้าใจข้อกฎหมายผิด ฝ่ายลูกจ้างไม่ทักท้วงและไม่เรียกร้องเอาค่าจ้างจนล่วง 1 ปี เศษจึงมาฟ้องโดยจำเลยก็ยินดีจะจ่ายให้ตามความเห็นของสารวัดแรงงาน ดังนี้จะถือว่านายจ้างจงใจผิดนัดไม่จ่ายค่าจ้างโดยไม่มีเหตุผลสมควรไม่ได้ ตามพระราชบัญญัติแรงงาน พ.ศ. 2499 มาตรา 33 วรรค 2
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1735/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นายจ้างเข้าใจผิดเรื่องค่าจ้างทำงานวันหยุด ลูกจ้างไม่ทักท้วงนานกว่า 1 ปี ศาลไม่ถือว่าจงใจผิดนัด
ลูกจ้างรายเดือนที่มาทำงานให้นายจ้างในวันหยุดงานมีสิทธิได้ค่าจ้างเป็น 2 เท่าตามพระราชบัญญัติแรงงาน พ.ศ.2499 มาตรา 26
นายจ้างประกาศไม่จ่ายค่าจ้าง 2 เท่าให้ลูกจ้างรายเดือนโดยเข้าใจข้อกฎหมายผิด ฝ่ายลูกจ้างไม่ทักท้วงและไม่เรียกร้องเอาค่าจ้างจนล่วงเวลา 1 ปีเศษจึงมาฟ้อง โดยจำเลยก็ยินดีจะจ่ายให้ตามความเห็นของสารวัตรแรงงาน ดังนี้ จะถือว่านายจ้างจงใจผิดนัดไม่จ่ายค่าจ้างโดยไม่มีเหตุผลสมควรไม่ได้ ตามพระราชบัญญัติแรงงาน พ.ศ.2499 มาตรา 33 วรรคสอง
นายจ้างประกาศไม่จ่ายค่าจ้าง 2 เท่าให้ลูกจ้างรายเดือนโดยเข้าใจข้อกฎหมายผิด ฝ่ายลูกจ้างไม่ทักท้วงและไม่เรียกร้องเอาค่าจ้างจนล่วงเวลา 1 ปีเศษจึงมาฟ้อง โดยจำเลยก็ยินดีจะจ่ายให้ตามความเห็นของสารวัตรแรงงาน ดังนี้ จะถือว่านายจ้างจงใจผิดนัดไม่จ่ายค่าจ้างโดยไม่มีเหตุผลสมควรไม่ได้ ตามพระราชบัญญัติแรงงาน พ.ศ.2499 มาตรา 33 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1734/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกล่าวหาบุคคลโดยปราศจากเจตนาใส่ร้าย และการแจ้งความเท็จเพื่อแกล้งผู้อื่น
มารดาถูกขว้างด้วยก้อนอิฐ บุตรไม่เห็นคนขว้าง แต่ได้กล่าวต่อหน้าคนหลายคนว่า ไม่มีใครนอกจากอ้ายแก้ว (โจทก์) อ้ายชาติหมา อ้ายฉิบหาย ดังนี้ พฤติการณ์ในคดีแสดงว่าไม่มีเจตนาใส่ความให้โจทก์เสียชื่อเสียง หรือถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ไม่ผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326
ไปให้การเป็นพยานเท็จในชั้นสอบสวนว่า เห็นโจทก์เป็นผู้กระทำผิดอาญา โดยที่ความจริงไม่ได้เห็นเลยนั้น เป็นผิดฐานแจ้งความเท็จเพื่อแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 174 (ประชุใหญ่ครั้งที่ 35/2503)
ไปให้การเป็นพยานเท็จในชั้นสอบสวนว่า เห็นโจทก์เป็นผู้กระทำผิดอาญา โดยที่ความจริงไม่ได้เห็นเลยนั้น เป็นผิดฐานแจ้งความเท็จเพื่อแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 174 (ประชุใหญ่ครั้งที่ 35/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1734/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกล่าวหาโดยปราศจากเจตนาใส่ความไม่เป็นหมิ่นประมาท แต่การแจ้งความเท็จเพื่อแกล้งผู้อื่นเป็นความผิดอาญา
มารดาถูกขว้างด้วยก้อนอิฐ บุตรไม่เห็นคนขว้างแต่ได้กล่าวต่อหน้าคนหลายคนว่า "ไม่มีใครนอกจากอ้ายแก้ว(โจทก์)อ้ายชาติหมา อ้ายฉิบหาย" ดังนี้พฤติการณ์ในคดีแสดงว่าไม่มีเจตนาใส่ความให้โจทก์เสียชื่อเสียงหรือถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ไม่ผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326
ไปให้การเป็นพยานเท็จในชั้นสอบสวนว่าเห็นโจทก์เป็นผู้กระทำผิดอาญา โดยที่ความจริงไม่ได้เห็นเลยนั้นเป็นผิดฐานแจ้งความเท็จเพื่อแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 174 (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 35/2503)
ไปให้การเป็นพยานเท็จในชั้นสอบสวนว่าเห็นโจทก์เป็นผู้กระทำผิดอาญา โดยที่ความจริงไม่ได้เห็นเลยนั้นเป็นผิดฐานแจ้งความเท็จเพื่อแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 174 (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 35/2503)