คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ไชยเจริญ สันติศิริ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 553 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 352/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: การฟ้องแบ่งทรัพย์สินเดิมที่เคยฟ้องแล้ว แม้จะแยกเป็นส่วนของที่งอก ก็ถือเป็นฟ้องซ้ำ
ก่อนฟ้องคดีก่อน โจทก์ ทราบอยู่แล้วว่าที่ดินพิพาทมีที่งอก ครั้นเวลาโจทก์ฟ้องจำเลยในคดีก่อน ฟ้องขอแบ่งเพียงที่ดินภายในโฉนด ไม่ได้ฟ้องขอแบ่งที่งอกด้วย เหตุที่ฟ้องอ้างว่า ที่พิพาทเป็นสินสมรสระหว่างโจทก์กับนางเปลื้องผู้ตายซึ่งเป็นมารดาจำเลย ศาลพิพากษาคดีถึงที่สุดไปแล้ว ต่อมา โจทก์ฟ้องจำเลยในคดีหลัง ขอแบ่งที่งอกอีกอ้างว่าเป็นสินสมรสเช่นคดีก่อน ถือว่าฟ้องคดีหลังเป็นฟ้องซ้ำ ต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 148

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 349/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขโฉนดที่ดินโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายจากการรังวัดสอบเขตที่ไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของร่วม ละเมิดก่อให้เกิดความเสียหาย
กระทรวงเกษตราธิการได้ประกาศให้เจ้าของที่ดินในเขตไฟไหม้นำเจ้าพนักงานทำการรังวัดสอบเขตและปักหลักเขตหมายที่ดินใหม่เจ้าของที่ดินร่วมได้นำเจ้าพนักงานรังวัดสอบเขตโดยเจ้าของที่ดินร่วมอีกผู้หนึ่งมิได้รู้เห็นยินยอมด้วยการรังวัดสอบเขตจึงเป็นการมิชอบเมื่อเจ้าพนักงานที่ดินได้ทำการแก้ไขเนื้อที่ดินและผนึกแผนที่หลังโฉนดตามที่รังวัดสอบเขตใหม่เช่นนี้ การกระทำของเจ้าพนักงานที่ดินจึงเป็นการละเมิดต่อเจ้าของที่ดินที่มิได้รู้เห็นในการรังวัดสอบเขตใหม่และต้องชดใช้ค่าเสียหายด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 349/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรังวัดสอบเขตที่ดินโดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของร่วม และการแก้ไขโฉนดที่ดินโดยเจ้าพนักงานที่ดินถือเป็นการละเมิด
กระทรวงเกษตราธิการได้ประกาศให้เจ้าของที่ดินในเขตไฟไหม้นำเจ้าพนักงานทำการรังวัดสอบเขตและปักหลักเขตหมายที่ดินใหม่ เจ้าของที่ดินร่วมได้นำเจ้าพนักงานรังวัดสอบเขตโดยเจ้าของที่ดินร่วมอีกผู้หนึ่งมิได้รู้เห็นยินยอมด้วย การรังวัดสอบเขตจึงเป็นการมิชอบ เมื่อเจ้าพนักงานที่ดินได้ทำการแก้ไขเนื้อที่ดินและผนึกแผนที่หลังโฉนดตามที่รังวัดสอบเขตใหม่ เช่นนี้ การกระทำของเจ้าพนักงานที่ดินจึงเป็นการละเมิดต่อเจ้าของที่ดินที่มิได้รู้เห็นในการรังวัดสอบเขตใหม่และต้องชดใช้ค่าเสียหายด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 320/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำที่ทำให้ผู้อื่นถูกจับกุม ไม่ถือเป็นการหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังตามกฎหมาย หากเป็นการใช้ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่
จำเลยเอาเครื่องมือปลอมเงินตราและเหรียญปลอมไปซุกใส่บ้านผู้เสียหาย แล้วจำเลยติดต่อให้ตำรวจมาจับ ตำรวจมาค้นได้ของกลาง และจับผู้เสียหายขัง 4 วัน จึงได้ประกันตัวเช่นนี้ การกระทำของจำเลยไม่ผิดฐานทำให้เลื่อมเสียอิสรภาพตาม มาตรา 270 เพราะการที่ผู้เสียหายถูกจับตัวไปกักขังนั้น เป็นเรื่องอยู่ในดุลยพินิจของตำรวจที่จะพิจารณาเห็นสมควรจับกุมตามควรแก่กรณี หาใช่เป็นเรื่องที่จำเลยหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้เสียหายแต่ประการใดไม่
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 4/2503)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 320/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำที่นำไปสู่การจับกุมผู้อื่นโดยตำรวจ ไม่ถือเป็นการหน่วงเหนี่ยวกักขังตามกฎหมาย
จำเลยเอาเครื่องมือปลอมเงินตราและเหรียญปลอมไปซุกใส่บ้านผู้เสียหายแล้วจำเลยติดต่อให้ตำรวจมาจับ ตำรวจมาค้นได้ของกลางและจับผู้เสียหายขัง 4 วัน จึงได้ประกันตัวเช่นนี้ การกระทำของจำเลยไม่ผิดฐานทำให้เสื่อมเสียอิสรภาพตาม มาตรา 270 เพราะการที่ผู้เสียหายถูกจับตัวไปกักขังนั้น เป็นเรื่องอยู่ในดุลพินิจของตำรวจที่จะพิจารณาเห็นสมควรจับกุมตามควรแก่กรณี หาใช่เป็นเรื่องที่จำเลยหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้เสียหายแต่ประการใดไม่ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 4/2503)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 301/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมอบกุญแจตู้เก็บเงิน ไม่ถือเป็นการสละสิทธิครอบครอง ย่อมเป็นความผิดฐานลักทรัพย์
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์และได้ความจากผู้เสียหายว่า จำเลยเป็นน้องผู้เสียหาย ๆ ได้ให้จำเลยเอาเงินไปเก็บในตู้ซึ่งเป็นที่เก็บเงินและเสื้อผ่า ตู้นี้อยู่ในห้องนอนของผู้เสียหาย ๆ ได้มอบกุญแจตู้ให้จำเลยไปด้วย ข้อเท็จจริงดังนี้จะถือว่า ผู้เสียหายสละสิทธิการครอบครองเงินนั้นให้แก่จำเลยแล้ว ยังไม่ได้ ผู้เสียหายยังมีสิทธิครอบครองเงินนั้นอยู่ รูปคดีอาจะเป็นเรื่องลักทรัพย์ไม่ใช่ยักยอก ซึ่งศาลควรฟังพยานโจทก์ต่อไป ไม่ควรสั่งงดสืบพยาน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 301/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองทรัพย์สินของผู้รับมอบ: สิทธิการครอบครองยังไม่สละ หากไม่ได้มอบหมายอย่างชัดเจน
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์และได้ความจากผู้เสียหายว่าจำเลยเป็นน้องผู้เสียหายๆ ได้ให้จำเลยเอาเงินไปเก็บในตู้ซึ่งเป็นที่เก็บเงินและเสื้อผ้า ตู้นี้อยู่ในห้องนอนของผู้เสียหายผู้เสียหายได้มอบกุญแจตู้ให้จำเลยไปด้วย ข้อเท็จจริงดังนี้จะถือว่าผู้เสียหายสละสิทธิการครอบครองเงินนั้นให้แก่จำเลยแล้ว ยังไม่ได้ผู้เสียหายยังมีสิทธิครอบครองเงินนั้นอยู่ รูปคดีอาจเป็นเรื่องลักทรัพย์ไม่ใช่ยักยอก ซึ่งศาลควรฟังพยานโจทก์ต่อไป ไม่ควรสั่งงดสืบพยาน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 299/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผ่านทางในที่ดินแบ่งแยก: กรณีที่ดินเดิมผืนเดียวกันและภารจำยอมตามกฎหมาย
เดิมที่ดินของโจทก์เป็นที่ดินแปลงเดียวกับของ ก. และ ว. และเป็นของบิดาโจทก์ ต่อมาบิดาโจทก์ตาย ที่ดินแปลงนั้นได้แบ่งแยกตกได้แก่โจทก์ ก. และ ว. ที่ดินของโจทก์อยู่ด้านในโจทก์จึงมีสิทธิผ่านที่ดินของ ก. และ ว. ออกสู่ทางสาธารณได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1350 โจทก์หามีสิทธิผ่านออกในที่ดินแปลงอื่นไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 299/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิใช้ทางออก (ทางจำเป็น) เมื่อที่ดินถูกแบ่งแยกและมีทางออกอื่นที่ชอบด้วยกฎหมาย
เดิมที่ดินของโจทก์เป็นที่ดินแปลงเดียวกับของ ก. และ ว . และเป็นของบิดาโจทก์ ต่อมาบิดาโจทก์ตาย ที่ดินแปลงนั้นได้แบ่งแยกตกได้แก่โจทก์ , ก. และ ว. ที่ดินของโจทก์อยู่ด้านในโจทก์จึงมีสิทธิผ่านที่ดินของ ก.และ ว. ออกสู่ทางสาธารณได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1350 โจทก์หามีสิทธิผ่านออกในที่ดินแปลงอื่นไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 288/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนความประสงค์จากสัญญาซื้อขายเป็นสัญญากู้และค้ำประกัน การนำสืบต้องไม่ขัดต่อสัญญาใหม่
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระเงินต้นและดอกเบี้ยในฐานะผู้ค้ำประกันจำเลยต่อสู้ว่า ผู้ซื้อผู้ขายไม่ต้องการทำสัญญาซื้อขายต่อเจ้าหน้าที่ ผู้ซื้อคือโจทก์ เกรงว่าผู้ขายจะกลับถ้อยคืนคำผู้ซื้อให้ทำเป็นสัญญากู้ จำเลยเป็นผู้ค้ำประกัน ดังนี้ เป็นเรื่องคู่สัญญาเปลี่ยนความประสงค์เดิม เมื่อข้อต่อสู้ของจำเลยเป็นเรื่องคู่สัญญาสมัครใจเปลี่ยนทำสัญญากู้และค้ำประกันแทนสัญญาซื้อขายเสียแล้วการที่จำเลยจะนำสืบตามข้อต่อสู้เป็นการขัดต่อสัญญากู้และค้ำประกัน จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
of 56