คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ไชยเจริญ สันติศิริ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 553 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 159/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกีดขวางทางสาธารณะโดยการปิดกั้นทางเดินที่สาธารณะใช้ประโยชน์มานาน แม้ที่ดินอยู่ในโฉนดจำเลย ก็ไม่อาจกระทำได้
ฟ้องว่าจำเลยกีดขวางทางสาธารณะเมื่อข้อเท็จจริงได้ความตามที่ ศาลชั้นต้นเดินเผชิญสืบที่เกิดเหตุประกอบกับคำรับของคู่ความว่า ที่ดินของจำเลยอยู่ริมแม่น้ำ หน้าที่ดินของจำเลยมีทางเดินซึ่งสาธารณชนใช้เดินเลียบริมแม่น้ำมา 15 ปีแล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นอย่างใดที่จะต้องสืบพยานฟังข้อเท็จจริงต่อไป เพราะถึงแม้จะฟังตามฟ้องอุทธรณ์ของจำเลยว่า ทางเดินเดิมได้พังลงแม่น้ำไปหมดแล้ว ทางเดินใหม่ อยู่ในโฉนดของจำเลยก็ตาม เมื่อจำเลยได้สละสิทธิให้สาธารณะชนเดินมานานตั้ง 15 ปี จำเลยจะปิดกั้นเสียหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 154/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กำนันรับสินบนปล่อยผู้ต้องหา ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
กำนันจับผู้ต้องหาเรื่องลักทรัพย์และได้ปล่อยตัวผู้ต้องหาไป ไม่นำส่งต่อพนักงานสอบสวน โดยได้รับเงินจากผู้ต้องหาทั้ง 2 คนละ 250 บาทดังนี้ ย่อมได้ชื่อว่าจำเลยงดเว้นไม่กระทำการตามหน้าที่อันเป็นการมิชอบ การกระทำของจำเลยจึงเป็นผิดตามมาตรา 149
การกระทำที่จะเป็นผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148จะต้องเป็นเรื่องที่จำเลยใช้อำนาจโดยมิชอบ และใช้อำนาจนั้นข่มขืนใจให้เขามอบให้หรือหาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่นโดยมิใช่เรื่องเรียกฯลฯทรัพย์เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งเป็นการตอบแทน เช่น จำเลยแกล้งจับเขามาข่มขู่ขืนใจเรียกเอาเงินทองเขาโดยไม่ปรากฏว่าเกิดการกระทำผิดขึ้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 154/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กำนันละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ปล่อยผู้ต้องหาหลังรับเงิน ถือความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
กำนันจับผู้ต้องหาเรื่องลักทรัพย์และได้ปล่อยตัวผู้ต้องหาไป ไม่นำส่งต่อพนักงานสอบสวน โดยได้รับเงินจากผู้ต้องหาทั้ง 2 คนละ 250 บาท ดังนี้ ย่อมได้ชื่อว่าจำเลยงดเว้นไม่กระทำการตามหน้าที่อันเป็นการมิชอบ การกระทำของจำเลยจึงเป็นผิดตาม มาตรา 149
การกระทำที่จะเป็นผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 จะต้องเป็นเรื่องที่จำเลยใช้อำนาจโดยมิชอบ และใช้อำนาจข่มขืนใจให้เขามอบให้หรือหาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่นโดยมิใช่เรื่องเรียก ฯลฯ ทรัพย์เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งเป็นการตอบแทน เช่น จำเลย แกล้งจับเขามาข่มขู่ขืนใจ เรียกเอาเงินทองเขาโดยไม่ปรากฏว่าเกิดการกระทำผิดขึ้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 146/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลายมือชื่อ vs. ลายนิ้วมือในสัญญา: พยานรับรองและผลทางกฎหมาย
ตาม ป.พ.พ. มาตรา 9 วรรค 3 ประสงค์เพียงว่า กิจการใดที่กฎหมายบังคับให้ทำเป็นหนังสือ เมื่อบุคคลนั้นไม่สามารถลงลายมือชื่อได้ หากจะพิมพ์ลายนิ้วมือแทน จะต้องมีพยานลงลายมือชื่อรับรองอย่างน้อย 2 คน จึงจะมีผลเท่ากับบุคคลนั้นลงลายมือชื่อโดยพยานผู้รับรองไม่จำเป็นต้องรู้ข้อความในเอกสารนั้น ส่วนข้อความในเอกสารจะมีประการใด เป็นข้อเท็จจริงอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งในคดีนี้คู่ความอาจนำสืบได้ตามประเด็น คือเอกสารนี้ปลอมหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 146/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลายมือชื่อ vs. ลายนิ้วมือในสัญญา: พยานรับรองไม่จำเป็นต้องรู้ข้อความ
ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 9 วรรค3 ประสงค์เพียงว่า กิจการใดที่กฎหมายบังคับให้ทำเป็นหนังสือ เมื่อบุคคลนั้นไม่สามารถลงลายมือชื่อได้ หากจะพิมพ์ลายนิ้วมือแทน จะต้องมีพยานลงลายมือชื่อรับรองอย่างน้อย 2 คน จึงจะมีผลเท่ากับบุคคลนั้นลงลายมือชื่อโดยพยานผู้รับรองไม่จำเป็นต้องรู้ข้อความในเอกสารนั้น ส่วนข้อความในเอกสารจะมีประการใดเป็นข้อเท็จจริงอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งในคดีนี้คู่ความอาจนำสืบได้ตามประเด็น คือ เอกสารนี้ปลอมหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 136/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าไม่จดทะเบียน, สัญญาใหม่, การขึ้นค่าเช่า, สิทธิบอกเลิกสัญญา, ผลของสัญญาเช่า
หนังสือสัญญาเช่าที่โจทก์จำเลยทำกันมีกำหนดระยะเวลา 5 ปีแต่มิได้นำไปจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ หาตกเป็นโมฆะไม่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 538 ให้ฟ้องร้องบังคับคดีได้เพียง 3 ปี
แต่เมื่อครบกำหนด 3 ปีแล้ว จำเลยผู้เช่ายังคงอยู่ในห้องเช่าต่อมาตามมาตรา 570 ให้ถือว่าคู่สัญญาเป็นอันทำสัญญาใหม่ต่อไปไม่มีกำหนดเวลาคู่สัญญามีสิทธิบอกเลิกสัญญาเวลาใดเวลาหนึ่งก็ได้ แต่ข้อสัญญาอื่นๆ คงเป็นไปตามหนังสือสัญญาเช่าเดิม ฉะนั้น เมื่อโจทก์จำเลยตกลงกันไว้ว่าถ้าครบกำหนด 5 ปีเมื่อใดจำเลยยินยอมขึ้นค่าเช่าให้ข้อสัญญานี้ย่อมผูกพันจำเลยให้ต้องปฏิบัติตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 136/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าไม่จดทะเบียน, สัญญาใหม่หลังครบกำหนด, การผูกพันตามข้อตกลงเรื่องค่าเช่า
หนังสือสัญญาเช่าที่โจทก์จำเลยทำกันมีกำหนดระยะเวลา 5 ปี แต่มิได้นำไปจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ หาตกเป็นโมฆะไม่ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 538 ให้ฟ้องร้องบังคับคดีได้เพียง 3 ปี
แต่เมื่อครบกำหนด 3 ปีแล้ว จำเลยผู้เช่ายังคงอยู่ในห้องเช่าต่อมา ตามมาตรา 570 ให้ถือว่า คู่สัญญาเป็นอันทำสัญญาใหม่ ต่อไปไม่มีกำหนดเวลา คู่สัญญามีสิทธิบอกเลิกสัญญาเวลาใดเวลาหนึ่งก็ได้ แต่ข้อสัญญาอื่น ๆ คงเป็นไปตามหนังสือสัญญาเช่าเดิม ฉะนั้น เมื่อโจทก์จำเลยตกลงกันไว้ว่า ถ้าครบกำหนด 5 ปีเมื่อใด จำเลยยินยอมขึ้นค่าเช่าให้ ข้อสัญญานี้ย่อมผูกพันจำเลยให้ต้องปฏิบัติตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 134/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนับโทษจำคุกต้องรอให้คดีที่อ้างอิงถึงสิ้นสุดการพิจารณา
ศาลจะสั่งให้นับโทษจำเลยต่อจากคดีที่ยังอยู่ในระหว่างพิจารณาหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 134/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนับโทษจำคุกต้องรอคดีความที่ยังไม่สิ้นสุด
ศาลจะสั่งให้นับโทษจำเลยต่อจากคดีที่ยังอยู่ในระหว่างพิจารณาได้หาไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 133/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ที่ดินมือเปล่าเป็นที่บ้าน, อายุความครอบครอง, การพิสูจน์สิทธิโดยอาศัยกฎหมายลักษณะเบ็ดเสร็จ
ที่ดินของโจทก์ซึ่งอยู่ติดกับที่ดินจำเลยเป็นที่ดินมือเปล่า ตามสภาพพออนุมานได้ว่าเป็นที่บ้าน เมื่อโจทก์กล่าวอ้างในฟ้องว่าโจทก์มีกรรมสิทธิไม่ใช่แค่เพียงสิทธิครอบครอง จึงควรฟังข้อนำสืบของโจทก์ว่ามีกรรมสิทธิ์ไม่ใช่แต่เพียงสิทธิครอบครอง จึงควรฟังข้อนำสืบของโจทก์ว่ามีกรรมสิทธิ์โดยอาศัยกฎหมายบทใดเสียก่อน ไม่ควรด่วนงดสืบพยาน อนึ่ง ในเรื่องอายุความ จะถือเอาระยะเริ่มที่โจทก์เค้าครอบครองที่ดินเป็นต้นมาไม่ได้ ต้องพิจารณาว่าที่เป็นที่บ้านมาแต่เมื่อใด ถ้าที่ดินได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายลักษณะเบ็ดเสร็จ บทที่ 42แล้ว โจทก์จะต้องละทิ้ง 9 ปี 10 ปี จึงจะขาดสิทธิ
of 56