คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ไชยเจริญ สันติศิริ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 553 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพาผู้ต้องขังหลุดพ้นจากการคุมขัง แม้จะไปด้วยกัน ก็ถือว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๐๔
จำเลยเป็นตำรวจอยู่เวรรักษาเหตุการณ์บนสถานีตำรวจ ได้นำผู้ต้องขังตามหมายขังของศาลไปเสียจากที่คุมขังบนสถานีตำรวจ พาไปเที่ยวหาความสำราญในตลาด แม้ว่าจำเลยจะไปด้วยกับผู้ต้องขังนั้น ก็ไม่ถือว่าเป็นการควบคุมจำเลยต้องมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 204 เพราะเป็นเรื่องไปเที่ยวหาความสำราญ ถือได้ว่า จำเลยได้กระทำให้ผู้ต้องขังหลุดพ้นจากการคุมขังไปแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลำดับทายาท & อายุความมรดก: โจทก์เป็นญาติสนิทกว่า ย่อมมีสิทธิเหนือกว่าจำเลย และตัดอายุความมรดก 1 ปี
ถ้าฟังว่าโจทก์เป็นญาตที่สนิทของเจ้ามรดกยิ่งกว่าจำเลยแล้ว จำเลยก็ย่อมไม่อาจยกอายุความ มรดก 1 ปี มาตัดฟ้องของโจทก์ได้
(เทียบฎีกาที่ 19/2495)
จำเลยกล่าวอ้างในคำให้การต่อสู้คดีว่า ตนเป็นทายาทโดยพินัยกรรม เพื่อตัดโจทก์ผู้เป็นทายาทโดยธรรมเช่นนี้ จำเลยต้องเป็นฝ่ายมีหน้าที่นำสืบก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลำดับทายาท & อายุความมรดก: ทายาทโดยธรรมที่มีความสนิทใกล้ชิดกว่า ย่อมฟ้องได้แม้จำเลยอ้างเป็นทายาทโดยพินัยกรรม
ถ้าฟังว่าโจทก์เป็นญาติที่สนิทของเจ้ามรดกยิ่งกว่าจำเลยแล้วจำเลยก็ย่อมไม่อาจยกอายุความมรดก 1 ปี มาตัดฟ้องของโจทก์ได้(เทียบฎีกาที่ 19/2495)
จำเลยกล่าวอ้างในคำให้การต่อสู้คดีว่า ตนเป็นทายาทโดยพินัยกรรมเพื่อตัดโจทก์ผู้เป็นทายาทโดยธรรมเช่นนี้ จำเลยต้องเป็นฝ่ายมีหน้าที่ทำสืบก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1250/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยิงผู้ต้องสงสัยลักทรัพย์ ไม่เข้าข่ายป้องกันสิทธิโดยชอบธรรมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68
ตอนกลางคืนก่อนเกิดเหตุ ยางแผ่น 4 - 5 แผ่น ของจำเลยหายไป แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนร้าย จำเลยจึงไปแจ้งความต่อผู้ใหญ่บ้านไว้
รุ่งเช้าจำเลยพบยางซ่อนอยู่ในป่าและดักซุ่มรอคอยอยู่ห่างกองยาง 10 วา นาน 3 - 4 ชั่วโมง ผู้ตายก็มาเอายางออกจากที่ซ่อนเดินไปได้ 3 - 4 วา จำเลยใช้ปืนยิงผู้ตายถึงแก่ความตาย
ดังนี้ถือว่า การกระทำของจำเลยไม่เป็นการป้องกันสิทธิของตน ให้พ้นจากอันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้าย อันละเมิดต่อประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68 จำเลยจึงมีผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนา
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 16/2502

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1250/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันสิทธิในทรัพย์สิน: การดักซุ่มรอและยิงขโมยยาง ไม่ถือเป็นการป้องกันโดยชอบธรรม
ตอนกลางคืนก่อนเกิดเหตุ ยางแผ่น 4-5 แผ่น ของจำเลยหายไป แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนร้าย จำเลยจึงไปแจ้งความต่อผู้ใหญ่บ้านไว้ รุ่งเช้าจำเลยพบยางซ่อนอยู่ในป่าและดักซุ่มรอคอยอยู่ห่างกองยาง 10 วา นาน 3-4 ชั่วโมงผู้ตายก็มาเอายางออกจากที่ซ่อนเดินไปได้ 3-4 วา จำเลยใช้ปืนยิงผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ถือว่า การกระทำของจำเลยไม่เป็นการป้องกันสิทธิของตนให้พ้นจากอันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อประมวลกฎหมายอาญามาตรา 68 จำเลยจึงมีผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนา (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 16/2502)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1248/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หุ้นส่วนจำกัดความรับผิด: การฟ้องเรียกค่าเสียหายต้องแสดงให้เห็นว่าจำเลยที่ 2 เป็นหุ้นส่วนด้วย
โจทก์ฟ้องให้จำเลยทั้งสองรับผิดฐานหุ้นส่วน ถ้าฟ้องของโจทก์มิได้บรรยายให้เห็นว่า จำเลยที่ 2เป็นหุ้นส่วนกับโจทก์ ถึงแม้จำเลยที่ 2 จะเข้ามาเป็นตัวแทนของจำเลยที่ 1 ในการขายสุกรของหุ้นส่วนก็ดี ศาลก็จะบังคับให้จำเลยที่ 2 รับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1 ในฐานะเป็นหุ้นส่วนไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1248/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเรียกค่าเสียหายจากหุ้นส่วนและการพิสูจน์ความเป็นหุ้นส่วนของจำเลยที่ 2
โจทก์ฟ้องให้จำเลยทั้งสองรับผิดฐานหุ้นส่วนถ้าฟ้องของโจทก์มิได้บรรยายให้เห็นว่า จำเลยที่ 2 เป็นหุ้นส่วนกับโจทก์ ถึงแม้จำเลยที่ 2 จะเข้ามาเป็นตัวแทนของจำเลยที่ 1 ในการขายสุกรของหุ้นส่วนก็ดี ศาลก็จะบังคับให้จำเลยที่ 2 รับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1 ในฐานะเป็นหุ้นส่วนไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1230/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีอาญาก่อน พ.ร.บ.ศาลแขวง และการใช้บทกฎหมายที่หนักกว่าเป็นคุณแก่จำเลย
คดีอาญาเหตุเกิดและอยู่ในระหว่าง สอบสวนของพนักงานสอบสวนก่อนใช้ พ.ร.บ. จัดตั้งศาลแขวง ฯ พ.ศ. 2499 อัยการโจทก์ย่อมมีอำนาจดำเนินคดีได้โดยไม่ต้องมีการไต่สวนมูลฟ้องในศาลแขวงก่อน
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 342 เป็นคุณแก่ผู้กระทำผิดกว่ากฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 306 เพราะกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 306 มีกำหนดโทษจำคุกขั้นต่ำและอัตราปรับอย่างต่ำเป็นบทบังคับไว้ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1230/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดำเนินคดีอาญาก่อนมี พ.ร.บ.ศาลแขวง และการใช้บทกฎหมายที่หนักกว่าเป็นคุณแก่จำเลย
คดีอาญาเหตุเกิดและอยู่ในระหว่างสอบสวนของพนักงานสอบสวนก่อนใช้ พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงฯ พ.ศ.2499 อัยการโจทก์ย่อมมีอำนาจดำเนินคดีได้โดยไม่ต้องมีการไต่สวนมูลฟ้องในศาลแขวงก่อน
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 342 เป็นคุณแก่ผู้กระทำผิดกว่ากฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 306 เพราะกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา306 มีกำหนดโทษจำคุกขั้นต่ำและอัตราปรับอย่างต่ำเป็นบทบังคับไว้ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1194/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวและทรัพย์: จำเลยต่อสู้กับผู้ลักทรัพย์ที่ทำร้ายถึงแก่ความตาย ศาลยกฟ้อง
ผู้ตายกับจำเลยไม่เคยรู้จักกันมาก่อนไม่มีเหตุโกรธเคืองกัน ผู้ตายได้ลักลูกโคของจำเลยมาฆ่าและเตรียมจะหามไป จำเลย ตามมาพบเข้าจึงเกิดต่อสู้กัน ต่างฝ่ายต่างมีมีด ในที่สุดผู้ตายก็ตาย ทำร้ายกันอย่างไรไม่ปรากฏ เช่นนี้ถือว่า เป็นเรื่องจำเลยป้องกันตัวและทรัพย์พอสมควรแก่เหตุ
of 56