คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 1336.

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 24 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1165/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดิน: ผู้ครอบครองแต่เพียงผู้เดียวมีสิทธิจดทะเบียนได้ ผู้ขอโฉนดทับที่ไม่มีสิทธิ
ที่ดินมือเปล่าที่มีเจ้าของครอบครองมาฝ่ายเดียวนั้น เจ้าของย่อมอยู่ในฐานะที่จะจดทะเบียนสิทธิได้ ส่วนผู้ที่ไม่ได้ ครอบครองแม้จะได้ขอออกโฉนดทับที่เขา ก็ไม่ได้อยู่ในฐานะจะจดทะเบียนสิทธิได้ ฉะนั้นแม้จะได้โฉนดมาแล้ว โอนขายได้ ทั้งผู้โอนและผู้รับโอนโดย +ทุจริต ต่างก็ไม่มีใครจะเอาที่ดินนั้นเป็นสิทธิได้./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 893/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดินมรดก: คำสั่งศาลแสดงสิทธิครอบครองไม่ตัดสิทธิทายาท
ไปร้องต่อศาลขอให้แสดงสิทธิครอบครองในที่ดินมีโฉนดอ้างว่าเจ้าของที่ดินขายให้คนนั้นแม้ศาลจะมีคำสั่งแสดง ว่าผู้นั้นได้สิทธิครอบครองในที่ดินนั้น ก็ตามเมื่อความจริงปรากฎว่า เจ้าจองที่ดินนั้นมิได้ขาย เป็นแต่ให้เช่าดังนี้ คำสั่งของศาลดังกล่าวย่อมไม่เป็นการตัดสิทธิเจ้าของที่ดินหรือทายาทที่จะฟ้องเรียกร้องเอาที่ดินนั้นคืนมา./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 562/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการครอบครองเรือนในที่ดินเช่าสิ้นสุดเมื่อสัญญาเช่าที่ดินสิ้นสุด ผู้เช่าเรือนไม่ได้รับการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
ปลูกเรือนอยู่ในที่ผู้อื่นเขาโดยอาศัยสิทธิการเช่าที่ดินของน้องภรรยา เมื่อน้องภรรยาบอกเลิกการเช่าที่ดินกับเจ้า ของที่ดินแล้ว คนย่อมไม่มีสิทธิอันใดที่จะให้เรือนตนคงปลูกอยู่ในที่ดินของเขาค่อไปได้แม้ผู้เช่าเรือนนั้นอยู่อาศัย ก็ย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 525/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดที่ดินหลังทำยอมโอนกรรมสิทธิ์แต่ยังไม่ได้โอนจริง เจ้าหนี้มีสิทธิยึดได้
จำเลยทำยอมต่อศาล ยอมโอนที่ดินแปลงหนึ่งของจำเลยให้ผู้ร้องภายใน 7 วัน นับแต่วันทำยอมในระหว่างนั้น โจทก์ฟ้องจำเลยเรียกเงิน ตามสัญญากู้ จำเลยก็ทำยอมใช้เงินแก่โจทก์แล้วไม่ชำระ โจทก์จึงนำเจ้าพนักงานที่ดินที่จำเลยทำยอมแก่ผู้ร้องดังกล่าวข้างต้น ผู้ร้องจึงมาขัดทรัพย์ดังนี้ เมื่อปรากฏว่า ขณะนำยึด จำเลยยังไม่ได้ทำการโอนกรรมสิทธิในที่พิพาทจึงยังเป็นของจำเลยอยู่ โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้มีสิทธิที่จะยึดที่ดินรายนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 517/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดต่อค่าเสียหายจากการใช้งานช้างเกินสมควรจนตาย และอำนาจฟ้องของเจ้าของช้าง
ในการขายฝากช้างกันนั้น ถ้าผู้ซื้อฝากใช้ช้างให้ทำการงานเกินสมควร แม้ช้างเจ็บป่วยก็ไม่ให้หยุดพักรักษาช้างสมบูรณ์ดีเสียก่อน กลับใช้งานจนช้างตาย ดังนี้ ผู้ซื้อฝากต้องรบผิดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้ขายฝากตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 501.
โจทก์ที่ 1 ซื้อช้างจากโจทก์ที่ 2 ชำระราคาช้าง และส่งมอบช้างกันเสร็จเด็ดขาดแล้ว แต่ยังมิได้โอนตั๋วพิมพ์รูปพรรณ ต่อมาโจทก์ที่ 1 เอาช้างนั้นไปขายฝากไว้แก่จำเลย แต่ให้โจทก์ที่ 2 เป็นคู่สัญญากับจำเลยในการทำสัญญาขายฝากที่อำเภอ เพราะยังมีชื่อโจทก์ที่ 2 เป็นเจ้าของในตั๋วพิมพ์รูปพรรณอยุ่ ดังนี้ ภายหลังจำเลยทำช้างตายโดยความผิดของจำเลย โจทก์ที่ 1 และโจทก์ที่ 2 ย่อมมีอำนาจมาเป็นโจทก์ร่วมกัน ฟ้องอำนาจเป็นโจทก์ร่วมกัน ฟ้องจำเลยให้ใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ที่ 1 ซึ่งเป็นเจ้าของช้างที่แท้จริง ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 514/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนทรัพย์สินโดยบุคคลที่เป็นศัตรูต่อสหประชาชาติเป็นโมฆะ ผู้ซื้อสิทธิไม่ดีกว่าผู้โอน
บุคคลที่ทางราชการได้ประกาศเป็นบุคคลที่เป็นสัตรูต่อสหประชาชาติแล้วนั้น ยังขืนโอนทรัพย์สินของตนให้ผู้อื่นไป การโอนนั้นย่อมเป็นการละเมิดต่อ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกักคุมตัวและการควบคุมจัดกิจการหรือทรัพย์สินของบุคคลที่สัตรูต่อสหประชาชาติ จึงตกเป็นโมฆะฉะนั้นถ้ามีผู้ใดรับซื้อทรัพย์ทีโอนนั้นไปอีก ก็ไม่ทำให้ผู้ซื้อมีสิทธิดีกว่า ผู้โอน ก.ท.ส. จึงมีอำนาจฟ้องเรียกทรัพย์นั้นคืนมาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 438/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของห้องแถวบนที่ดินผู้อื่นมีสิทธิความเป็นเจ้าของ แม้ไม่จดทะเบียน การขายโดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นโมฆะ
เจ้าของห้องแถวที่ปลูกอยู่ในที่ดินของผู้อื่นนั้น การเป็นเจ้าของห้องแถวไม่ต้องจดทะเบียนก็ทรงสิทธิเป็นเจ้าของได้ ฉะนั้นการที่มีผู้อื่นเอาห้องแถวนั้นไปขายแก่คนภายนอก แม้การซื้อขายนั้นผู้ซื้อจะสุจริตและสตางค์เสียค่าตอบแทนทำสัญญากันที่อำเภอก็ตาม เมื่อเจ้าของห้องแถวไม่รู้เห็นยินยอมแล้ว ก็้เข้าหลักกฎหมายที่ว่า ผู้รับโอนไม่มีสิทธิดีกว่าผู้โอน เจ้าของจึงขอให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขายนั้นได้กรณีไม่เข้าตามมาตรา 1299 หรือ 1300

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 264/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับมรดกโดยไม่สุจริตไม่ทำให้กรรมสิทธิของทายาทร่วมเสียไป สามารถฟ้องให้ศาลใส่ชื่อเป็นเจ้าของร่วมได้
ทายาทลำดับเดียวกันได้รับมรดดกเป็นที่ดินแล้ว ต่างได้ครอบครองเป็นเจ้าของร่วมกันมาเกินกว่า 10 ปีแล้ว โดยยังมิได้โอนโฉนดกัน ครั้งภายหลังทายาทคนหนึ่งไปประกาศขอรับมรดกใส่ชื่อตนเป็นเจ้าของเสียแต่ผู้เดียว ดังนี้ เมื่อได้ความว่า การที่เพราะเชื่อถ้อยคำของทายาทคนแรกว่าจะลงชื่อตนเป็นผู้รับมรดกด้วย ฉะนั้นการรับมรดกของทายาทคนแรกจึงเป็นไปโดยไม่สุจริต หาทำให้ทายาทอีกคนหนึ่งขาดกรรมสิทธิในที่ดินมรดกนั้นไม่ ทายาทผู้นั้นมีสิทธิฟ้องของให้ศาลใส่ชื่อตนเป็นเจ้าของร่วมด้วยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 199/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อทรัพย์สินจากผู้ไม่มีสิทธิโอน กรรมสิทธิไม่ตกแก่ผู้ซื้อ แม้จะซื้อโดยสุจริต เจ้าของเดิมมีสิทธิเรียกคืนได้
ซื้อเรือมาดไว้จากผู้ที่ยักยอกเจ้าของมา แม้จะซื้อไว้โดยสุจริต ก็ไม่ได้กรรมสิทธิเจ้าของย่อมมีสิทธิติดตามเอาคืนได้
โจทก์ฟ้องเรียกเรือคืนจากจำเลย ๆ ให้การต่อสู้คดีแต่เพียงว่า เรือพิพาทเป็นทรัพย์ของผู้อื่น และจำเลยซื้อจากผู้นั้น โดยเสียค่าตอบแทนโดยสุจริตเท่านั้น ดังนี้ ประเด็นข้อที่ว่า ผู้ขายเป็นพ่อค้าขายเรือหรือไม่ จึงไม่ต้องวินิจฉัยและจำเลยไม่มีสิทธิจะยกประเด็นข้อนี้ขึ้นอ้างอิงในชั้นฎีกาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 896/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องขับไล่กรณีเช่าช่วง: ฟ้องไม่เคลือบคลุมเมื่อระบุชัดถึงการเช่าช่วงโดยไม่ได้รับความยินยอม
ฟ้องโจทก์กล่าวว่า "การที่จำเลยได้เช่าห้องของข้าพเจ้าไปนี้ จำเลยหาได้ทำการค้าด้วยตนเองไม่ ความจริงจำเลยได้ให้ผู้มีชื่อเช่าช่วงไปทำการค้า โดยมิได้รับความยินยอมจากข้าพเจ้า ทั้งเป็นการผิดสัญญาที่จำเลยได้ทำไว้กับข้าพเจ้าอีกด้วย" ดังนี้ ฟ้องโจทก์ชัดอยู่แล้วว่า จำเลยเอาห้องที่เช่าจากโจทก์ทั้งหมดไปให้ผู้อื่นเช่าช่วง ซึ่งก็ตรงตามเรื่องที่โจทก์กล่าวหา จึ่งไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
of 3