คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สารรักษ์ประนาท

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 472 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1288/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายใบอนุญาตส่งข้าวขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน เป็นโมฆะ
การที่ได้รับอนุญาตให้ส่งข้าวไปต่างประเทศนั้น เป็นสิทธิเฉพาะตัว จะโอนหรือซื้อขายกันไม่ได้
สัญญาซื้อขายใบอนุญาตให้ส่งข้าวไปต่างประเทศนี้เป็นสัญญาที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน เพราะเป็นผลกระทบกระเทือนถึงราคาข้าวซึ่งในที่สุดจะทำให้ผู้ผลิตได้รับน้อยลง
เงินราคาใบอนุญาตส่งข้าวไปต่างประเทศซึ่งคู่สัญญาในการซื้อขายได้ชำระไปแล้วบางส่วนนั้นจะเรียกคืนหาได้ไม่เพราะสัญญามีวัตถุประสงค์ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 11/2501)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1283/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การออกเงินไถ่ที่ดินร่วมกันทำให้เกิดกรรมสิทธิ์ในที่ดินตามส่วน
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยชวนออกเงินเข้าหุ้นคนละเท่า ๆ กัน ไปไถ่ถอนที่ดินพิพาท เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ตามฟ้องและไม่ปรากฎว่าข้อเท็จจริงหรือพฤติการณ์เป็นอย่างอื่น ก็ต้องถือว่าโจทก์ออกเงินไปโดยประสงค์จะเป็นเจ้าของที่พิพาทตามส่วน โจทก์จึงเป็นเจ้าของที่พิพาทร่วมกับจำเลยการที่โจทก์จะได้เป็นทายาทของบิดามารดาจำเลยหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องวินิจฉัยในคดีนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1283/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร่วมลงทุนไถ่ที่ดินและสิทธิความเป็นเจ้าของร่วม
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยชวนออกเงินเข้าหุ้นคนละเท่าๆ กันไปไถ่ถอนที่ดินพิพาท เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ตามฟ้องและไม่ปรากฏว่าข้อเท็จจริงหรือพฤติการณ์เป็นอย่างอื่น ก็ต้องถือว่าโจทก์ออกเงินไปโดยประสงค์จะเป็นเจ้าของที่พิพาทตามส่วน โจทก์จึงเป็นเจ้าของที่พิพาทร่วมกับจำเลย การที่โจทก์จะได้เป็นทายาทของบิดามารดาจำเลยหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องวินิจฉัยในคดีนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1281/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจยื่นคำขอรับชำระหนี้หลังเลิกบริษัท: การให้สัตยาบันโดยผู้ชำระบัญชีทำให้คำขอรับชำระหนี้ไม่เสียไป
บริษัทจำกัดที่ฮ่องกงมีมติให้เลิกบริษัทและตั้งผู้ชำระบัญชีเมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2495 ส่วนสาขาในประเทศไทยได้จดทะเบียนเลิกกิจการเมื่อ พ.ศ.2496 ในระหว่างระยะเวลาดังกล่าวต้องถือว่า สาขาในประเทศไทยยังคงดำเนินกิจการในฐานะเป็นตัวแทนของบริษัทจำกัดที่ฮ่องกงนั้นอยู่ ถ้าเป็นเวลาก่อนที่สาขาในประเทศไทยได้ไปจดทะเบียนเลิกกิจการ นายจูกงซี ซึ่งได้รับแต่งตั้งจากบริษัทที่ฮ่องกงให้เป็นผู้จัดการสาขาในประเทศไทยก่อนบริษัทเลิกและให้ชำระบัญชี ย่อมมีอำนาจโดยสมบูรณ์ที่จะยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย ในฐานะยังเป็นตัวแทนของบริษัทจำกัดที่ฮ่องกงนั้นอยู่
แต่ถึงแม้ว่าในขณะที่นายจูกงซียื่นคำขอรับชำระหนี้ภายหลังที่สาขาในประเทศไทยได้เลิกกิจการไปแล้ว อันเป็นผลให้การยื่นคำขอรับชำระหนี้ของนายจูกงซีเป็นการกระทำโดยปราศจากอำนาจเพราะเหตุที่บริษัทจำกัดที่ฮ่องกงได้เลิกกิจการและตั้งผู้ชำระบัญชีขึ้นแล้วด้วยก็ดี แต่ผู้ชำระบัญชีก็ได้มีหนังสือแต่งตั้งให้นายจูกงซีมีอำนาจกระทำการแทนบริษัทซ้ำมาอีก เป็นการให้สัตยาบันแก่การที่นายจูกงซียื่นคำขอรับชำระหนี้ไว้ก่อนที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หรือศาลแพ่งจะได้มีคำสั่งในเรื่องนี้ คำขอรับชำระหนี้ของนายจูกงซีย่อมไม่เสียไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1259/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทิศที่ดินเป็นที่สาธารณประโยชน์โดยคำขอรังวัด มีผลผูกพันตามกฎหมาย แม้ไม่แก้โฉนด
เกี่ยวกับที่พิพาทปรากฏในคำขอร้องรังวัดของโจทก์ว่า โจทก์ยินยอมขอให้รังวัดตั้งแต่ทางเกวียนจนจดถนนสาย 22 เป็นที่สาธารณประโยชน์ คำขอเช่นว่านี้ก็เสมือนคำขออุทิศเป็นลายลักษณ์อักษรของโจทก์นั่นเอง
การอุทิศให้เป็นที่สาธารณประโยชน์นี้ ไม่จำต้องแก้โฉนดก็ใช้บังคับได้ตามนัยฎีกาที่ 765/2498

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1258/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแต่งทนายโดยไม่เป็นลายลักษณ์อักษร ศาลอนุญาตให้แก้ไขได้หากไม่มีเจตนาประวิงคดี
ทนายดำเนินกระบวนพิจารณาแทนโจทก์มาตั้งแต่ศาลชั้นต้นจนเสร็จสำนวนแล้วลงชื่อยื่นฟ้องอุทธรณ์แทนโจทก์อีก แต่มิได้มีการแต่งทนายไว้ เพราะความพลั้งเผลอทั้งมิได้ประวิงคดีหรือเอาเปรียบในเชิงคดีและศาลชั้นต้นก็ได้สั่งรับอุทธรณ์เมื่อคดีมาถึงชั้นศาลฎีกาตัวโจทก์ก็ได้แต่งทนายผู้นี้ไว้แล้วในวันยื่นฎีกา ดังนี้แม้จะเป็นการปฏิบัติผิด ป.วิ.แพ่ง ก็สมควรที่ศาลจะอนุญาตให้ทำเสียให้ถูกต้องได้ตาม มาตรา 27 และพอถือได้ว่าการพิจารณาและการอุทธรณ์เป็นการชอบแล้ว
(เทียบฎีกาที่ 1894/2499)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1258/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอนุญาตให้ทนายดำเนินการโดยมิได้แต่งตั้งอย่างเป็นทางการ หากไม่มีผลเสียต่อคู่ความ
ทนายดำเนินกระบวนพิจารณาแทนโจทก์มาตั้งแต่ศาลชั้นต้นจนเสร็จสำนวนแล้วลงชื่อยื่นฟ้องอุทธรณ์แทนโจทก์อีก แต่มิได้มีการแต่งทนายไว้เพราะความพลั้งเผลอทั้งมิได้ประวิงคดีหรือเอาเปรียบในเชิงคดี และศาลชั้นต้นก็ได้สั่งรับอุทธรณ์ เมื่อคดีมาถึงชั้นศาลฎีกาตัวโจทก์ก็ได้แต่งทนายผู้นี้ไว้แล้วในวันยื่นฎีกา ดังนี้ แม้จะเป็นการปฏิบัติผิดประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ก็สมควรที่ศาลจะอนุญาตให้ทำเสียให้ถูกต้องได้ตาม มาตรา 27 และ พอถือได้ว่าการพิจารณาและการอุทธรณ์เป็นการชอบแล้ว (เทียบฎีกาที่ 1894/2499)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1186/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยยังไม่มีฐานะเป็นจำเลย จึงไม่มีสิทธิฎีกา จนกว่าศาลจะประทับฟ้อง
ในคดีอาญาที่ราษฎรเป็นโจทก์ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วพิพากษายกฟ้องว่าเป็นฟ้องซ้ำ แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ไต่สวนต่อไป ดังนี้ จำเลยจะฎีกายังไม่ได้ เพราะจำเลยยังไม่มีฐานะเป็นจำเลย เป็นเรื่องระหว่างศาลกับโจทก์เท่านั้น (เทียบฎีกาที่ 1674/2494)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1186/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยยังไม่มีฐานะเป็นจำเลย จึงไม่มีสิทธิฎีกาในชั้นนี้ เป็นเรื่องระหว่างศาลกับโจทก์
ในคดีอาญาที่ราษฎรเป็นโจทก์ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วพิพากษายกฟ้องว่าเป็นฟ้องซ้ำ แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ไต่สวนต่อไป ดังนี้จำเลยจะฎีกายังไม่ได้ เพราะจำเลยยังไม่มีฐานะเป็นจำเลย เป็นเรื่องระหว่างศาลกับโจทก์เท่านั้น
(เทียบฎีกาที่ 1674/2494)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1150/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วัตถุประสงค์การเช่าเดิมเพื่อค้า แม้เปลี่ยนการใช้งานเล็กน้อย ยังไม่ถือเปลี่ยนสัญญา
ห้องเช่าอยู่ในทำเลการค้าพฤติการณ์แต่เดิมมาฟังได้ว่าวัตถุประสงค์ของการเช่านั้นเพื่อการค้า แม้ต่อมาผู้เช่าจะเลิกประกอบการค้า แต่ไม่มีเหตุพอที่จะแสดงว่าคู่สัญญาได้เปลี่ยนวัตถุประสงค์การเช่าใหม่ ผู้เช่าจะอ้างความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ ไม่ได้(การเช่าไม่มีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร)
of 48