พบผลลัพธ์ทั้งหมด 7 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1251/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความเพียงพอของการบรรยายเหตุแห่งการประมาทในฟ้องอาญา
ฟ้องโจทก์กล่าวว่า จำเลยเป็นผู้ขับรถรางไปในถนนหลวง โดยความประมาทปราศจากความระมัดระวังอันควรเป็นวิสัยของปกติชน เป็นเหตุให้รถรางคันที่จำเลยขับชนท้ายรถโดยสารประจำทางเสียหาย ดังนี้ ย่อมเป็นฟ้องที่บรรยายเหตุแห่งการประมาทของจำเลยไว้เพียงพอ โดยฉะเพาะข้อที่ว่า จำเลยขับรถด้วยความประมาทเป็นเหตุให้รถจำเลยชนท้ายรถประจำทางเสียหาย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1140/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการใช้มีดแทงด้านหลัง ผู้ตายถึงแก่ความตายทันที
จำเลยใช้มีดยาวทั้งตัวทั้งด้าม 27 ซ.ม. ใบมีดยาว 16 ซ.ม. ซึ่งนับว่าค่อนข้างใหญ่มาก แทงด้านหลังผู้ตายโดยเต็มแรง 1 ที ผู้ตายถูกแทงแล้วก็ล้มลงถึงแก่กรรม เกือบจะเรียกได้ว่าทันที ดังนี้ การกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนา.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 594/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาบุกรุก vs. ป้องกันภัยสาธารณะ: การกระทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมไม่ถือเป็นความผิดอาญา
การกระทำอันจะเป็นผิดตามมาตรา 328 ก.ม.ลักษณะอาญานั้นจะต้องเป็นการกระทำที่เข้าเกณฑ์ตามมาตรา 327 อันเป็นหลักทั่วไปในเรื่องความผิดฐานบุกรุก คือ ผู้กระทำมีเจตนาจะมิให้ผู้อื่นครอบครองทรัพย์ของเขาอันจะพึงเคลื่อนจากที่มิได้นั้นโดยความปกติสุข
จำเลยพาราษฎรไปขุดร่องชักน้ำในเขตต์นาของโจทก์ ทำให้เนื้อที่นาของโจทก์พังเสียหาย แต่จำเลยกระทำเพื่อป้องกันมิให้น้ำในลำห้วยน้ำแก่นทำลายฝายหลวงอันเป็นเหมืองสาธารณะ ซึ่งจะทำให้เกิดเสียหายแก่นาราษฎรมากมายหลายตำบล ดังนี้ จำเลยหาได้มีเจตนาที่จะมิให้โจทก์ครอบครองที่พิพาทโดยความปกติสุขแต่ประการใดไม่ หากแต่จำเลยได้กระทำไปเพื่อบำบัดป้องกันภยันตรายแก่สาธารณะ อันแลเห็นอยู่ว่าจะเกิดขึ้นเท่านั้น การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานบุกรุกตามหลักเกณฑ์ในมาตรา 327 และจำเลยย่อมไม่มีผิดตามมาตรา 328 และการเสียหายที่จะเกิดขึ้น ย่อมนับได้ว่า เป็นภยันตรายซึ่งมีมาเป็นสาธารณะโดยฉุกเฉิน ซึ่งบุคคลอาจทำบุบสลายหรือทำลายทรัพย์สิ่งใดสิ่งหนึ่ง เพื่อจะบำบัดปัดป้องภยันตรายนี้ได้ตาม ป.ม.แพ่ง ฯ มาตรา 450 และการที่จำเลยกระทำนี้ ก็ไม่เกินสมควรแก่เหตุ จะว่าจำเลยไม่มีอำนาจที่จะทำได้โดยชอบด้วยกฎหมายไม่ได้ การกระทำของจำเลยไม่เป็นผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 324 อีกด้วย.
จำเลยพาราษฎรไปขุดร่องชักน้ำในเขตต์นาของโจทก์ ทำให้เนื้อที่นาของโจทก์พังเสียหาย แต่จำเลยกระทำเพื่อป้องกันมิให้น้ำในลำห้วยน้ำแก่นทำลายฝายหลวงอันเป็นเหมืองสาธารณะ ซึ่งจะทำให้เกิดเสียหายแก่นาราษฎรมากมายหลายตำบล ดังนี้ จำเลยหาได้มีเจตนาที่จะมิให้โจทก์ครอบครองที่พิพาทโดยความปกติสุขแต่ประการใดไม่ หากแต่จำเลยได้กระทำไปเพื่อบำบัดป้องกันภยันตรายแก่สาธารณะ อันแลเห็นอยู่ว่าจะเกิดขึ้นเท่านั้น การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานบุกรุกตามหลักเกณฑ์ในมาตรา 327 และจำเลยย่อมไม่มีผิดตามมาตรา 328 และการเสียหายที่จะเกิดขึ้น ย่อมนับได้ว่า เป็นภยันตรายซึ่งมีมาเป็นสาธารณะโดยฉุกเฉิน ซึ่งบุคคลอาจทำบุบสลายหรือทำลายทรัพย์สิ่งใดสิ่งหนึ่ง เพื่อจะบำบัดปัดป้องภยันตรายนี้ได้ตาม ป.ม.แพ่ง ฯ มาตรา 450 และการที่จำเลยกระทำนี้ ก็ไม่เกินสมควรแก่เหตุ จะว่าจำเลยไม่มีอำนาจที่จะทำได้โดยชอบด้วยกฎหมายไม่ได้ การกระทำของจำเลยไม่เป็นผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 324 อีกด้วย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 73/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำที่ไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์/รับของโจร เมื่อช่วยเหลือขนย้ายทรัพย์สินจากเหตุอัคคีภัยตามคำขอ
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลย ฐานลักทรัพย์ หรือรับของโจร ข้อเท็จจริงได้ความว่า ของกลางที่จับได้จากบ้านจำเลย เป็นของที่จำเลยช่วยขนหนีอัคคีภัยมาเก็บรักษาไว้ตามคำขอร้องของเจ้าทรัพย์ การกระทำของจำเลยไม่เป็นผิด ฐานลักทรัพย์ หรือรับของโจร.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 951/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาในความผิดอาญาเกี่ยวกับวัตถุระเบิด การครอบครองโดยไม่รู้ว่าเป็นวัตถุระเบิดไม่ถือเป็นความผิด
เจตนาตามกฎหมายลักษณะอาญา ม. 43 หมายถึงอาชญาเจตนาซึ่งเป็นเจตนาอันควรรับอาญา
พ.ร.บ.อาวุธปืน, เครื่องกระสุนฯลฯ 2471 มิได้มีบทบัญญัติยกเว้นในเรื่องเจตนาไว้เป็นพิเศษ จึงต้องถือหลักเจตนาตามที่บัญญัติไว้ใน ก.ม.ลักษณะอาญา ม. 43 ซึ่งมาตรา 11 ให้นำมาใช้บังคับได้
มีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยไม่ทราบว่าเป็นวัตถุระเบิด ยังไม่มีความผิดเพราะไม่มีอาชญาเจตนา.
พ.ร.บ.อาวุธปืน, เครื่องกระสุนฯลฯ 2471 มิได้มีบทบัญญัติยกเว้นในเรื่องเจตนาไว้เป็นพิเศษ จึงต้องถือหลักเจตนาตามที่บัญญัติไว้ใน ก.ม.ลักษณะอาญา ม. 43 ซึ่งมาตรา 11 ให้นำมาใช้บังคับได้
มีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยไม่ทราบว่าเป็นวัตถุระเบิด ยังไม่มีความผิดเพราะไม่มีอาชญาเจตนา.