พบผลลัพธ์ทั้งหมด 80 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1006/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความยินยอมเลิกเช่าและการสละสิทธิประโยชน์ตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ ข้อตกลงไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย
จำเลยเช่าห้องโจทก์เพื่ออยู่อาศัยมีกำหนด 1 ปี และก่อนครบกำหนดตามสัญญาเช่าเล็กน้อยจำเลยมีหนังสือยินยอมแจ้งให้โจทก์ทราบล่วงหน้าว่าจะเลิกการเช่าและสละสิทธิที่จะได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ พ.ศ.2489 ในเมื่อถึงกำหนดสัญญาเช่า เช่นนี้ถือว่าโจทก์ได้รับความยินยอมจากจำเลยผู้เช่าตามความหมายแห่ง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ พ.ศ.2489 ม.16 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 835/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าที่ดินเพื่อปลูกสร้างเคหะ หากผู้เช่าขายฝากแล้วไม่ไถ่คืน สิทธิเช่าจะสิ้นสุดลง ผู้รับโอนมีสิทธิบอกเลิกสัญญาและขับไล่ได้
ที่ดินที่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯลฯนั้นต้องเป็นที่ดินเช่าสำหรับปลูกสร้างเคหะและที่ซึ่งต่อเนื่องเป็นบริเวณของเคหะเมื่อผู้เช่าที่ดินได้ขายฝากเรือนที่ปลูกสร้างใช้เป็นที่อยู่อาศัยในที่ดินที่เช่านี้และปล่อยให้หลุดตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ซื้อฝากไปแล้วผู้เช่าก็ไม่ใช่ผู้เช่าซึ่งได้รับหรือรับประโยชน์ในที่ดินที่เช่าตามความหมายของ พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ พ.ศ.2489 มาตรา16 การเช่าที่ดินรายนี้จึงไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าผู้รับโอนที่ดิน(ที่เช่า) รายนี้ย่อมมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าที่ดินกับผู้เช่าได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 566,569,570
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 835/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสิ้นสุดสิทธิเช่าเมื่อผู้เช่าขายฝากทรัพย์สินบนที่ดินเช่า และสิทธิของผู้รับโอนที่ดินในการบอกเลิกสัญญา
ที่ดินที่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ นั้นต้องเป็นที่ดินเช่าสำหรับปลูกสร้างเคหะและที่ซึ่งต่อเนื่องเป็นบริเวรของเคหะ เมื่อผู้เช่าที่ดินได้ขายฝากเรือนที่ปลูกสร้างใช้เป็นที่อยู่อาศัยในที่ดินที่เช่านี้และปล่อยให้หลุดตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ซื้อฝากไปแล้ว ผู้เช่าก็ไม่ใช่ผู้เช่าซึ่งได้รับหรือรับประโยชน์ในที่ดินเช่าตามความหมายของ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ พ.ศ.2489 ม.16 การเช่าที่ดินรายนี้จึงไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ผุ้รับโอนที่ดิน (ที่เช่า) รายนี้ย่อมมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าที่ดินกับผู้เช่าได้ตาม ป.พ.พ. ม.566,569.570.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 390/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ห้องเช่าใช้เป็นที่อยู่อาศัยและสำนักงานทนายความ คุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
เช่าห้องเพื่ออยู่อาศัยและเป็นที่ทำการทนายความด้วยนั้นย่อมถือว่าเป็นเคหะได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 390/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ห้องเช่าใช้เป็นที่อยู่อาศัยและสำนักงานทนายความ คุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
เช่าห้องเพื่ออยู่อาศัยและเป็นที่ทำการทนายความด้วยนั้นย่อมถือว่าเป็นเคหะได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 286/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าพื้นที่เพื่อประกอบธุรกิจเลี้ยงเป็ดไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
จำเลยได้เช่าที่ดินทำการเลี้ยงเป็ดประมาณพันตัวไว้และขายไข่เป็นอาชีพและเช่าโรงเลี้ยงเป็ด โรงเตาต้มอาหารเป็ด จำเลยและครอบครัวก็อาศัยกินอยู่หลับนอนในที่บริเวรเขตติดต่อสองด้านมีคนเลี้ยงเป็นเป็นอาชีพเช่นจำเลยพวกที่เลี้ยงเป็ดข้างเคียงก็อาศัยกินอยู่หลับนอนในที่ในเขตตำบลเดียวกับที่จำเลยเช่า ที่ใกล้เคียงมีผู้ประกอบอาชีพในการเลี้ยงเป็ดประมาณ 100 หลังคาเรือนขึ้นไป ที่ ๆ จำเลยเช่าอยู่นี้อยู่ในเขตเทศบาลด้วยเช่นนี้เห็นได้ว่าเนื้อแท้ของการเช่าก็เพื่อประกอบธุระกิจเลี้ยงเป็ดขายไข่เป็นอาชีพตามทำเลที่กระทำกันในถิ่นนั้นทั่ว ๆ ไป การที่ต้องเข้าไปอาศัยอยู่ด้วยก็เพื่อประกอบธุระกิจตามที่มุ่งเช่ามาจึงไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ พ.ศ.2489 ม.16
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 286/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าที่เพื่อประกอบธุรกิจเลี้ยงเป็ด ไม่ได้รับการคุ้มครองตามพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ
จำเลยได้เช่าที่ดินทำการเลี้ยงเป็ดประมาณพันตัวไว้และขายไข่เป็นอาชีพและเช่าโรงเลี้ยงเป็ด โรงเตาต้มอาหารเป็ด
จำเลยและครอบครัวก็อาศัยกินอยู่หลับนอนในที่นี้บริเวณเขตติดต่อสองด้านมีคนเลี้ยงเป็ดเป็นอาชีพเช่นจำเลยพวกที่เลี้ยงเป็ดข้างเคียงก็อาศัยกินอยู่หลับนอนในที่ในเขตตำบลเดียวกับที่จำเลยเช่า ที่ใกล้เคียงมีผู้ประกอบอาชีพในการเลี้ยงเป็ดประมาณ 100 หลังคาเรือนขึ้นไป ที่ๆ จำเลยเช่านี้อยู่ในเขตเทศบาลด้วยเช่นนี้เห็นได้ว่าเนื้อแท้ของการเช่าก็เพื่อประกอบธุระกิจเลี้ยงเป็ดขายไข่เป็นอาชีพตามทำเลที่กระทำกันในถิ่นนั้นทั่วๆ ไป การที่ต้องเข้าไปอาศัยอยู่ด้วยก็เพื่อประกอบธุระกิจตามที่มุ่งเช่ามาจึงไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯพ.ศ.2489 มาตรา16
จำเลยและครอบครัวก็อาศัยกินอยู่หลับนอนในที่นี้บริเวณเขตติดต่อสองด้านมีคนเลี้ยงเป็ดเป็นอาชีพเช่นจำเลยพวกที่เลี้ยงเป็ดข้างเคียงก็อาศัยกินอยู่หลับนอนในที่ในเขตตำบลเดียวกับที่จำเลยเช่า ที่ใกล้เคียงมีผู้ประกอบอาชีพในการเลี้ยงเป็ดประมาณ 100 หลังคาเรือนขึ้นไป ที่ๆ จำเลยเช่านี้อยู่ในเขตเทศบาลด้วยเช่นนี้เห็นได้ว่าเนื้อแท้ของการเช่าก็เพื่อประกอบธุระกิจเลี้ยงเป็ดขายไข่เป็นอาชีพตามทำเลที่กระทำกันในถิ่นนั้นทั่วๆ ไป การที่ต้องเข้าไปอาศัยอยู่ด้วยก็เพื่อประกอบธุระกิจตามที่มุ่งเช่ามาจึงไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯพ.ศ.2489 มาตรา16
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1619/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความมีผลผูกพัน การบังคับคดีตามคำพิพากษาเมื่อครบกำหนดสัญญา
ในคดีที่โจทก์ฟ้องขับไล่และจำเลยอ้างว่าได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ ที่สุดศาลได้พิพากษาให้เป็นไปตามยอมนั้น ข้อตกลงที่โจทก์ยอมให้จำเลยอยู่ในห้องพิพาทต่อไปอีก 3 ปีโดยจำเลยยอมเสียค่าเช่าแก่โจทก์เดือนละ 70 บาทนั้น เป็นสาระสำคัญข้อหนึ่งแห่งสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์จำเลย เมื่อครบกำหนดจำเลยไม่ยอมออก โจทก์ก็ชอบที่จะขอให้บังคับจำเลยได้เพราะเป็นการบังคับคดีตามคำพิพากษา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1619/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาปราณีประนอมยอมความมีผลผูกพันบังคับได้ เมื่อครบกำหนดสัญญา อีกฝ่ายมีสิทธิขอให้บังคับได้
ในคดีที่โจทก์ฟ้องขับไล่และจำเลยอ้างว่าได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ ที่สุดศาลได้พิพากษาให้เป็นไปตามยอมนั้นข้อตกลงที่โจทก์ยอมให้จำเลยอยู่ในห้องพิพาทต่อไปอีก 3 ปีโดยจำเลยยอมเสียค่าเช่าแก่โจทก์เดือนละ 70 บาทนั้น เป็นสาระสำคัญข้อหนึ่งแห่งสัญญาปราณีประนอมยอมความระหว่างโจทก์จำเลย เมื่อครบกำหนดจำเลยไม่ยอมออก โจทก์ก็ชอบที่จะขอให้บังคับจำเลยได้เพราะ+
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1161/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าระหว่างภรรยาและผู้ให้เช่า สามีไม่มีสิทธิในสัญญาเมื่อสัญญาเช่าสิ้นสุด
ภรรยาเป็นผู้ทำสัญญาเช่าจึงเป็นคู่สัญญากับผู้ให้เช่า สามีมิใช่คู่สัญญาด้วย ย่อมเป็นเพียงบริวารเท่านั้น ( อ้างฎีกาที่ 848/2491 ) เมื่อสัญญาเช่าสิ้นอายุและภรรยาได้ออกไปจากห้องเช่าแล้ว สามีย่อมไม่มีสิทธิที่จะอยู่ในห้องเช่าต่อไป ไม่ได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ