คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2490 ม. 3

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 127 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 557/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าตึกเพื่อประกอบการค้า ไม่ถือเป็นเคหะ จึงไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย
ตึกพิพาทอยู่ในทำเลการค้าผู้เช่าได้ทำการอันทางการเทศบาลถือว่าเป็นการค้า และตามความจริงก็ฟังได้ว่าผู้เช่าได้ทำการค้าในสัญญาเช่าก็ระบุว่าเช่าเพื่อประกอบการค้าตึกพิพาทจึงไม่ใช่เคหะไม่ต้องคำนึงว่าจะได้ใช้เป็นที่อยู่อาศัยด้วยหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1668/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลักษณะเคหะเพื่อการคุ้มครองสัญญาเช่า: การประกอบการค้าเป็นอาชีพย่อมไม่ถือเป็นเคหะ
ห้องแถวพิพาทอยู่ห่างตลาดประมาณ 50 เมตร์ผู้เช่าได้จดทะเบียนพาณิชย์ประกอบการค้าเครื่องดื่มต่าง ๆ อาหารและสุรายาสูบ มีลูกจ้างในการค้า 2 คน และยังมีอีกคนหนึ่งทำหน้าที่ขายอาหารแบ่งผลกำไรกับผู้เช่า ห้องพิพาทจึงเป็นร้านค้าโดยตรง ไม่ใช่เป็นการค้าขายเล็ก ๆ น้อย ๆ ในครอบครัว จึงไม่เป็นเคหะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1668/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าห้องแถวเพื่อประกอบการค้าขนาดใหญ่ มิใช่เคหะ จึงไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย
ห้องแถวพิพาทอยู่ห่างตลาดประมาณ 50 เมตรผู้เช่าได้จดทะเบียนพาณิชย์ประกอบการค้าเครื่องดื่มต่างๆ อาหารและสุรายาสูบ มีลูกจ้างในการค้า 2 คน และยังมีอีกคนหนึ่งทำหน้าที่ขายอาหารแบ่งผลกำไรกับผู้เช่า ห้องพิพาทจึงเป็นร้านค้าโดยตรง ไม่ใช่เป็นการค้าขายเล็กๆ น้อยๆในครอบครัว จึงไม่เป็นเคหะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1099-1147/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาว่าการเช่าเป็นการใช้เป็นที่อยู่อาศัยหรือไม่ ต้องดูเจตนาคู่สัญญาและเหตุแวดล้อมประกอบ
ตามบทวิเคราะห์ศัพท์ "เคหะ" ตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน (ฉบับที่ 2) 2490 มาตรา 3 ย่อมเป็นที่เข้าใจได้ว่า กฎหมายประสงค์จะคุ้มครองการเช่าอันใช้เป็นที่อยู่อาศัยเป็นหลัก กล่าวคือเมื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยแล้ว ก็ไม่ต้องไปคำนึงถึงว่าจะใช้เป็นที่ประกอบธุระกิจ การค้า หรืออุตสาหกรรม ด้วยเป็นส่วนประธาน หรืออุปกรณ์ และในทางกลับกัน จะเห็นได้ว่า กฎหมายมิได้มุ่งคุ้มครองการเช่าเพื่อประกอบธุรกิจ การค้า หรืออุตสาหกรรม โดยคู่สัญญามิได้มีเจตนาใช้เป็นที่อยู่อาศัย เพราะฉะนั้น ในการที่จะพิจารณาว่าการเช่าสิ่งปลูกสร้างใดจะเข้าอยู่ในบังคับแห่ง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ ดังกล่าวแล้วหรือไม่ จะถือเอาการปฏิบัติของผู้เช่าฝ่ายเดียวเป็นข้อวินิจฉัยหาพอไม่ และตามถ้อยคำแห่งบทวิเคราะห์ศัพท์ "เคหะ" ก็มิได้บัญญัติคำว่า "ผู้เช่า" ใช้เป็นที่อยู่อาศัย ฉะนั้นการที่จะดูแต่เพียงว่า ผู้เช่าอาศัยอยู่ในเคหะนั้นหรือไม่แต่อย่างเดียวยังไม่พอกับความประสงค์ของกฎหมาย ในการวินิจฉัยปัญหาเช่นว่านี้ จะต้องพิจารณาถึงเจตนาของคู่กรณีในเวลาที่ทำสัญญากัน ประกอบกับเหตุแวดล้อมอื่น ๆ เช่น สภาพของสิ่งปลูกสร้าง อัตราค่าเช่า ทำเลที่ตั้งของสิ่งปลูกสร้าง และการปฏิบัติของคูสัญญาแต่ละฝ่าย เหล่านี้รวมกันว่า การที่เช่าสิ่งปลูกสร้างนั้น เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยหรือมิใช่
การที่ผู้เช่าอยู่ในสิ่งปลูกสร้างที่เช่านั้น หาใช่เป็นข้อสันนิษฐานว่าเป็นการใช้เป็นที่อยู่อาศัยเสมอไปไม่ เพราะจะต้องพิจารณาด้วยว่า การอยู่นั้นอยู่ในฐานะอย่างใด กล่าวคือ อยู่ในฐานะ "อยู่อาศัย" หรือเพียงแต่อยู่ในฐานะที่เข้าไปประกอบธุระกิจ การค้า หรืออุตสาหกรรมในสิ่งปลูกสร้างที่เช่ามา เช่นการเช่าโรงเลื่อยโรงสีเพื่อประกอบการอุตสาหกรรม โดยผู้เช่าเข้าไปอยู่ในโรงเลื่อยหรือโรงสีนั้น เพื่อควบคุมดำเนินกิจการเช่นนี้ ฟังว่าเป็นการเช่าเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยย่อมไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1099-1147/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าเพื่ออยู่อาศัย: พิจารณาเจตนาคู่สัญญาและเหตุผลแวดล้อมประกอบการบังคับใช้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
ตามบทวิเคราะห์ศัพท์ "เคหะ" ตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน (ฉบับที่ 2)2490 มาตรา 3ย่อมเป็นที่เข้าใจได้ว่า กฎหมายประสงค์จะคุ้มครองการเช่าอันใช้เป็นที่อยู่อาศัยเป็นหลัก กล่าวคือเมื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยแล้ว ก็ไม่ต้องไปคำนึงถึงว่าจะใช้เป็นที่ประกอบธุรกิจ การค้า หรืออุตสาหกรรมด้วยเป็นส่วนประธาน หรืออุปกรณ์ และในทางกลับกัน จะเห็นได้ว่ากฎหมายมิได้มุ่งคุ้มครองการเช่าเพื่อประกอบธุรกิจ การค้า หรืออุตสาหกรรมโดยคู่สัญญามิได้มีเจตนาใช้เป็นที่อยู่อาศัย เพราะฉะนั้นในการที่จะพิจารณาว่าการเช่าสิ่งปลูกสร้างใดจะเข้าอยู่ในบังคับแห่ง พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯดังกล่าวแล้วหรือไม่จะถือเอาการปฏิบัติของผู้เช่าฝ่ายเดียวเป็นข้อวินิจฉัยหาพอไม่ และตามถ้อยคำแห่งบทวิเคราะห์ศัพท์ "เคหะ" ก็มิได้บัญญัติคำว่า "ผู้เช่า" ใช้เป็นที่อยู่อาศัยฉะนั้นการที่จะดูแต่เพียงว่าผู้เช่าอาศัยอยู่ในเคหะนั้นหรือไม่แต่อย่างเดียวยังไม่พอกับความประสงค์ของกฎหมาย ในการวินิจฉัยปัญหาเช่นว่านี้ จะต้องพิจารณาถึงเจตนาของคู่กรณีในเวลาที่ทำสัญญากัน ประกอบกับเหตุผลแวดล้อมอื่นๆ เช่นสภาพของสิ่งปลูกสร้าง อัตราค่าเช่า ทำเลที่ตั้งของสิ่งปลูกสร้าง และการปฏิบัติของคู่สัญญาแต่ละฝ่าย เหล่านี้รวมกันว่าการที่เช่าสิ่งปลูกสร้างนั้น เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยหรือมิใช่
การที่ผู้เช่าอยู่ในสิ่งปลูกสร้างที่เช่านั้น หาใช่เป็นข้อสันนิษฐานว่าเป็นการใช้เป็นที่อยู่อาศัยเสมอไปไม่ เพราะจะต้องพิจารณาด้วยว่า การอยู่นั้นอยู่ในฐานะอย่างใด กล่าวคือ อยู่ในฐานะ "อยู่อาศัย" หรือเพียงแต่ว่าอยู่ในฐานะที่เข้าไปประกอบธุรกิจ การค้า หรืออุตสาหกรรมในสิ่งปลูกสร้างที่เช่ามา เช่นการเช่าโรงเลื่อยโรงสีเพื่อประกอบการอุตสาหกรรม โดยผู้เช่าเข้าไปอยู่ในโรงเลื่อยหรือโรงสีนั้นเพื่อควบคุมดำเนินกิจการ เช่นนี้จะฟังว่าเป็นการเช่าเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยย่อมไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1023/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคุ้มครองค่าเช่าตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า 2489: กรณีเช่าเพื่อค้า ไม่ได้รับความคุ้มครอง
พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน 2489 คุ้มครองการเช่าที่ใช้สิ่งปลูกสร้างเป็นที่อยู่อาศัย คือว่า เมื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยแล้ว ก็ไม่จำต้องคำนึงว่าจะได้ใช้เป็นที่ประกอบธุรกิจอย่างอื่นอีกหรือไม่ จะเป็นส่วนประธานหรืออุปกรณ์ไม่ต้องคำนึงถึง (อ้างฎีกา 591/2491)
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเช่าช่วงไปเพื่อทำการค้า จำเลยให้การรับว่าได้เช่าช่วงทำการค้ามาหลายปี หาได้เถียงว่าเป็นการเช่าอยู่อาศัยไม่ต้องถือว่า จำเลยเช่าห้องนี้เพื่อทำการค้า มิใช่เช่าเป็นที่อยู่อาศัยเลย จึงไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าดังกล่าวข้างต้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1023/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคุ้มครองค่าเช่าตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า 2489: การเช่าเพื่อค้าไม่ได้รับความคุ้มครอง
พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน 2489 คุ้มครองการเช่าที่ใช้สิ่งปลูกสร้างเป็นที่อยู่อาศัย คือว่า เมื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยแล้ว ก็ไม่จำต้องคำนึงว่าจะได้ใช้เป็นที่ประกอบธุรกิจอย่างอื่นอีกหรือไม่ จะเป็นส่วนประธานหรืออุปกรณ์ไม่ต้องคำนึงถึง
(อ้างฎีกา 581/2491)
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเช่าช่วงไปเพื่อทำการค้า จำเลยให้การรับว่าได้เช่าช่วงทำการค้ามาหลายปี หาได้เถียงว่าเป็นการเช่าอยู่อาศัยไม่ต้องถือว่า จำเลยเช่าห้องนี้เพื่อทำการค้า มิใช่เช่าเป็นที่อยู่อาศัยเลย จึงไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าดังกล่าวข้างต้น
of 13