คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สารนัยประสาสน์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 186 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1015/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีพนันสลากกินรวบ ไม่จำเป็นต้องระบุงวดของการออกรางวัล
คดีฟ้องหาว่าเล่นพนันสลากกินรวบฟ้องโจทก์ไม่จำต้องบรรยายถึงงวดสลากกินแบ่งรัฐบาลที่จะอาศัยแพ้ชนะ ก็เป็นฟ้องที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1015/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีพนันสลากกินรวบ ไม่จำต้องระบุงวดของสลากในการบรรยายฟ้อง
คดีฟ้องหาว่าเล่นพนันสลากกินรวบฟ้องโจทก์ไม่จำต้องบรรยายถึงงวดสลากกินแบ่งรัฐบาลที่จะอาศัยแพ้ชนะ ก็เป็นฟ้องที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 861/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเมิดอำนาจศาล: ศาลรับฟังพยานหลักฐานจากทุกฝ่ายได้ ผู้เสียหายเท่านั้นร้องขอโทษได้
ความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลเมื่อศาลชั้นต้นได้ดำเนินกระบวนพิจารณาไต่สวน ศาลก็ย่อมฟังข้อเท็จจริงได้จากหลักฐานและคำพยานที่ปรากฏมีอยู่ในสำนวนประกอบการวินิจฉัยได้ทั้งหมดไม่ว่าผู้ใดจะเป็นผู้อ้างหรือนำมาสืบ และผู้ถูกหาว่าละเมิดอำนาจศาลก็มีโอกาสซักค้านพยานนั้นได้อยู่แล้ว ศาลย่อมฟังลงโทษฐานละเมิดอำนาจศาลได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย
โจทก์ยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องทำร้ายพยานโจทก์ข้างฝานอกห้องพิจารณาบนศาล ผู้ร้องยื่นคำร้องว่าพยานโจทก์ทำร้ายผู้ร้องฝ่ายเดียว ต่างฝ่ายต่างขอให้ลงโทษอีกฝ่ายในฐานละเมิดอำนาจศาล ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วฟังว่า ผู้ร้องทำร้ายพยานโจทก์ ลงโทษผู้ร้องข้างเดียวฐานละเมิดอำนาจศาล จำคุก 4 เดือน เช่นนี้ ผู้ร้องไม่มีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาว่าพยานโจทก์ดังกล่าวมีความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลด้วยเพราะผู้ร้อง ไม่ใช่ผู้เสียหายในส่วนการละเมิดอำนาจศาลของพยานโจทก์ดังกล่าวนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 861/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเมิดอำนาจศาล: ศาลรับฟังพยานจากทุกฝ่ายได้ ผู้เสียหายจำกัดสิทธิอุทธรณ์ฎีกา
ความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลเมื่อชั้นต้นได้ดำเนินกระบวนพิจารณาไต่สวน ศาลก็ย่อมฟังข้อเท็จจริงได้จากหลักฐานและคำพยานที่ปรากฏมีอยู่ในสำนวนประกอบการวินิจฉัยได้ทั้งหมดไม่ว่าผู้ใดจะเป็นผู้อ้างหรือนำมาสืบ และผู้ถูกหาว่าละเมิดอำนาจศาลก็มีโอกาศซักค้านพยานนั้นได้ อยู่แล้ว ศาลย่อมฟังลงโทษฐานละเมิดอำนาจศาลได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย
โจทก์ยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องทำร้ายพยานโจทก์ข้างฝานอกห้องพิจารณาบนศาล ผู้ร้องยื่นคำร้องว่าพยานโจทก์ทำร้ายผู้ร้องฝ่ายเดียว ต่างฝ่ายต่างขอให้ลงโทษอีกฝ่ายในฐานละเมิดอำนาจศาล จำคุก 4 เดือน เช่นนี้ ผู้ร้องไม่มีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาว่าพยานโจทก์ดังกล่าวมีความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลด้วยเพราะผู้ร้องไม่ใช่ผู้เสียหายในส่วนการละเมิดอำนาจศาลของพยานโจทก์ดังกล่าวนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 819/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำไม้ในเขตป่าสงวนโดยได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ และข้อยกเว้นการแปรรูปไม้ที่ตอ
ไม่ของกลางได้ทำตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 17(1) ซึ่งป่าไม้เขตเป็นเจ้าหน้าที่ทำเพื่อประโยชน์ในการบำรุงป่าโดยทำสัญญาให้บริษัทอุดมวนผล จำกัด รับจ้างตัดฟันชักลากออกจากป่าแล้วจะขายไม้ให้บริษัท การทำไม้รายนี้จึงเป็นการทำและชักลากออกจากป่าโดยไม่อยู่ในบังคับของ มาตรา 11 ที่ว่าต้องรับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่มาตรา 38 ไม่ใช่บทบังคับเรื่องชักลากไม้ออกจากป่า แต่เป็นบทบัญญัติเรื่องการนำไม้เคลื่อนที่หลังจากนำไม้ที่ทำออกตามใบอนุญาตไปถึงที่อันระบุไว้ในใบอนุญาต กับหลังจากนำไม้ที่ทำออกโดยไม่ต้องรับอนุญาตไปถึงด่านป่าไม้ด่านแรกแล้ว ไม่ใช่บทบัญญัติเพียงแต่นำไม้เคลื่อนที่โดยไม่มีใบอนุญาตเท่านั้นเมื่อไม้รายนี้ไม่ใช่ไม้ที่ทำโดยมีใบอนุญาต จึงไม่มีที่ระบุให้นำไปตามใบอนุญาต ทั้งไม่ใช่ไม้อื่นที่ไม่ใช่ไม้หวงห้ามอันจะทำได้โดยไม่ต้องรับอนุญาตตาม มาตรา 25 กับทั้งยังไม่ถึงด่านป่าไม้ด่านแรกกรณีเช่นนี้ไม่ผิดฐานนำไม้เคลื่อนที่ตาม มาตรา 38
การแปรรูปไม้ ถ้าทำที่ตอโดยถูกต้องตามที่ยกเว้นไว้ในมาตรา 50(1) ย่อมไม่อยู่ในความมุ่งหมายของบทบัญญัติที่ควบคุมการแปรรูปไม้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 819/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำไม้ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้: การชักลาก การแปรรูป และการใช้ตราประทับไม้โดยไม่ผิดกฎหมาย
ไม้ของกลางได้ทำตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 17 (1) ซึ่งป่าไม้เขตเป็นเจ้าหน้าที่ทำเพื่อประโยชน์ในการบำรุงป่า โดยทำสัญญาให้บริษัทอุดมวนผลจำกัด รับจ้างตัดฟันชักลากออกจากป่าแล้วจะขายไม้ให้บริษัท การทำไม้รายนี้จึงเป็นการทำและชักลากออกจากป่าโดยไม่อยู่ในบังคับของมาตรา 11 ที่ว่าต้องรับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
มาตรา 38 ไม่ใช่บทบังคับเรื่องชักลากไม้ออกจากป่า แต่เป็นบทบัญญัติเรื่องการนำไม้เคลื่อนที่หลังจากนำไม่ที่ทำออกตามใบอนุญาตไปถึงที่อันระบุไว้ในใบอนุญาต กับหลังจากนำไม่ที่ทำออกโดยไม้ต้องรับอนุญาตไปถึงด่านป่าไม้ด่านแรกแล้ว ไม่ใช่บทบัญญัติเพียงแต่นำไม้เคลื่อนที่โดยไม่มีใบอนุญาตเท่านั้น เมื่อไม้รายนี้ไม่ใช่ไม้ที่ทำโดยมีใบอนุญาต จึงไม่มีที่ระบุให้นำไปตามใบอนุญาต ทั้งไม่ใช่ไม้อื่นที่ไม่ใช่ไม้หวงห้ามอ้นจะทำได้โดยไม่ต้องรับอนุญาตตาม มาตรา 25 กับทั้งยังไม่ถึงด่านป่าไม้ด่านแรก กรณีเช่นนี้ ไม่ผิดฐานนำไม้ เคลื่อนที่ตาม มาตรา 38
การแปรรูปไม้ ถ้าทำที่ตอโดยถูกต้องตามที่ยกเว้นไว้ใน มาตรา 50 (1) ย่อมไม่อยู่ในความมุ่งหมายของบทบัญญัติที่ควบคุมการแปรรูปไม้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 782/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การผัดชำระหนี้ซื้อขายที่ดิน ย่อมไม่ต้องทำเป็นหนังสือ แม้สัญญาบังคับให้ทำเป็นหนังสือ
สัญญาจะซื้อขายที่ดินซึ่งกฎหมายบังคับให้ทำเป็นหนังสือ นั้น เมื่อจำเลยซึ่งเป็นผู้ขาย ยอมให้โจทก์ซึ่งเป็นผู้ซื้อผัดชำระเงินที่ถึงกำหนดในงวดนั้น ไปรวมชำระพร้อมกับเงินที่เหลือให้เสร็จสิ้นในวันโอนโฉนดและก็ได้ถือเอากำหนดที่ให้ผัด (จะเป็นวันใดก็แล้วแต่) มาเช่นนี้ ไม่จำต้องทำเป็นหนังสือ เพราะเป็นเพียงกรณีที่จำเลยซึ่งเป็นเจ้าหนี้ยอมผ่อนผันให้โจทก์ซึ่งเป็นลูกหนี้ในการชำระเงินผัดเวลาชำระเงินงวดหนึ่งต่อไป จำเลยไม่มีสิทธิจะริบเงินและเลิกสัญญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 782/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การผัดผ่อนชำระหนี้ซื้อขายที่ดินไม่จำเป็นต้องทำเป็นหนังสือ จำเลยไม่มีสิทธิริบเงิน
สัญญาจะซื้อขายที่ดินซึ่งกฎหมายบังคับให้ทำเป็นหนังสือนั้นเมื่อจำเลยซึ่งเป็นผู้ขาย ยอมให้โจทก์ซึ่งเป็นผู้ซื้อผัดชำระเงินที่ถึงกำหนดในงวดนั้นไปรวมชำระพร้อมกับเงินที่เหลือให้เสร็จสิ้นในวันโอนโฉนดและก็ได้ถือเอากำหนดที่ให้ผัด (จะเป็นวันใดก็แล้วแต่)มาเช่นนี้ไม่จำต้องทำเป็นหนังสือ เพราะเป็นเพียงกรณีที่จำเลยซึ่งเป็นเจ้าหนี้ยอมผ่อนผันให้โจทก์ซึ่งเป็นลูกหนี้ในการชำระเงินผัดเวลาชำระเงินงวดหนึ่งต่อไปจำเลยไม่มีสิทธิจะริบเงินและเลิกสัญญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 770/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนจำกัด: การฟ้องไม่ระบุความผิดนัดของนิติบุคคล
โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นส่วนตัวปรากฏว่า เป็นเรื่องห้างหุ้นส่วนจำกัดเป็นผู้ซื้อ คำฟ้องของโจทก์ที่ไม่ได้ระบุถึงความรับผิดของห้างหุ้นส่วนอันเป็นนิติบุคคลที่เป็นลูกหนี้ว่า ได้ผิดนัดแล้วหรือกล่าวว่าผู้เป็นหุ้นส่วนจะต้องรับผิดประการใดเลยนั้น คำฟ้องคดีนี้บังคับให้ผู้เป็นหุ้นส่วนรับผิดเป็นส่วนตัวในฐานะผู้เป็นหุ้นส่วนไม่ได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 4 / 2503)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 770/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนจำกัด: การฟ้องคดีโดยไม่ระบุความรับผิดของนิติบุคคล
โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นส่วนตัวปรากฏว่าเป็นเรื่องห้างหุ้นส่วนจำกัดเป็นผู้ซื้อ คำฟ้องของโจทก์ที่ไม่ได้ระบุถึงความรับผิดของห้างหุ้นส่วนอันเป็นนิติบุคคลที่เป็นลูกหนี้ว่า ได้ผิดนัดแล้วหรือกล่าวว่าผู้เป็นหุ้นส่วนจะต้องรับผิดประการใดเลยนั้นคำฟ้องคดีนี้บังคับให้ผู้เป็นหุ้นส่วนรับผิดเป็นส่วนตัวในฐานะผู้เป็นหุ้นส่วนไม่ได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 4/2503)
of 19