พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1281/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจยื่นคำขอรับชำระหนี้หลังเลิกบริษัท: การให้สัตยาบันโดยผู้ชำระบัญชีทำให้คำขอรับชำระหนี้ไม่เสียไป
บริษัทจำกัดที่ฮ่องกงมีมติให้เลิกบริษัทและตั้งผู้ชำระบัญชีเมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2495 ส่วนสาขาในประเทศไทยได้จดทะเบียนเลิกกิจการเมื่อ พ.ศ.2496 ในระหว่างระยะเวลาดังกล่าวต้องถือว่า สาขาในประเทศไทยยังคงดำเนินกิจการในฐานะเป็นตัวแทนของบริษัทจำกัดที่ฮ่องกงนั้นอยู่ ถ้าเป็นเวลาก่อนที่สาขาในประเทศไทยได้ไปจดทะเบียนเลิกกิจการ นายจูกงซี ซึ่งได้รับแต่งตั้งจากบริษัทที่ฮ่องกงให้เป็นผู้จัดการสาขาในประเทศไทยก่อนบริษัทเลิกและให้ชำระบัญชี ย่อมมีอำนาจโดยสมบูรณ์ที่จะยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย ในฐานะยังเป็นตัวแทนของบริษัทจำกัดที่ฮ่องกงนั้นอยู่
แต่ถึงแม้ว่าในขณะที่นายจูกงซียื่นคำขอรับชำระหนี้ภายหลังที่สาขาในประเทศไทยได้เลิกกิจการไปแล้ว อันเป็นผลให้การยื่นคำขอรับชำระหนี้ของนายจูกงซีเป็นการกระทำโดยปราศจากอำนาจเพราะเหตุที่บริษัทจำกัดที่ฮ่องกงได้เลิกกิจการและตั้งผู้ชำระบัญชีขึ้นแล้วด้วยก็ดี แต่ผู้ชำระบัญชีก็ได้มีหนังสือแต่งตั้งให้นายจูกงซีมีอำนาจกระทำการแทนบริษัทซ้ำมาอีก เป็นการให้สัตยาบันแก่การที่นายจูกงซียื่นคำขอรับชำระหนี้ไว้ก่อนที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หรือศาลแพ่งจะได้มีคำสั่งในเรื่องนี้ คำขอรับชำระหนี้ของนายจูกงซีย่อมไม่เสียไป
แต่ถึงแม้ว่าในขณะที่นายจูกงซียื่นคำขอรับชำระหนี้ภายหลังที่สาขาในประเทศไทยได้เลิกกิจการไปแล้ว อันเป็นผลให้การยื่นคำขอรับชำระหนี้ของนายจูกงซีเป็นการกระทำโดยปราศจากอำนาจเพราะเหตุที่บริษัทจำกัดที่ฮ่องกงได้เลิกกิจการและตั้งผู้ชำระบัญชีขึ้นแล้วด้วยก็ดี แต่ผู้ชำระบัญชีก็ได้มีหนังสือแต่งตั้งให้นายจูกงซีมีอำนาจกระทำการแทนบริษัทซ้ำมาอีก เป็นการให้สัตยาบันแก่การที่นายจูกงซียื่นคำขอรับชำระหนี้ไว้ก่อนที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หรือศาลแพ่งจะได้มีคำสั่งในเรื่องนี้ คำขอรับชำระหนี้ของนายจูกงซีย่อมไม่เสียไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 91/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมนอกศาลหลังคำพิพากษาถึงที่สุด ไม่อาจใช้เป็นเหตุยกเว้นการบังคับคดีได้ หากมีข้อโต้แย้งเรื่องความถูกต้อง
เมื่อจำเลยแพ้คดีโจทก์ แล้วยังมิได้ปฏิบัติตามคำพิพากษา
โจทก์จึงขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีตามคำบังคับที่ศาลมีไว้ต่อจำเลยในกำหนด ต่อมาจำเลยจะมายื่นคำร้องว่าโจทก์และจำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมกันนอกศาลแล้วขอมิให้มีการบังคับคดีไม่ได้ในเมื่อการประนีประนอมยอมความนั้นโจทก์อ้างว่าเกิดขึ้นโดยถูกข่มขู่เพราะคู่ความชอบที่จะมาทำประนีประนอมกันในศาล ศาลจะได้รู้เห็นและได้พิจารณาว่าการประนีประนอมนั้นถูกต้องหรือไม่ถ้าถูกจะได้พิพากษาให้เป็นไปตามที่ตกลง และถือว่าเป็นการที่ให้ศาลได้รับรู้เกี่ยวกับการบังคับคดีเมื่อทำกันนอกศาลศาลก็ไม่รู้ และถ้ายอมรับฟัง การบังคับคดีก็จะไม่อาจเป็นไปได้โดยราบรื่นเพราะฝ่ายที่ถูกบังคับย่อมจะมีข้ออ้างมาร้องต่างๆ
โจทก์จึงขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีตามคำบังคับที่ศาลมีไว้ต่อจำเลยในกำหนด ต่อมาจำเลยจะมายื่นคำร้องว่าโจทก์และจำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมกันนอกศาลแล้วขอมิให้มีการบังคับคดีไม่ได้ในเมื่อการประนีประนอมยอมความนั้นโจทก์อ้างว่าเกิดขึ้นโดยถูกข่มขู่เพราะคู่ความชอบที่จะมาทำประนีประนอมกันในศาล ศาลจะได้รู้เห็นและได้พิจารณาว่าการประนีประนอมนั้นถูกต้องหรือไม่ถ้าถูกจะได้พิพากษาให้เป็นไปตามที่ตกลง และถือว่าเป็นการที่ให้ศาลได้รับรู้เกี่ยวกับการบังคับคดีเมื่อทำกันนอกศาลศาลก็ไม่รู้ และถ้ายอมรับฟัง การบังคับคดีก็จะไม่อาจเป็นไปได้โดยราบรื่นเพราะฝ่ายที่ถูกบังคับย่อมจะมีข้ออ้างมาร้องต่างๆ