พบผลลัพธ์ทั้งหมด 34 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1246/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การค้าข้าวโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้หลงลืมต่ออายุใบอนุญาตก็ยังถือเป็นความผิด
ฟ้องมีข้อหาว่า จำเลยประกอบการค้าข้าว ทำการสีข้าวโดยไม่ได้รับอนุญาตฝ่าฝืนประกาศของเจ้าพนักงาน จำเลยให้การรับว่า จำเลยสีข้าวทั้ง 5 ครั้งโดยไม่มีใบอนุญาต จำเลยจึงต้องมีความผิดตามมาตรา 18 ข้อที่จำเลยว่าจำเลยหลงลืมในการขอต่ออายุใบอนุญาตนั้น หากจะจริงก็ไม่ทำให้พ้นความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1246/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประกอบการค้าข้าวโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้หลงลืมต่ออายุใบอนุญาต ก็ยังคงมีความผิดตามกฎหมาย
ฟ้องมีข้อหาว่าจำเลยประกอบการค้าข้าว ทำการสีข้าวโดยไม่ได้รับอนุญาตฝ่าฝืนประกาศของเจ้าพนักงาน จำเลยให้การรับว่าจำเลยสีข้าวทั้ง 5 ครั้งโดยไม่มีใบอนุญาต จำเลยจึงต้องมีความผิดตามมาตรา 18 ข้อที่จำเลยว่าจำเลยหลงลืมในการขอต่ออายุใบอนุญาตนั้นจะจริงก็ไม่ทำให้พ้นความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 678/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภค จำเป็นต้องบรรยายรายละเอียดให้ชัดเจนว่าสินค้าที่ถูกกล่าวหามีสถานะเป็นสินค้าควบคุมจริง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคว่า จำเลยขายข้าวสารเหนียวให้แก่ผู้ไม่มีบัตรปันส่วนโดยไม่ได้รับอนุญาต ฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการจังหวัดสงขลา แต่ในฟ้องไม่ได้บรรยายให้ปรากฏว่าข้าวสารเหนียวเป็นของที่คณะกรรมการประกาศควบคุมและคณะกรรมการได้ตั้งคณะกรรมการจังหวัดสงขลาเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการควบคุมข้าวเหนียวนั้นแทน ฟ้องของโจทก์ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงทั้งสองประการนั้น ทั้งประกาศคณะกรรมการจังหวัดสงขลาจะมีข้อความกล่าวอ้างอาศัยอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมายอย่างใด โจทก์มิได้ยื่นสำเนาให้ปรากฏ ดังนี้ถือว่าฟ้องยังไม่พอฟังว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1609/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจตามประกาศคณะกรรมการค้าข้าว: การพิสูจน์แหล่งที่มาของประกาศที่ใช้บังคับเป็นองค์ความผิดสำคัญ
ประกาศของพนักงานเจ้าหน้าที่ประจำจังหวัดจะใช้บังคับได้ ต้องปรากฎว่าคณะกรรมการปฏิบัติการตาม พ.ร.บ.การค้าข้าว ได้ให้อำนาจไว้ ประกาศให้อำนาจของคณะกรรมการปฏิบัติการตาม พ.ร.บ.การค้าข้าวดังกล่าวไม่ใช่เป็นข้อกฎหมาย แต่เป็นข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำอันหนึ่งในการกระทำทั้งหลายที่เป็นองค์ความผิด ซึ่งโจทก์จะต้องนำสืบให้ได้ความชัดแจ้ง
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยฝ่าฝืนประกาศของพนักงานเจ้าหน้าที่ประจำจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามประกาศของคณะกรรมการปฏิบัติตามการ พ.ร.บ.การค้าข้าว แต่ในฟ้องตอนต้นปรากฎว่าประกาศของพนักงานเจ้าหน้าที่อาศัยอำนาจตามความในประกาศของคณะกรรมการฉะบับเดือนมกราคม 2490 แต่ตามสำเนาประกาศท้ายฟ้องอ้างว่าอาศัยอำนาจตามความในประกาศของคณะกรรมการฉะบับเดือนกรกฎาคม 2490 ดังนี้ แม้จำเลยให้การรับสารภาพ ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้ เพราะไม่รู้แน่ว่า ประกาศของพนักงาน ที่โจทก์หาว่าจำเลยฝ่าฝืน ออกมาโดยอาศัยอำนาจของคณะกรรมการฉะบับใด
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยฝ่าฝืนประกาศของพนักงานเจ้าหน้าที่ประจำจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามประกาศของคณะกรรมการปฏิบัติตามการ พ.ร.บ.การค้าข้าว แต่ในฟ้องตอนต้นปรากฎว่าประกาศของพนักงานเจ้าหน้าที่อาศัยอำนาจตามความในประกาศของคณะกรรมการฉะบับเดือนมกราคม 2490 แต่ตามสำเนาประกาศท้ายฟ้องอ้างว่าอาศัยอำนาจตามความในประกาศของคณะกรรมการฉะบับเดือนกรกฎาคม 2490 ดังนี้ แม้จำเลยให้การรับสารภาพ ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้ เพราะไม่รู้แน่ว่า ประกาศของพนักงาน ที่โจทก์หาว่าจำเลยฝ่าฝืน ออกมาโดยอาศัยอำนาจของคณะกรรมการฉะบับใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1609/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์อำนาจของประกาศเจ้าหน้าที่: การที่โจทก์ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าประกาศที่อ้างถึงอ้างอิงจากประกาศคณะกรรมการฉบับใด ทำให้ศาลไม่สามารถลงโทษจำเลยได้
ประกาศของพนักงานเจ้าหน้าที่ประจำจังหวัดจะใช้บังคับได้ ต้องปรากฏว่าคณะกรรมการปฏิบัติการตามพ.ร.บ.การค้าข้าว ได้ให้อำนาจไว้ ประกาศให้อำนาจของคณะกรรมการปฏิบัติการตามพ.ร.บ.การค้าข้าวดังกล่าวไม่ใช่เป็นข้อกฎหมาย แต่เป็นข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำอันหนึ่งในการกระทำทั้งหลายที่เป็นองค์ความผิดซึ่งโจทก์จะต้องนำสืบให้ได้ความชัดแจ้ง
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยฝ่าฝืนประกาศของพนักงานเจ้าหน้าที่ประจำจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามประกาศของคณะกรรมการปฏิบัติการตามพ.ร.บ.การค้าข้าวแต่ในฟ้องตอนต้นปรากฏว่าประกาศของพนักงานเจ้าหน้าที่อาศัยอำนาจตามความในประกาศของคณะกรรมการฉบับเดือนมกราคม 2490แต่ตามสำเนาประกาศท้ายฟ้องอ้างว่าอาศัยอำนาจตามความในประกาศของคณะกรรมการฉบับเดือนกรกฎาคม 2490 ดังนี้ แม้จำเลยให้การรับสารภาพ ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้ เพราะไม่รู้แน่ว่า ประกาศของพนักงาน ที่โจทก์หาว่าจำเลยฝ่าฝืนนั้น ออกมาโดยอาศัยอำนาจของคณะกรรมการฉบับใด
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยฝ่าฝืนประกาศของพนักงานเจ้าหน้าที่ประจำจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามประกาศของคณะกรรมการปฏิบัติการตามพ.ร.บ.การค้าข้าวแต่ในฟ้องตอนต้นปรากฏว่าประกาศของพนักงานเจ้าหน้าที่อาศัยอำนาจตามความในประกาศของคณะกรรมการฉบับเดือนมกราคม 2490แต่ตามสำเนาประกาศท้ายฟ้องอ้างว่าอาศัยอำนาจตามความในประกาศของคณะกรรมการฉบับเดือนกรกฎาคม 2490 ดังนี้ แม้จำเลยให้การรับสารภาพ ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้ เพราะไม่รู้แน่ว่า ประกาศของพนักงาน ที่โจทก์หาว่าจำเลยฝ่าฝืนนั้น ออกมาโดยอาศัยอำนาจของคณะกรรมการฉบับใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1607/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขนย้ายข้าวหลังได้รับอนุญาต: การกระทำเป็นระยะไม่ต่อเนื่องไม่ถือว่าฝ่าฝืนประกาศ
ประกาศข้าหลวงประจำจังหวัดมีใจความว่า ห้ามมิให้ผู้ครอบครองข้าวยักย้ายข้าวจากสถานที่เก็บ เว้นแต่จะได้รับอนุญาต และการยักย้ายดังกล่าวให้ทำได้เฉพาะเวลาระหว่างพระอาทิตย์ขึ้น ถึงพระอาทิตย์ตกดังนี้ เมื่อทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยได้รับอนุญาตให้ขนย้ายข้าวจากสถานที่เก็บได้แล้ว และเอาข้าวบรรทุกรถยนต์ เดินทางไปในเวลากลางวัน แต่ไปค่ำมืดลงในระหว่างทาง ดังนี้ จำเลยย่อมไม่มีผิดฐานขนย้ายข้าวจากสถานที่เก็บในเวลากลางคืนตามประกาศฉบับนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1607/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขนย้ายข้าวภายหลังได้รับอนุญาต: การกระทำแยกช่วงไม่ถือเป็นการฝ่าฝืนประกาศ
ประกาศข้าหลวงประจำจังหวัดมีใจความว่า ห้ามมิให้ผู้ครอบครองข้าวยักย้ายข้าวจากสถานที่เก็บ เว้นแต่จะได้รับอนุญาต และการยักย้ายดังกล่าวให้ทำได้ฉะเพาะเวลาระหว่างพระอาทิตย์ขึ้น ถึงพระอาทิตย์ตก ดังนี้ เมื่อทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยได้รับอนุญาตให้ขนย้ายข้าวจากสถานที่เก็บได้แล้ว และเอาข้าวบันทุกรถยนตร์เดินทางไปในเวลากลางวัน แต่ไปค่ำมึดลงในระหว่างทาง ดังนี้ จำเลยย่อมไม่มีผิดฐานขนย้ายข้าวจากสถานที่เก็บในเวลากลางคืนตามประกาศฉะบับนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 660/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายข้าวเกินราคาที่ตกลงในที่ประชุม ไม่ถือเป็นเจตนาฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงาน
ข้าหลวงประจำจังหวัดในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ ตาม พ.ร.บ.การค้าข้าว ได้ออกประกาศกำหนดราคาข้าวสารที่ 1 กระสอบละ 115 บาทต่อมาข้าวมีราคาสูงขึ้นถึงกระสอบละ 180-190 บาทข้าหลวงประจำจังหวัดพร้อมทั้งคณะกรมการจังหวัดและเจ้าของโรงสีต่าง ๆ มาประชุมพร้อมกันตกลงขอให้เจ้าของโรงสีขายข้าวช่วยเหลือข้าราชการ ในราคาถูกก่อน คือ ข้าวที่ 1 กระสอบละ 145 บาท ส่วนประชาชนขอให้ลดลงไปบ้างหลังจากที่ได้ตกลงในที่ประชุมแล้ว จำเลยได้ขายข้าวสารให้แก่ ร.ต.ต.สุนทร ราคากระสอบละ 180 บาท ต่อจากนั้นมาได้มีประกาศยกเลิกประกาศเดิมที่ให้ขายข้าวสารที่ 1 กระสอบละ 115 บาทเสีย ดังนี้ เป็นที่เห็นได้ว่าโดยมติที่ประชุมดังกล่าว เป็นเหตุให้จำเลยเข้าใจว่าทางการอนุมัติมิต้องปฏิบัติตามคำสั่งกำหนดราคาข้าวเดิมนั้นแล้ว จะว่าจำเลยเจตนาฝ่าฝืนคำสั่งหาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 660/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายข้าวเกินราคาที่ตกลงในที่ประชุม ไม่ถือเป็นการฝ่าฝืนประกาศเดิม หากทางการอนุมัติให้เปลี่ยนแปลงได้
ข้าหลวงประจำจังหวัดในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว ได้ออกประกาศกำหนดราคาข้าวสารที่ 1 กระสอบละ 115 บาทต่อมาข้าวมีราคาสูงขึ้นถึงกระสอบละ 180-190 บาทข้าหลวงประจำจังหวัดพร้อมทั้ง คณะกรรมการจังหวัดและเจ้าของโรงสีต่างๆมาประชุมพร้อมกันตกลงขอให้เจ้าของโรงสีขายข้าวช่วยเหลือข้าราชการในราคาถูกก่อน คือ ข้าวที่ 1 กระสอบละ 145 บาท ส่วนประชาชนขอให้ลดลงไปบ้างหลังจากที่ได้ตกลงในที่ประชุมแล้ว จำเลยได้ขายข้าวสารให้แก่ ร.ต.ต.สุนทร ราคากระสอบละ 180 บาท ต่อจากนั้นมาได้มีประกาศยกเลิกประกาศเดิมที่ให้ขายข้าวสาร ที่ 1 กระสอบละ 115 บาทเสีย ดังนี้ เป็นที่เห็นได้ว่าโดยมติที่ประชุมดังกล่าวแล้ว เป็นเหตุให้จำเลยเข้าใจว่าทางการอนุมัติมิต้องปฏิบัติตามคำสั่งกำหนดราคาข้าวเดิมนั้นแล้วจะว่าจำเลยเจตนาฝ่าฝืนคำสั่งหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 78/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกขายสินค้าเกินราคาไม่เป็นความผิด หากไม่มีการขายจริง และประกาศควบคุมราคาห้ามเฉพาะการขาย
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยบอกขายข้าวสารเกินราคา เป็นการฝ่าฝืนประกาศข้าหลวงประจำจังหวัด แต่ประกาศที่โจทก์อ้างเป็นแต่ห้ามการขายเกินราคา มิได้ห้ามการบอกขาย และการบอกขายยังไม่เป็นการกระทำถึงขั้นพยายามขาย คดีไม่มีทางลงโทษจำเลย