พบผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1188/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ที่ดินจากการครอบครองโดยมีเจตนาที่จะครอบครองเป็นเจ้าของ แม้ไม่ได้จดทะเบียนสมรส
ชายหญิงอยู่กินกันฉันสามีภริยา แต่มิได้จดทะเบียนสมรส ชายเอาที่ดินของหญิงไปขายฝากไว้กับผู้อื่นโดยความรู้ เห็นยินยอมของหญิง ครบกำหนดไถ่ถอนก็ไม่ไถ่ ผู้รับซื้อที่ดินนั้นได้ปกครองที่นั้นอย่างเจ้าของต่อมาอีก 7 ปี เช่นนี้เมื่อปรากฎว่าที่ดินนั้นเป็นที่มือเปล่า ผู้รับซื้อฝากที่ไว้ย่อมได้สิทธิในที่นั้นโดยการครอบครองหญิงไม่มีสิทธิเอากลับคืนได้./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 253/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไถ่ถอนขายฝาก: การพิสูจน์สิทธิด้วยพยานบุคคลได้ แม้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ
การชำระเงินไถ่ถอนการขายฝากนั้น ไม่มีกฎหมายบังคับว่า ต้องทำตาม่แบบ หรือต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือแต่
อย่างใดฉะนั้นการชำระเงินไถ่ถอนการขายฝากดดยไม่มีเอกสารใบรับเงินต่อกัน จึงเป็นเรื่องที่จะนำพยานบุคคล
เข้าสืบได้ ไม่ขัดกับ ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 94.
อย่างใดฉะนั้นการชำระเงินไถ่ถอนการขายฝากดดยไม่มีเอกสารใบรับเงินต่อกัน จึงเป็นเรื่องที่จะนำพยานบุคคล
เข้าสืบได้ ไม่ขัดกับ ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 94.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1783/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายที่แท้จริงไม่ใช่ขายฝาก สัญญาที่ทำโดยไม่ผูกพันถือเป็นโมฆะ
โจทก์ฟ้องว่า ขายฝากที่ดินไว้ แต่ได้ทำสัญญาเป็นซื้อขายกรรมสิทธิต่อกัน โดยไม่มีเจตนาจะผูกพัน หากสัญญาขายฝากที่อ้างไม่ได้ทำต่อหน้าเจ้าพนักงาน ก็ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยว่าเป็นนิติกรรมจำนองหรือไม่ เพราะการขายฝากที่อ้างนั้นเป็นโมฆะ.
(อ้างฎีกาที่ 352/2492)
(อ้างฎีกาที่ 352/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 843/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อฝากและการบรรยายฟ้อง การซื้อฝากถือเป็นการโอนกรรมสิทธิ์ การฟ้องไม่ตรงกับข้อเท็จจริงถือเป็นเหตุให้แพ้คดี
โจทก์ฟ้องว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ ได้ซื้อมาจากจำเลยทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยได้ขายฝากที่ดินพิพาทไว้แก่โจทก์โดยทำสัญญาต่อพนักงานเจ้าหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมาย ดังนี้ หาเป็นการบรรยายข้อเท็จจริงอันเป็นรากฐานแห่งสิทธิต่างจากความจริงแห่งกรณีอย่างใดไม่
จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ฉ้อฉล เมื่อไม่สืบพะยานจำเลยก็ต้องแพ้คดี.
จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ฉ้อฉล เมื่อไม่สืบพะยานจำเลยก็ต้องแพ้คดี.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 294/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายที่ดินเป็นโมฆะเมื่อกรรมสิทธิเปลี่ยนมือ ศาลบังคับโอนไม่ได้
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยปฏิบัติตามสัญญาจะขายที่นา ขณะที่ฟ้องคดีนาไม่ได้อยู่ในกรรมสิทธิของจำเลย โดยได้ตกไปเป็นของผู้รับซื้อฝากเสียแล้ว เมื่อจำเลยยังมิได้ไถ่ถอนกลับคืนมาก็ไม่มีทางที่จะบังคับให้จำเลย ทำการโอนขายให้โจทก์ได้ เพราะสภาพแห่งหนี้ไม่เปิดช่องให้ ศาลพิพากษาบังคับได้
คดีผิดสัญญาจะซื้อขายที่นาอาจมีทางที่โจทก์จะเรียกร้องได้ในทางอื่น เช่น ใช้สิทธิเรียกร้องเอาค่าเสียหายหรือใช้สิทธิเรียกร้องของจำเลยทำการไถ่ถอนการขายฝากจากผู้รับซื้อฝาก แทนที่จำเลย ดังที่บัญญัติไว้ตาม ป.ม.แพ่ง ฯ มาตรา 233, 234 แต่โจทก์หาได้ดำเนินการดังกล่าวไม่ โจทก์ฟ้องโดยฉะเพาะเจาะจงขอให้ศาลบังคับจำเลยโอนขายที่นาให้โจทก์แต่ประการเดียว เมื่อศาลบังคับให้โดยตรงเช่นนั้นไม่ได้ต้องยกฟ้อง
คดีผิดสัญญาจะซื้อขายที่นาอาจมีทางที่โจทก์จะเรียกร้องได้ในทางอื่น เช่น ใช้สิทธิเรียกร้องเอาค่าเสียหายหรือใช้สิทธิเรียกร้องของจำเลยทำการไถ่ถอนการขายฝากจากผู้รับซื้อฝาก แทนที่จำเลย ดังที่บัญญัติไว้ตาม ป.ม.แพ่ง ฯ มาตรา 233, 234 แต่โจทก์หาได้ดำเนินการดังกล่าวไม่ โจทก์ฟ้องโดยฉะเพาะเจาะจงขอให้ศาลบังคับจำเลยโอนขายที่นาให้โจทก์แต่ประการเดียว เมื่อศาลบังคับให้โดยตรงเช่นนั้นไม่ได้ต้องยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 531/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การผูกพันสินบริคณห์หลังละทิ้งภรรยา: สิทธิในการบอกล้างสัญญาซื้อขายที่ดินสินสมรส
สามีขายฝากที่นาสินสมรสไว้หลังได้ละทิ้งภรรยา ๆ ไม่มีเงิน จึงต้องขายนานี้ขาดแก่ผู้รับ เพื่อเอาเงินมาเลี้ยงบุตร+สัญญานี้จึงผูกพันธ์สินบริคนห์ตาม ป.พ.พ.ม.1480 - 1482 สามีจะบอกล้างมิได้