พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,032 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 381/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งวันขายทอดตลาด: จำเลยมีสิทธิคัดค้านภายใน 8 วัน หากไม่ได้รับแจ้งโดยชอบ ศาลต้องไต่สวนเพื่อพิสูจน์
การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่แจ้งวันขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยที่ยึดมาตามคำพิพากษาให้จำเลยทราบก่อนวันขายทอดตลาดนั้น จำเลยย่อมยื่นคำร้องคัดค้านได้เมื่อยังไม่พ้นกำหนด 8 วัน นับแต่วันที่จำเลยได้ทราบ
เมื่อยังไม่ได้ความแน่ชัดว่าจำเลยได้รับแจ้งวันขายทอดตลาดโดยชอบหรือไม่ก็ชอบที่ศาลจะทำการไต่สวนแล้วมีคำสั่งต่อไป
เมื่อยังไม่ได้ความแน่ชัดว่าจำเลยได้รับแจ้งวันขายทอดตลาดโดยชอบหรือไม่ก็ชอบที่ศาลจะทำการไต่สวนแล้วมีคำสั่งต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 381/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งวันขายทอดตลาด: จำเลยมีสิทธิคัดค้านหากไม่ได้รับการแจ้งโดยชอบ และยังไม่พ้นกำหนด 8 วัน
การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่แจ้งวันขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยที่ยึดมาตามคำพิพากษาให้จำเลยทราบก่อนวันขายทอดตลาดนั้น จำเลยย่อมยื่นคำร้องคัดค้านได้เมื่อยังไม่พ้นกำหนด 8 วัน นับแต่วันที่จำเลยได้ทราบ
เมื่อยังไม่ได้ความแน่ชัดว่า จำเลยได้รับแจ้งวันขายทอดตลาดโดยชอบหรือไม่ ก็ชอบที่ศาลจะทำการไต่สวนแล้วมีคำสั่งต่อไป
เมื่อยังไม่ได้ความแน่ชัดว่า จำเลยได้รับแจ้งวันขายทอดตลาดโดยชอบหรือไม่ ก็ชอบที่ศาลจะทำการไต่สวนแล้วมีคำสั่งต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 362/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรุกล้ำที่ดินโดยต้นไม้: จำเลยมีหน้าที่จัดการบำบัดหากไม่มีทางสาธารณะคั่น
ทางเดินในที่ดินของเอกชนซึ่งมีผู้ถือวิสาสะใช้เป็นทางเดินเพื่อความสะดวกบางประการนั้นเมื่อเจ้าของมิได้อุทิศโดยตรงหรือโดยปริยายอย่างใดแล้ว ก็หาทำให้ทางเดินนั้นกลายสภาพเป็นทางสาธารณะไม่
การที่ที่ดินของโจทก์จำเลยอยู่ติดกันโดยไม่มีทางสาธารณะคั่นกลางนั้นเมื่อกิ่งก้านต้นไม้ในที่ดินของจำเลยรุกล้ำเข้าไปในที่ดินของโจทก์จำเลยก็ย่อมมีหน้าที่ต้องจัดการบำบัดอย่าให้มีสภาพเช่นนั้นต่อไป
การที่ที่ดินของโจทก์จำเลยอยู่ติดกันโดยไม่มีทางสาธารณะคั่นกลางนั้นเมื่อกิ่งก้านต้นไม้ในที่ดินของจำเลยรุกล้ำเข้าไปในที่ดินของโจทก์จำเลยก็ย่อมมีหน้าที่ต้องจัดการบำบัดอย่าให้มีสภาพเช่นนั้นต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 362/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรุกล้ำที่ดินและสิทธิของเจ้าของที่ดินติดกัน แม้ไม่มีทางสาธารณะ ก็มีหน้าที่จัดการบำบัด
ทางเดินในที่ดินของเอกชนซึ่งมีผู้ถือวิสาสะให้เป็นทางเดินเพื่อความสะดวกบางประการนั้นเมื่อเจ้าของมิได้อุทิศโดยตรงหรือโดยปริยายอย่างใดแล้ว ก็หาทำให้ทางเดินนั้นกลายสภาพเป็นทางสาธารณะไม่
การที่ที่ดินของโจทก์จำเลยอยู่ติดกันโดยไม่มีทางสาธารณะคั่นกลางนั้น เมื่อกิ่งก้านต้นไม้ในที่ดินของจำเลยรุกล้ำเข้าไปในที่ดินของโจทก์จำเลยก็ย่อมมีหน้าที่ต้องจัดการบำบัดอย่าให้มีสภาพเช่นนั้นต่อไป
การที่ที่ดินของโจทก์จำเลยอยู่ติดกันโดยไม่มีทางสาธารณะคั่นกลางนั้น เมื่อกิ่งก้านต้นไม้ในที่ดินของจำเลยรุกล้ำเข้าไปในที่ดินของโจทก์จำเลยก็ย่อมมีหน้าที่ต้องจัดการบำบัดอย่าให้มีสภาพเช่นนั้นต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 361/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ไม้ยังไม่แปรรูป: เจตนาพรางเพื่อหลีกเลี่ยงข้อกฎหมาย
ไม้ของกลางเป็นไม้สดไม่มีรอยตราค่าภาคหลวง หรือรอยตรารัฐบาลขายแต่อย่างใด และไม่ปรากฏว่าจำเลยซื้อมาจากที่ไหนอย่างใดจำเลยได้เอาไม้ของกลางนี้มาฝังดินทำเป็นเสาเรือนโดยไม่ได้บากให้เป็นช่องรับไม้รอดที่ตียึดเสากลับตีพุกประกับช่วยเป็นการแสดงเจตนาให้เห็นได้ว่าจำเลยเอามาทำเสาเรือนเพื่อพราง ไม่ใช่เพื่อให้เป็นเสาเรือนอย่างถาวรไม้ของกลางจึงยังไม่เป็นไม้แปรรูป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 361/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายไม้แปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาต: การพิจารณาเจตนาในการแปรรูปไม้เพื่อใช้ประโยชน์
ไม้ของกลางเป็นไม้สด ไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงหรือรอยตรารัฐบาลขายแต่อย่างใด และไม่ปรากฏว่าจำเลยซื้อมาจากที่ไหนอย่างใด จำเลยได้เอาไม้ของกลางนี้มาฝังดินทำเป็นเสาเรือนโดยไม่ได้บากให้เป็นช่องรับไม้รอดที่ตียึดเสา กลับตีพุกประกับช่วย เป็นการแสดงเจตนาให้เห็นได้ว่าจำเลยเอามาทำเสาเรือนเพื่อพราง ไม่ใช่เพื่อให้เป็นเราเรือนอย่างถาวร ไม้ของกลางจึงยังไม่เป็นไม้แปรรูป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 355/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายที่ดิน: การเลิกสัญญาและการคืนสู่ฐานะเดิมเมื่อผิดสัญญา
การที่จำเลยทำสัญญาจะซื้อที่ดินมือเปล่าจากสามีโจทก์โดยได้วางมัดจำและได้เข้าครอบครองที่ดินมากว่า 10 ปี แล้วก็ตาม เมื่อยังไม่ได้โอนขายกัน ก็ต้องถือว่าจำเลยครอบครองโดยอาศัยสิทธิของฝ่ายโจทก์ฝ่ายโจทก์ย่อมขอให้ปฏิบัติตามสัญญาต่อไปได้
เมื่อจำเลยผู้จะซื้อผิดสัญญาฝ่ายโจทก์ผู้จะขายก็ขอเลิกสัญญาได้เมื่อใช้สิทธิเลิกสัญญาแล้ว คู่สัญญาแต่ละฝ่ายจำต้องให้อีกฝ่ายหนึ่งได้กลับคืนสู่ฐานะเดิมคือโจทก์คืนเงินที่รับชำระให้จำเลย จำเลยก็ต้องคืนที่พิพาทให้โจทก์
เมื่อจำเลยผู้จะซื้อผิดสัญญาฝ่ายโจทก์ผู้จะขายก็ขอเลิกสัญญาได้เมื่อใช้สิทธิเลิกสัญญาแล้ว คู่สัญญาแต่ละฝ่ายจำต้องให้อีกฝ่ายหนึ่งได้กลับคืนสู่ฐานะเดิมคือโจทก์คืนเงินที่รับชำระให้จำเลย จำเลยก็ต้องคืนที่พิพาทให้โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 355/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายที่ดิน: สิทธิเลิกสัญญาและการคืนสู่ฐานะเดิมเมื่อผิดสัญญา
การทีจำเลยทำสัญญาจะซื้อที่ดินมือเปล่าจากสามีโจทก์ โดยได้วางมัดจำและได้เข้าครอบครองที่ดินมากว่า 10 ปีแล้วก็ตาม เมื่อยังไม่ได้โอนขายกัน ก็ต้องถือว่าจำเลยครอบครองโดยอาศัยสิทธิของฝ่ายโจทก์ ฝ่ายโจทก์ย่อมขอให้ปฏิบัติตามสัญญาต่อไปได้
เมื่อจำเลยผู้จะซื้อผิดสัญญา ฝ่ายโจทก์ผู้จะขายก็ขอเลิกสัญญาได้ เมื่อใช้สิทธิเลิกสัญญาแล้ว คู่สัญญาแต่ละฝ่ายจำต้องให้อีกฝ่ายหนึ่งได้กลับคืนสู่ฐานะเดิม คือ โจทก์คืนเงินที่รับชำระให้จำเลย จำเลยก็ต้องคืนที่พิพาทให้โจทก์
เมื่อจำเลยผู้จะซื้อผิดสัญญา ฝ่ายโจทก์ผู้จะขายก็ขอเลิกสัญญาได้ เมื่อใช้สิทธิเลิกสัญญาแล้ว คู่สัญญาแต่ละฝ่ายจำต้องให้อีกฝ่ายหนึ่งได้กลับคืนสู่ฐานะเดิม คือ โจทก์คืนเงินที่รับชำระให้จำเลย จำเลยก็ต้องคืนที่พิพาทให้โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 345/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องหลายกระทงความผิด โจทก์มีสิทธิรวมในคดีเดียวหรือแยกฟ้องก็ได้ ศาลต้องลงโทษทุกกระทงหากฟ้องและจำเลยรับสารภาพ
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยขับรถยนต์โดยไม่มีใบอนุญาต และขับรถยนต์โดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส นั้น ความผิดฐานขับรถยนต์โดยไม่มีใบอนุญาต เป็นความผิดคนละกระทงกับความผิดฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส
การฟ้องคดีความผิดหลายกระทงนั้น โจทก์จะฟ้องแต่ละกระทงความผิดรวมในคดีเดียวกันก็ได้ หรือแยกฟ้องแต่ละกระทงความผิดเป็นคดี ๆ ไปก็ได้
การฟ้องคดีความผิดหลายกระทงนั้น โจทก์จะฟ้องแต่ละกระทงความผิดรวมในคดีเดียวกันก็ได้ หรือแยกฟ้องแต่ละกระทงความผิดเป็นคดี ๆ ไปก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 345/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตและประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตราย การลงโทษหลายกระทง
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยขับรถยนต์โดยไม่มีใบอนุญาตและขับรถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัสนั้น ความผิดฐานขับรถยนต์โดยไม่มีใบอนุญาตเป็นความผิดคนละกระทงกับความผิดฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส
การฟ้องคดีความผิดหลายกระทงนั้น โจทก์จะฟ้องแต่ละกระทงความผิดรวมในคดีเดียวกันก็ได้ หรือแยกฟ้องแต่ละกระทงความผิดเป็นคดีๆไปก็ได้
การฟ้องคดีความผิดหลายกระทงนั้น โจทก์จะฟ้องแต่ละกระทงความผิดรวมในคดีเดียวกันก็ได้ หรือแยกฟ้องแต่ละกระทงความผิดเป็นคดีๆไปก็ได้