พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,032 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 311/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของผู้เช่าช่วงที่อาศัยสิทธิจากผู้เช่าเดิมเมื่อสัญญาเช่าที่ดินสิ้นสุด ผู้เช่าช่วงไม่อาจอ้างสิทธิคุ้มครองตามกฎหมายได้
จำเลยเช่าที่ดินของโจทก์ปลูกอาคาร เมื่อครบกำหนดต้องรื้อไป ผู้เช่าอาคาร(ห้องแถว)ของจำเลยไม่ได้เช่าที่ดินของโจทก์ จึงเป็นการอาศัยสิทธิของจำเลยเท่านั้น และตกอยู่ในฐานะบริวารของจำเลย จะอ้างความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯ และพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน ฯ ยันโจทก์ไม่ได้
กรณีสัญญาเช่าที่ดินครบกำหนดกับกรณีที่เลิกสัญญาเช่าก่อนครบกำหนด เป้นเ รื่องทำนองเดียวกัน คือ ผู้ให้เช่ามีสิทธิเรียกร้องเอาที่ดินที่ให้เช่าคืน (อ้างฎีกาที่ 337/2500)
กรณีสัญญาเช่าที่ดินครบกำหนดกับกรณีที่เลิกสัญญาเช่าก่อนครบกำหนด เป้นเ รื่องทำนองเดียวกัน คือ ผู้ให้เช่ามีสิทธิเรียกร้องเอาที่ดินที่ให้เช่าคืน (อ้างฎีกาที่ 337/2500)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 311/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของผู้เช่าช่วงเมื่อสัญญาเช่าที่ดินสิ้นสุด: ผู้เช่าช่วงไม่มีสิทธิอ้างกฎหมายคุ้มครองค่าเช่ากับผู้ให้เช่าเดิม
จำเลยเช่าที่ดินของโจทก์ปลูกอาคาร เมื่อครบกำหนดต้องรื้อไป ผู้เช่าอาคาร(ห้องแถว) ของจำเลยไม่ได้เช่าที่ดินของโจทก์ จึงเป็นการอาศัยสิทธิของจำเลยเท่านั้นและตกอยู่ในฐานะบริวารของจำเลยจะอ้างความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯและพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดินฯ ยันโจทก์ไม่ได้
กรณีสัญญาเช่าที่ดินครบกำหนดกับกรณีที่เลิกสัญญาเช่าก่อนครบกำหนด เป็นเรื่องทำนองเดียวกันคือผู้ให้เช่ามีสิทธิเรียกร้องเอาที่ดินที่ให้เช่าคืน (อ้างฎีกาที่337/2500)
กรณีสัญญาเช่าที่ดินครบกำหนดกับกรณีที่เลิกสัญญาเช่าก่อนครบกำหนด เป็นเรื่องทำนองเดียวกันคือผู้ให้เช่ามีสิทธิเรียกร้องเอาที่ดินที่ให้เช่าคืน (อ้างฎีกาที่337/2500)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 275/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ทางเดินเป็นภารจำยอม แม้ใช้ไม่ต่อเนื่องตลอดปี และจำเลยมิได้พิสูจน์ข้ออ้าง
โจทก์บรรยายฟ้องชัดแจ้งว่า ขอให้เปิดทางภารจำยอม ถึงแม้จะมีความกล่าวว่าเป็นทางจำเป็นด้วย ก็เป็นเพียงข้ออ้างว่านอกจากเป็นทางภารจำยอมแล้วยังเป็นทางจำเป็นอีกด้วย ฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม
โจทก์กับพวกใช้ทางพิพาทเป็นประจำมาเกินกว่าสิบปี ภารจำยอมย่อมเกิดขึ้นเป็นคุณแก่ที่ดินโจทก์แล้ว การที่โจทก์ไม่ได้ใช้ทางพิพาทเป็นทางเดินผ่านตลอดปี หาทำให้การใช้ทางเดินนั้นขาดตอนไม่ติดต่อกันได้ไม่
(อ้างฎีกา 1318/2501)
เมื่อจำเลยอ้างว่าโจทก์เดินในทางพิพาทโดยถือวิสาสะ จำเลยต้องนำสืบข้ออ้างนี้
โจทก์กับพวกใช้ทางพิพาทเป็นประจำมาเกินกว่าสิบปี ภารจำยอมย่อมเกิดขึ้นเป็นคุณแก่ที่ดินโจทก์แล้ว การที่โจทก์ไม่ได้ใช้ทางพิพาทเป็นทางเดินผ่านตลอดปี หาทำให้การใช้ทางเดินนั้นขาดตอนไม่ติดต่อกันได้ไม่
(อ้างฎีกา 1318/2501)
เมื่อจำเลยอ้างว่าโจทก์เดินในทางพิพาทโดยถือวิสาสะ จำเลยต้องนำสืบข้ออ้างนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 275/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้มาซึ่งภารจำยอมโดยการใช้ทางต่อเนื่องเกินสิบปี และการฟ้องขอทางภารจำยอมที่มิเคลือบคลุม
โจทก์บรรยายฟ้องชัดแจ้งว่า ขอให้เปิดทางภารจำยอมถึงแม้จะมีความกล่าวว่าเป็นทางจำเป็นด้วยก็เป็นเพียงข้ออ้างว่านอกจากเป็นทางภารจำยอมแล้วยังเป็นทางจำเป็นอีกด้วย ฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม
โจทก์กับพวกใช้ทางพิพาทเป็นประจำมาเกินกว่าสิบปีภารจำยอมย่อมเกิดขึ้นเป็นคุณแก่ที่ดินโจทก์แล้วการที่โจทก์ไม่ได้ใช้ทางพิพาทเป็นทางเดินผ่านตลอดปีหาทำให้การใช้ทางเดินนั้นขาดตอนไม่ติดต่อกันไม่ได้
(อ้างฎีกา 1318/2501)
เมื่อจำเลยอ้างว่าโจทก์ที่ดินในทางพิพาทโดยถือวิสาสะจำเลยต้องนำสืบข้ออ้าง
โจทก์กับพวกใช้ทางพิพาทเป็นประจำมาเกินกว่าสิบปีภารจำยอมย่อมเกิดขึ้นเป็นคุณแก่ที่ดินโจทก์แล้วการที่โจทก์ไม่ได้ใช้ทางพิพาทเป็นทางเดินผ่านตลอดปีหาทำให้การใช้ทางเดินนั้นขาดตอนไม่ติดต่อกันไม่ได้
(อ้างฎีกา 1318/2501)
เมื่อจำเลยอ้างว่าโจทก์ที่ดินในทางพิพาทโดยถือวิสาสะจำเลยต้องนำสืบข้ออ้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 267/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายทรัพย์สินล้มละลายนอกการขายทอดตลาด ต้องแจ้งกรรมการเจ้าหนี้เป็นหัวข้อประชุมชัดเจน เพื่อความชอบธรรมทางกฎหมาย
การที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะขายทรัพย์สินที่รวบรวมได้มาโดยวิธีอื่นนอกจากการขายทอดตลาดนั้น เป็นข้อยกเว้นจากหลักทั่วไป จึงต้องแปลความโดยเคร่งครัด โดยต้องแจ้งให้กรรมการเจ้าหนี้ทราบล่วงหน้าโดยระบุเป็นหัวข้อประชุมให้ชัดแจ้ง ฉะนั้น เมื่อแจ้งความนัดประชุมของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่ครบถ้วนและกรรมการเจ้าหนี้บางคนไม่ได้ไปประชุมเพราะป่วยหรือไม่ได้รับหมายนัดประชุมแล้ว มติของที่ประชุมกรรมการเจ้าหนี้ที่ให้ขายทรัพย์โดยวิธีอื่นนั้น จึงหาชอบด้วยกฎหมายไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 251-252/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรม, ฟ้องซ้ำ, สิทธิรับมรดก, สินสมรส, พยานหลักฐาน
บุตรไม่อาจอ้างว่าบิดานำสินสมรสของบิดามารดามาทำพินัยกรรม ในเมื่อมารดาผู้มีส่วนได้เสียโดยตรงมิได้โต้แย้งคัดค้าน
โจทก์ฟ้องคดีแรกขอให้เพิกถอนหรือทำลายพินัยกรรม แล้วมาฟ้องคดีหลังขอให้สั่งว่าพินัยกรรมไม่ชอบด้วยกฎหมายอีก แม้ฟ้องคดีหลังจะมีประเด็นขอให้กำจัดมิให้รับมรดกและเรียกค่าเสียหายด้วยก็ตาม เฉพาะประเด็นให้เพิกถอนพินัยกรรมนั้นต้องถือว่าเป็นฟ้องซ้ำ
หากพยานฝ่ายที่นำสืบภายหลังเบิกความแตกต่างกับที่เคยเบิกความไว้ในคดีอาญาและฝ่ายที่นำสืบก่อนเพิ่งทราบเช่นนี้ เพื่อประโยชน์แห่งความยุตธรรม ศาลอนุญาตให้ฝ่ายนำสืบก่อนอ้างสำนวนคดีอาญาเป็นพยานได้
โจทก์ฟ้องคดีแรกขอให้เพิกถอนหรือทำลายพินัยกรรม แล้วมาฟ้องคดีหลังขอให้สั่งว่าพินัยกรรมไม่ชอบด้วยกฎหมายอีก แม้ฟ้องคดีหลังจะมีประเด็นขอให้กำจัดมิให้รับมรดกและเรียกค่าเสียหายด้วยก็ตาม เฉพาะประเด็นให้เพิกถอนพินัยกรรมนั้นต้องถือว่าเป็นฟ้องซ้ำ
หากพยานฝ่ายที่นำสืบภายหลังเบิกความแตกต่างกับที่เคยเบิกความไว้ในคดีอาญาและฝ่ายที่นำสืบก่อนเพิ่งทราบเช่นนี้ เพื่อประโยชน์แห่งความยุตธรรม ศาลอนุญาตให้ฝ่ายนำสืบก่อนอ้างสำนวนคดีอาญาเป็นพยานได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 241/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิใช้ทางในที่ดินของผู้อื่นเมื่อที่ดินถูกล้อม - ทางจำเป็นตามประมวลกฎหมายแพ่ง
โจทก์ฟ้องให้จำเลยเปิดทางเดินโดยอ้างว่าทางพิพาทเป็นทางสาธารณะ แม้จะพิจารณาได้ความว่าทางพิพาทเป็นของจำเลยมิใช่ทางสาธารณะก็ตามเมื่อฟ้องโจทก์ก็ได้บรรยายว่าที่ดินของโจทก์ตกอยู่ในที่ล้อมของที่ดินผู้อื่นทั้งสี่ด้านและข้อเท็จจริงก็ได้ความว่าโจทก์เคยนำวัวควายออกไปเลี้ยงและทำนาโดยอาศัยทางพิพาทนี้มาก่อนจำเลยปิดกั้นแล้วเช่นนี้โจทก์ย่อมมีความชอบธรรมที่จะใช้ทางพิพาทได้จำเลยจะใช้สิทธิปิดทางไม่ให้โจทก์ได้ใช้เสียเลยหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 241/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิใช้ทางจำเป็นเมื่อที่ดินถูกล้อม – การบังคับใช้สิทธิของเจ้าของที่ดินที่ไม่มีทางออก
โจทก์ฟ้องให้จำเลยเปิดทางเดิน โดยอ้างว่าทางพิพาทเป็นทางสาธารณะ แม้จะพิจารณาได้ความว่าทางพิพาทเป็นของจำเลย มิใช่ทางสาธารณะก็ตาม เมื่อฟ้องโจทก์ก็ได้บรรยายว่าที่ดินของโจทก์ตกอยู่ในที่ล้อมของที่ดินผู้อื่นทั้งสี่ด้าน และข้อเท็จจริงก็ได้ความว่าโจทก์เคยนำวัวควายออกไปเลี้ยงและทำนาโดยอาศัยทางพิพาทนี้มาก่อนจำเลยปิดกั้นแล้ว เช่นนี้ โจทก์ย่อมมีความชอบธรรมที่จะใช้ทางพิพาทได้ จำเลยจะใช้สิทธิปิดทางไม่ให้โจทก์ได้ใช้เสียเลยหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 237/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภารจำยอมโดยอายุความ: สิทธิใช้ทางเดินแม้ไม่ได้จดทะเบียน
โจทก์ใช้ตรอกพิพาทเป็นทางเดินเข้าออกจากที่ดินโจทก์สู่ทางสาธารณะมากกว่าสิบปีแล้วตรอกพิพาทจึงตกอยู่ในภารจำยอมโดยอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1401 และมิใช่เป็นการได้มาโดยนิติกรรมอันจะต้องจดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299
อายุความ 1 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1374 เป็นเรื่องผู้ครอบครองถูกรบกวนในการครอบครองทรัพย์สินเพราะมีผู้สอดเข้าเกี่ยวข้อง มิใช่อายุความบังคับแก่เรื่องภารจำยอมซึ่งจะต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1399
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1350 เป็นเรื่องให้เจ้าของที่ดินที่แบ่งแยกซึ่งไม่มีทางออกไปสู่ทางสาธารณะมีสิทธิเรียกร้องเอาทางเดินจากเจ้าของที่ดินที่แบ่งแยกไปได้ เมื่อปรากฏว่าโจทก์มีตรอกพิพาทเป็นทางภารจำยอมออกสู่ทางสาธารณะได้อยู่ก่อนแล้ว จึงนำเอาประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1350 มาปรับไม่ได้
จำเลยที่ 1 และที่ 2 ร่วมกันล้อมรั้วปิดตรอกพิพาท แม้จำเลยที่ 1 จะได้แบ่งขายที่ดินรวมทั้งตรอกพิพาทให้จำเลยร่วมอีกคนหนึ่งไปแล้ว และจำเลยที่ 2 มิได้มีส่วนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินมาก่อน โจทก์ก็ชอบที่จะฟ้องจำเลยทั้งสองได้
อายุความ 1 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1374 เป็นเรื่องผู้ครอบครองถูกรบกวนในการครอบครองทรัพย์สินเพราะมีผู้สอดเข้าเกี่ยวข้อง มิใช่อายุความบังคับแก่เรื่องภารจำยอมซึ่งจะต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1399
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1350 เป็นเรื่องให้เจ้าของที่ดินที่แบ่งแยกซึ่งไม่มีทางออกไปสู่ทางสาธารณะมีสิทธิเรียกร้องเอาทางเดินจากเจ้าของที่ดินที่แบ่งแยกไปได้ เมื่อปรากฏว่าโจทก์มีตรอกพิพาทเป็นทางภารจำยอมออกสู่ทางสาธารณะได้อยู่ก่อนแล้ว จึงนำเอาประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1350 มาปรับไม่ได้
จำเลยที่ 1 และที่ 2 ร่วมกันล้อมรั้วปิดตรอกพิพาท แม้จำเลยที่ 1 จะได้แบ่งขายที่ดินรวมทั้งตรอกพิพาทให้จำเลยร่วมอีกคนหนึ่งไปแล้ว และจำเลยที่ 2 มิได้มีส่วนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินมาก่อน โจทก์ก็ชอบที่จะฟ้องจำเลยทั้งสองได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 237/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภารจำยอมโดยอายุความ: สิทธิในการใช้ทางเดินแม้ไม่มีการจดทะเบียน
โจทก์ใช้ตรอกพิพาทเป็นทางเดินเข้าออกจากที่ดินโจทก์สู่ทางสาธารณะมากว่าสิบปีแล้วตรอกพิพาทจึงตกอยู่ในภารจำยอมโดยอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1401 และมิใช่เป็นการได้มาโดยนิติกรรมอันจะต้องจดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299
อายุความ 1 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1374เป็นเรื่องผู้ครอบครองถูกรบกวนในการครอบครองทรัพย์สินเพราะมีผู้สอดเข้าเกี่ยวข้อง มิใช่อายุความบังคับแก่เรื่องภารจำยอมซึ่งจะต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1399
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1350 เป็นเรื่องให้เจ้าของที่ดินที่แบ่งแยกซึ่งไม่มีทางออกไปสู่ทางสาธารณะมีสิทธิเรียกร้องเอาทางเดินจากเจ้าของที่ดินที่แบ่งแยกไปได้เมื่อปรากฏว่าโจทก์มีตรอกพิพาทเป็นทางภารจำยอมออกสู่ทางสาธารณะได้อยู่ก่อนแล้วจึงนำเอาประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1350 มาปรับไม่ได้
จำเลยที่ 1 และที่ 2 ร่วมกันล้อมรั้วปิดตรอกพิพาทแม้จำเลยที่ 1 จะได้แบ่งขายที่ดินรวมทั้งตรอกพิพาทให้จำเลยร่วมอีกคนหนึ่งไปแล้วและจำเลยที่ 2 มิได้มีส่วนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินมาก่อนโจทก์ก็ชอบที่จะฟ้องจำเลยทั้งสองได้
อายุความ 1 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1374เป็นเรื่องผู้ครอบครองถูกรบกวนในการครอบครองทรัพย์สินเพราะมีผู้สอดเข้าเกี่ยวข้อง มิใช่อายุความบังคับแก่เรื่องภารจำยอมซึ่งจะต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1399
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1350 เป็นเรื่องให้เจ้าของที่ดินที่แบ่งแยกซึ่งไม่มีทางออกไปสู่ทางสาธารณะมีสิทธิเรียกร้องเอาทางเดินจากเจ้าของที่ดินที่แบ่งแยกไปได้เมื่อปรากฏว่าโจทก์มีตรอกพิพาทเป็นทางภารจำยอมออกสู่ทางสาธารณะได้อยู่ก่อนแล้วจึงนำเอาประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1350 มาปรับไม่ได้
จำเลยที่ 1 และที่ 2 ร่วมกันล้อมรั้วปิดตรอกพิพาทแม้จำเลยที่ 1 จะได้แบ่งขายที่ดินรวมทั้งตรอกพิพาทให้จำเลยร่วมอีกคนหนึ่งไปแล้วและจำเลยที่ 2 มิได้มีส่วนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินมาก่อนโจทก์ก็ชอบที่จะฟ้องจำเลยทั้งสองได้