คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
เชื้อ คงคากุล

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,032 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 116/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาความผิดหลายกระทง ศาลไม่ต้องยึดข้อเท็จจริงจากกระทงที่อุทธรณ์ไม่ได้
โจทก์ฟ้องในข้อหาต่างกระทงกัน ต่อศาลแขวง แม้ข้อหากระทงหนึ่งซึ่งสาลแขวงยกฟ้องจะยุติไปเพราะต้องห้ามอุทธรณ์ข้อเท็จจริงก็ดี ข้อหากระทงอื่นซึ่งไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ข้อเท็จจริงเพราะไม่ใช่คดีที่อัตราโทษอยู่ในอำนาจศาลแขวงพิจารณาพิพากษา ก็หายุติตามไปด้วยไม่ และศาลไม่จำต้องฟังข้อเท็จจริงตาม กระทงที่ยุติไปเพราะต้องห้ามอุทธรณ์ข้อเท็จจริง ศาลอุทธรณ์จึงต้องพิจารณาข้อเท็จจริงแล้วพิพากษาในกระทงอื่นที่ไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ข้อเท็จจริงต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 85/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในคดีล้มละลายและการดำเนินคดีเช่าซื้อควบคู่กัน
กรณีประนอมหนี้ก่อนมีคำพิพากษาให้ล้มละลายนั้นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยังไม่หมดอำนาจและหน้าที่ในคดีล้มละลายจะนำ มาตรา 63 ซึ่งใช้สำหรับการประนอมหนี้หลังจากพิพากษาให้ล้มละลายแล้วมาบังคับไม่ได้
ในคดีที่โจทก์ฟ้องเรียกทรัพย์ที่จำเลยเช่าซื้อไปแล้วผิดนัดไม่ชำระราคาค่าเช่าซื้อ 2 งวด ติดกันคดียังพิพาทกันอยู่ว่าฝ่ายใดผิดสัญญาจำเลยก็ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดในคดีล้มละลาย และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เข้ามาดำเนินคดีเช่าซื้อแทนจำเลยทั้งได้โอนสิ่งของที่โจทก์ฟ้องเรียกคืนในคดีเช่าซื้อเข้าในกองทรัพย์สินของผู้ล้มละลายตาม มาตรา 109(3) ด้วยนั้น คดีที่พิพาทกันเรื่องเช่าซื้อก็ยังต้องดำเนินต่อไป ยังไม่มีทางที่จะให้โจทก์คดีเช่าซื้อไปขอรับชำระหนี้ ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามมาตรา 91 ในชั้นนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 85/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในการยึดทรัพย์ของลูกหนี้ล้มละลายก่อนมีคำพิพากษา และการดำเนินคดีเช่าซื้อควบคู่กัน
กรณีประนอมหนี้ก่อนมีคำพิพากษาให้ล้มละลายนั้น เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยังไม่หมดอำนาจและหน้าที่ในคดีล้มละลายจะนำมาตรา 63 มาใช้บังคับไม่ได้
ในคดีที่จำเลยเช่าซื้อทรัพย์ไปจากโจทก์แล้ว ไม่ชำระค่าเช่าซื้อ 2 งวด ติดกันคดียังพิพาทกันอยู่ว่าฝ่ายใดผิดสัญญาและโจทก์จะเรียกสิ่งของที่เช่าซื้อกลับคืนไปได้ หรือไม่ จำเลยก็ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดในคดีอื่น และเจ้าพนักงานเข้ามาดำเนินคดีนี้แทนจำเลย ทั้งได้โอนสิ่งของที่โจทก์ฟ้องเรียกคืนในคดีนี้เข้าในกองทรัพย์สินของผู้ล้มละลายตามมาตรา 109 (3) ด้วยนั้น คดีที่พิพาทกันเรื่องเช่าซื้อก็ยังต้องดำเนินต่อไป และยังไม่มีทางที่จะให้โจทก์คดีนี้ไปขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามมาตรา 91 ในชั้นนี้ได้
กรณีฟ้องเรียก ทรัพย์ของโจทก์คืนจากจำเลยดังเช่นในคดีนี้ เป็นคนละเรื่องกับกรณีเรียกทรัพย์ที่ถูกยึดคืนจากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามมาตรา 158

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 82-83/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกำหนดเวลาชำระค่าธรรมเนียมฎีกาสำหรับผู้ไม่อนาถา ศาลฎีกามีอำนาจพิจารณาสั่งได้ แม้เวลาเดิมสิ้นสุดแล้ว
ในกรณีที่ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องไม่อนุญาตให้โจทก์ฎีกาอย่างคนอนาถา และมีคำสั่งกำหนดเวลาให้ชำระเงินค่าธรรมเนียมนั้นแต่โจทก์ไม่เสียค่าธรรมเนียมตามกำหนด กลับฎีกาคำสั่งไปศาลฎีกาและศาลฎีกาได้มีคำสั่งยกคำร้องโจทก์ยืนตามศาลล่างโดยไม่ได้กำหนดเวลาให้ชำระค่าธรรมเนียมอีก ทั้งกำหนดเวลาที่ศาลชั้นต้นสั่งให้ชำระค่าธรรมเนียมก็สิ้นไปแล้ว ดังนี้ โจทก์ยื่นคำร้องขอให้กำหนดเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมใหม่อีกศาลฎีกามีอำนาจกำหนดเวลาให้โจทก์นำค่าธรรมเนียมมาเสียในระยะเวลาอันสมควรได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 82-83/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการกำหนดระยะเวลาชำระค่าธรรมเนียมหลังยกคำร้องขอความเป็นอนาถา แม้มิได้อ้างอิงมาตรา 23
กรณีที่ศาลสั่งยกคำร้องไม่อนุญาตให้โจทก์ว่าความอย่างคนอนาถา และมีคำสั่ง กำหนดเวลาให้ชำระเงินค่าธรรมเนียมนั้นการกำหนดเวลาหาใช่อาศัยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 ไม่แต่เป็นการกระทำเวลาโดยอาศัยอำนาจของศาลที่มีอยู่ทั่วไป ศาลฎีกามีอำนาจกำหนดเวลาให้โจทก์นำค่าธรรมเนียมมาเสียใน ระยะเวลาอันควรได้
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 40/2504)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 72/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การให้การขัดแย้งกันในคดีแพ่งและการสืบพยานที่ไม่เป็นประโยชน์
โจทก์ฟ้องเรียกเงินค่าแชร์เปียหวยจากจำเลย จำเลยให้การว่ามิได้เล่นแชร์กับโจทก์ ถ้าหากปรากฏว่าจำเลยเล่นแชร์กับโจทก์ จำเลยก็ได้จ่ายเงินให้โจทก์ไปหมดแล้วดังนี้ เป็นคำให้การที่ขัดกันไม่ประกอบชอบด้วยเหตุผลที่จำเลยจะนำสืบตามคำให้การของจำเลยๆ มิได้แถลงต่อศาลว่าจะสืบแต่เฉพาะทางใดทางหนึ่งแน่ หากจะสืบทั้งสองทางเช่นนี้ไม่มีประโยชน์ที่จะให้จำเลยสืบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 46/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการฟ้องขับไล่จำกัดเฉพาะผู้เช่าที่ดิน การเช่าตึกอย่างเดียวไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่บนที่ดิน
ผู้ที่เช่าเฉพาะอาคาร ไม่ได้เช่าที่ดิน ย่อมไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่ผู้ใดให้ออกจากที่ดิน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1550/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์โดยการรับมรดกและการครอบครองปรปักษ์: การตีความคำฟ้อง
เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องชัดเจนแล้วว่าเดิมที่พิพาทเป็นของเจ้ามรดกๆ ตายมา 10 ปีกว่า และบุตรของเจ้ามรดกซึ่งเป็นมารดาโจทก์ก็ตายแล้ว ที่พิพาทตกอยู่แก่โจทก์ทางมรดกและโจทก์ครอบครองตลอดมา เช่นนี้ ย่อมเข้าใจได้ดีและไม่ขัดกับคำรับที่ศาลจดไว้ในรายงานฯ ที่ว่า "นางพุ่มตายทีหลังนายชุม จนถึงกับจะนำสืบไม่ได้"
อนึ่ง การที่โจทก์กล่าวในฟ้องว่าครอบครองมากว่า 10 ปี ย่อมเข้าใจได้แล้วว่า โจทก์ได้ครอบครองที่รายนี้มาตั้งแต่นายชุมตายจนบัดนี้เกิน 10 ปี ไม่จำเป็นต้องอ้างหรือบรรยายถ้อยคำตามความในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 ก็ใช้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1411/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่คู่ความในการส่งหมายเรียกพยาน และผลของการไม่ปฏิบัติตาม
กฎหมายกำหนดหน้าที่ให้คู่ความฝ่ายที่อ้างพยานเป็นผู้ส่งหมายเรียกให้แก่พยาน และจะต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวดกวดขันไม่ปล่อยตามยถากรรม ฉะนั้น เมื่อนัดแรกพยานไม่มาศาลเลย และโจทก์แถลงว่าไม่ทราบเหตุขัดข้อง ศาลชั้นต้นก็อนุญาตให้เลื่อน โดยกำชับว่าถ้านัดต่อไปไม่มาโดยไม่มีเหตุสมควรอาจตัดพยาน ครั้นถึงวันนัดพยานมาศาลคนเดียว ส่วนที่ไม่มาโจทก์ว่าไม่ทราบยังไม่ได้รับรายงาน ดังนี้ ศาลตัดพยานโจทก์ ชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1411/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่คู่ความในการส่งหมายเรียกพยาน หากพยานไม่มาศาลโดยไม่มีเหตุผล ศาลชอบที่จะตัดพยานได้
กฎหมายกำหนดหน้าที่ให้คู่ความฝ่ายที่อ้างพยานเป็นผู้ส่งหมายเรียกให้แก่พยานและจะต้องปฏิบัติที่อย่างเข้มงวดกวดขันไม่ปล่อยตามยถากรรม ฉะนั้น เมื่อนัดแรกพยานไม่มาศาลเลยและโจทก์แถลงว่าไม่ทราบเหตุขัดข้อง ศาลชั้นต้นก็อนุญาตให้เลื่อนโดยกำชับว่า ถ้านัดต่อไปไม่มาโดยไม่มีเหตุสมควรอาจตัดพยาน ครั้นถึงวันนัดพยานมาศาลคนเดียว ส่วนที่ไม่มาโจทก์ว่าไม่ทราบยังไม่ได้รับรายงาน ดังนี้ ศาลตัดพยานโจทก์ชอบแล้ว
of 104