คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
วิชัยนิตินาท

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 206 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 619/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของตัวการต้องมีมูลจากการที่ตัวแทนติดต่อหรือมีความสัมพันธ์กับบุคคลที่ 3
ความรับผิดของตัวการในผลแห่งละเมิดที่ตัวแทนกระทำไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 427 นั้น จะต้องเป็นเรื่องที่ตัวการตั้งตัวแทนให้ไปทำการติดต่อหรือมีความสัมพันธ์กับบุคคลที่ 3
โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 2 ในฐานะเป็นตัวการร่วมกันรับผิดกับจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นตัวแทน เมื่อโจทก์นำสืบไม่ได้ว่า จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์บรรทุกถ่านของจำเลยที่2 ได้ทำการติดต่อหรือมีความสัมพันธ์กับบุคคลที่ 3 อันจะเข้าลักษณะเป็นตัวแทนแล้ว จำเลยที่ 1 จึงไม่ใช่ตัวแทนของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 ไม่ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ในฐานะตัวการตัวแทนตามที่โจทก์ฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 580/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำนองที่ดินโดยไม่สุจริต & ข้อจำกัดการนำสืบพยานภายหลัง
เจ้าของที่ดินลงชื่อในใบมอบอำนาจโดยมิได้กรอกข้อความเพื่อให้ผู้รับมอบอำนาจไปทำกิจการอย่างอื่น แต่ผู้รับมอบกลับนำไปกรอกข้อความเป็นให้จำนอง ถ้าผู้รับจำนองได้ทำการรับจำนองต่อพนักงานเจ้าหน้าที่โดยสุจริต เสียค่าตอบแทน และจดทะเบียนสิทธิจำนองโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว เจ้าของที่ดินจะอ้างเอาความประมาทเลินเล่อของตนมาเป็นเหตุให้พ้นความรับผิดไม่ได้
ทนายความเขียนข้อความลงในด้านหลังนามบัตร แจ้งให้ผู้จำนองนำต้นเงินและดอกเบี้ยมาชำระภายในกำหนด 10 วันถือได้ว่าเป็นจดหมายบอกกล่าวบังคับจำนองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 721 แล้ว
คำให้การของจำเลยในตอนแรกว่า ใบมอบอำนาจปลอม จำเลยไม่ได้เซ็นใบมอบอำนาจนั้น ส่วนข้อความตอนหลังเป็นการเล่าเรื่องว่าจำเลยเคยเซ็นในใบมอบอำนาจฉบับหนึ่ง ซึ่งจำเลยจำไม่ได้ว่าเป็นฉบับเดียวกันกับที่โจทก์นำมาฟ้องหรือไม่ คำให้การของจำเลยเช่นนี้ มีประเด็นนำสืบได้
ศาลสืบพยานโจทก์ซึ่งมีหน้าที่นำสืบก่อนเสร็จแล้ว จำเลยจะขออ้างพยานบุคคล ซึ่งควรจะอ้างเสียก่อนแล้วไม่อ้างย่อมทำให้โจทก์เสียเปรียบ ศาลไม่อนุญาตให้จำเลยอ้างได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 577/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสมรสและการหย่า: การเพิกถอนทะเบียนสมรสไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ชายหญิงสมัครใจรักใคร่กัน และได้ยินยอมจดทะเบียนสมรสกันโดยถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ต่อมาชายหญิงคู่นี้ผิดใจกัน เมื่อจะให้การสมรสขาดจากกัน จะต้องขอหย่า และให้คู่สมรสลงชื่อในแบบพิมพ์คำร้องขอจดทะเบียนการหย่า จะมาร้องขอให้ศาลเพิกถอนทะเบียนสมรสที่คู่สมรสได้จดทะเบียนสมรสไว้โดยชอบแล้วหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 504/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้ว่าหนี้กู้ยืมเป็นหนี้จากการเล่นแชร์ ศาลอนุญาตให้สืบได้
เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเรียกเงินตามสัญญากู้ซึ่งผู้ร้องขัดทรัพย์จะต้องชำระให้แก่ลูกหนี้ตามคำพิพากษา ผู้ร้องขัดทรัพย์สู้ว่าเป็นหนี้ในการเล่นแชร์ ไม่ใช่หนี้กู้ยืม และได้ชำระหนี้เสร็จแล้ว ผู้ร้องย่อมนำสืบถึงวิธีการเล่นแชร์และการชำระหนี้ในการเล่นแชร์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 485/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายฝากเรือนบนที่ดินเช่า: สิทธิของผู้ซื้อและนิติสัมพันธ์กับผู้ให้เช่า
เช่าที่ดินปลูกเรือน ต่อมาผู้เช่าได้ขายฝากเรือนแม้ผู้ให้เช่าทำหนังสือยินยอมในการขายฝาก เรือนหลุดเป็นสิทธิแก่ผู้ซื้อ ผู้เช่าออกจากเรือนไปผู้ซื้อเข้าอยู่แทนและได้ชำระค่าเช่าให้ผู้ให้เช่าแต่ผู้ให้เช่ายังคงออกใบเสร็จรับเงินค่าเช่าให้ในนามของผู้เช่าคนเดิมเช่นนี้ ถือว่าผู้ซื้อยังไม่มีนิติสัมพันธ์กับผู้ให้เช่าที่ดิน ผู้ซื้อจะอ้างความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 470/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตกลงชำระหนี้โดยปริยายและการบอกเลิกสัญญา
ทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินกัน โดยผู้ซื้อผ่อนส่งชำระราคาเป็นงวดๆผู้ขายได้ไปเก็บเงินจากผู้ซื้อ ณ ที่ทำงานของผู้ซื้อมา 7 งวดแล้ว พฤติการณ์เช่นนี้ แสดงว่าได้ตกลงกันโดยปริยาย ให้ชำระเงิน ณ ที่อื่นซึ่งมิใช่ภูมิลำเนาของเจ้าหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา324 ต่อจากงวดที่ 7 แล้ว ผู้ขายมิได้ไปเก็บเงินดังเช่นเคยปฏิบัติมาดังนี้ ผู้ขายจะถือว่าโจทก์ผิดนัดไม่ชำระหนี้ และใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 439/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิการเช่าที่ดินและการบังคับสัญญาซื้อขายฝากที่สมบูรณ์ สิทธิของผู้เช่าเดิมและผู้ซื้อฝาก
การที่ผู้เช่าที่ดินทำสัญญาขายฝากห้องแถวและโอนสิทธิการเช่าที่ดินให้ผู้ซื้อฝากด้วยนั้น ถือว่าเป็นการขายอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ต้องการให้ผู้ซื้อฝากต้องซื้อโรงเรือนนั้นไป และเป็นบุคคลสิทธิที่ใช้บังคับกันได้ระหว่างคู่สัญญา ฉะนั้นแม้ต่อมาผู้เช่าที่ดินนั้นจะไปทำสัญญาเช่าใหม่กับเจ้าของที่ดินก็ตาม ก็ไม่เป็นเหตุให้สิ้นความผูกพันตามสัญญาที่ทำไว้ ผู้เช่าที่ดินจึงไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่ผู้รับซื้อฝากนั้นได้
ในทำนองเดียวกัน ผู้ซื้อฝากห้องแถวซึ่งแม้จะได้รับโอนสิทธิการเช่าที่ดินที่โรงเรือนนั้นปลูกอยู่ไว้แล้วก็ตาม แต่เมื่อยังไม่ได้ไปทำสัญญาเช่ากับเจ้าของที่ดิน ก็ยังไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่ผู้เช่าที่ดินนั้นเช่นกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 405/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวผิดหลายบท: การบุกรุกเพื่อทำร้ายร่างกาย ทำให้สิทธิฟ้องฐานบุกรุกระงับ
จำเลยบุกรุกเข้าไปในร้านของ จ.แล้วทำร้าย ย.ในที่นั้นทันที เห็นได้ชัดว่าจำเลยมีเจตนาประสงค์ต่อผลโดยตรงต่อการที่จะทำร้าย ย. และการกระทำก็ไม่ขาดตอน ทั้งการที่ทำร้าย ย.ก็เป็นเหตุหนึ่งที่แสดงถึงความที่ไม่มีเหตุอันสมควรที่จะเข้าไปในเคหสถานของ จ.อันเป็นองค์สำคัญของความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 364 ด้วย การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท เมื่อต้องคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดฐานทำร้ายร่างกายไปแล้ว สิทธิที่จะฟ้องจำเลยฐานบุกรุกย่อมระงับไป
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 4/2507)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 315/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญชาติไทยโดยกำเนิด: การแปลงสัญชาติและการพิสูจน์สัญชาติเดิม
บุคคลที่มีสัญชาติไทยโดยกำเนิด เดินทางไปประเทศจีนเพื่อการศึกษา แต่มิได้ทำหนังสือเดินทางให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อมามีความประสงค์จะกลับประเทศไทย ได้ขอหนังสือเดินทางจากกงสุลไทยไม่ได้จึงแปลงสัญชาติเป็นคนปอร์ตุเกตก่อน ครั้นเมื่อกลับเข้ามาถึงประเทศไทยแล้วได้ขอพิสูจน์สัญชาติเป็นคนไทยทันที เช่นนี้ แสดงว่าบุคคลผู้นั้นมิได้สมัครใจสละสัญชาติไทยโดยกำเนิด จึงยังไม่ขาดสัญชาติไทย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 293/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาหลบหนีเป็นสำคัญ: แม้ไม่มีผู้คุม แต่หากไม่มีเจตนาหลบหนีก็ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 190
ความผิดฐานหลบหนีระหว่างที่ถูกคุมขัง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 190 นั้น จะต้องมีเจตนาหลบหนีด้วยฉะนั้น เมื่อจำเลยซึ่งเป็นนักโทษต้องคุมขังตามอำนาจของศาลป่วยเป็นโรคประสาทได้รับอนุญาตจากพัสดีให้ไปรักษาตัว ณ โรงพยาบาลนอกเรือนจำ โดยมีผู้คุมไปด้วยแม้ขณะกลับเรือนจำจะไม่มีผู้คุมควบคุมตัวจำเลยก็ตามจำเลยก็ยังหามีความผิดฐานหลบหนีที่คุมขังไม่
of 21