คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
วิชัยนิตินาท

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 206 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1193/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานกรรโชก: การข่มขู่ให้ผู้อื่นให้เงิน ถือเป็นความผิดสำเร็จ แม้ยังไม่ได้รับเงิน
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงต้องกันและพิพากษาลงโทษจำเลยฐานกรรโชก จำเลยฎีกาว่า ตามข้อเท็จจริงเช่นว่านั้น ต้องเป็นผิดฐานชิงทรัพย์ ไม่ใช่ฐานกรรโชกดังโจทก์ฟ้อง ต้องยกฟ้องเพราะทางพิจารณาต่างกับฟ้อง แม้จำเลยจะไม่ได้ยกข้อกฎหมายที่ว่านี้ขึ้นในชั้นศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ก็ไม่ต้องห้ามฎีกา เพราะเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย
ผู้เสียหายถูกจำเลยขู่จนยอมรับจะให้เงินตามที่จำเลยข่มขืนใจเอาแล้ว ย่อมครบองค์แห่งความผิดฐานกรรโชกแล้วทุกประการ จำเลยจะได้รับเงินตามที่ผู้เสียหายรับปากให้แล้วหรือยัง หาใช่สาระขององค์ความผิดฐานนี้ไม่ และการที่จำเลยถูกตำรวจจับเสียก่อนที่จะได้รับเงินจากผู้เสียหายก็ไม่เป็นเหตุให้การกระทำของจำเลยกลายเป็นอยู่ในขั้นพยายามกระทำผิดไปได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1193/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานชิงทรัพย์ vs. กรรโชก: การข่มขู่เพื่อให้ได้เงิน ถือเป็นความผิดสำเร็จทันที
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงต้องกันและพิพากษาลงโทษจำเลยฐานกรรโชกจำเลยฎีกาว่า ตามข้อเท็จจริงเช่นว่านั้น ต้องเป็นผิดฐานชิงทรัพย์ ไม่ใช่ฐานกรรโชกดังโจทก์ฟ้อง ต้องยกฟ้องเพราะทางพิจารณาต่างกับฟ้อง แม้จำเลยจะไม่ได้ยกข้อกฎหมายที่ว่านี้ขึ้นในชั้นศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ก็ไม่ต้องห้ามฎีกา เพราะเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย
ผู้เสียหายถูกจำเลยขู่จนยอมรับจะให้เงินตามที่จำเลยข่มขืนใจเอาแล้ว ย่อมครบองค์แห่งความผิดฐานกรรโชกแล้วทุกประการ จำเลยจะได้รับเงินตามที่ผู้เสียหายรับปากให้แล้วหรือยัง หาใช่สาระขององค์ความผิดฐานนี้ไม่ และการที่จำเลยถูกตำรวจจับเสียก่อนที่จะได้รับเงินจากผู้เสียหาย ก็ไม่เป็นเหตุให้การกระทำของจำเลยกลายเป็นอยู่ในขั้นพยายามกระทำผิดไปได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1175/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ การฟ้องบังคับทำสัญญาจึงไม่สมบูรณ์
การที่โจทก์ฟ้องคดีขอให้บังคับจำเลยทำสัญญาจดทะเบียนการเช่าอสังหาริมทรัพย์ให้โจทก์ตามที่ได้ตกลงกันไว้นั้น ถ้ามิได้มีหลักฐานเป็นหนังสือ ก็ย่อมฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่ การที่โจทก์อ้างว่า ได้ชำระเงินแป๊ะเจี๊ยะหรือเงินกินเปล่าให้จำเลยไปแล้วนั้นหากโจทก์จะได้ชำระจริงก็ดี ได้ตกลงกันร่างสัญญาเช่าขึ้นแล้วก็ดีก็หาทำให้โจทก์มีสิทธิในเรื่องนี้ดีขึ้นไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1175/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือตามกฎหมาย การฟ้องบังคับทำสัญญาจึงไม่ชอบ
การที่โจทก์ฟ้องคดีขอให้บังคับจำเลยทำสัญญาจดทะเบียนการเช่าอสังหาริมทรัพย์ให้โจทก์ตามที่ได้ตกลงกันไว้นั้น ถ้ามิได้มีหลักฐานเป็นหนังสือ ก็ย่อมฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่ การที่โจทก์อ้างว่า ได้ชำระเงินแป๊ะเจี๊ยะหรือเงินกินเปล่า ให้จำเลยไปแล้วนั้น หากโจทก์จะได้ชำระจริงก็ดี ได้ตกลงกันร่างสัญญาเช่าขึ้นแล้วก็ดี ก็หาทำให้โจทก์มีสิทธิในเรื่องนี้ดีขึ้นไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1124/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ส่วนควบของที่ดินและผลของการเช่า: การโอนตึกที่ปลูกบนที่ดินเช่าไม่ต้องจดทะเบียน
จำเลยได้เช่าที่ดินของผู้ร้องขัดทรัพย์ปลูกตึกตึกย่อมเป็นส่วนควบของที่ดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 107 จำเลยมีสิทธิอยู่ในตึกนี้ได้ก็อาศัยสัญญาเช่าที่ดินและตึกนี้ย่อมตกเป็นของผู้ร้องไปในตัวตามระยะเวลาที่ตกลงกัน ฉะนั้น เมื่อจำเลยจะโอนตึกรายนี้ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินเมื่อไร ไม่จำต้องไปทำการโอนจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ (อ้างฎีกา 561/2488)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1124/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ตึกส่วนควบที่ดิน และการโอนโดยไม่ต้องจดทะเบียน
จำเลยได้เช่าที่ดินของผู้ร้องขัดทรัพย์ปลูกตึก ๆ ย่อมเป็นส่วนควบของที่ดินตาม ป.พ.พ. มาตรา 107 จำเลยมีสิทธิอยู่ในตึกนี้ได้ ก็อาศัยสัญญาเช่าที่ดิน และตึกนี้ย่อมตกเป็นของผู้ร้องไปในตัวตามระยะเวลาที่ตกลงกัน ฉะนั้น เมื่อจำเลยจะโอนตึกรายนี้ ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินเมื่อไร ไม่จำต้องไปทำการโอนจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
(อ้างฎีกา 561/2488)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1067/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยอาวุธมีด พยานหลักฐานบ่งชี้ถึงความร้ายแรง
การที่จำเลยใช้มีดพร้าหวดยาวทั้งตัวทั้งด้ามแขนหนึ่งช่วยกันฟันผู้เสียหายหลายทีและถูกที่สำคัญๆ ซึ่งหากรักษาไม่ทันท่วงทีผู้เสียหายก็คงจะถึงแก่ความตาย เช่นนี้ คดีต้องฟังว่า จำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหายจำเลยย่อมมีความผิดฐานพยายามฆ่าคน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1002/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงฐานความผิดจากปล้นทรัพย์เป็นชิงทรัพย์เมื่อจำนวนผู้กระทำผิดไม่ตรงตามฟ้อง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานปล้นทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 โดยบรรยายฟ้องว่า จำเลย(สองคน) สมคบกันปล้นโคของเจ้าทรัพย์ไป ทางพิจารณาได้ความว่า ผู้ร้าย 3 คน ร่วมกันกระทำผิดรายนี้ ก็ลงโทษจำเลยฐานปล้นทรัพย์ไม่ได้ ต้องลงโทษฐานชิงทรัพย์ ตาม มาตรา 339

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1002/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงฐานความผิดจากปล้นทรัพย์เป็นชิงทรัพย์เนื่องจากจำนวนผู้กระทำผิดไม่ตรงตามฟ้อง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานปล้นทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340 โดยบรรยายฟ้องว่าจำเลย(สองคน) สมคบกันปล้นโคของเจ้าทรัพย์ไป ทางพิจารณาได้ความว่า ผู้ร้าย 3 คน ร่วมกันกระทำผิดรายนี้ ก็ลงโทษจำเลยฐานปล้นทรัพย์ไม่ได้ต้องลงโทษฐานชิงทรัพย์ตาม มาตรา 339

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 974/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสืบพยานคนกลางเพื่อพิสูจน์การครอบครองที่ดิน: เจตนาคำท้าต้องมุ่งพิสูจน์เจ้าของที่ดิน ไม่ใช่การครอบครองระยะสั้น
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของครอบครองที่พิพาทตลอดมา 30 ปีแล้ว จำเลยต่อสู้ว่า จำเลยครอบครองเป็นเจ้าของตลอดมาถึง 17 ปีแล้ว คู่ความตกลงกันขอให้สืบพยานคนกลาง หากพยานคนกลางเบิกความว่า ที่พิพาทเป็นของฝ่ายใด โดยได้ครอบครองตลอดมาจนก่อนพิพาทกันชั้นอำเภอแล้ว อีกฝ่ายหนึ่งยอมแพ้ พยานคนกลางเบิกความว่า เห็นจำเลยครอบครองตลอดมา 17 ปีแล้ว เมื่อ 2-3 ปีมานี้ โจทก์ได้ยื่นแบบ ส.ค. 1 สำหรับที่รายพิพาท ดังนี้ถือว่า เจตนาตามคำท้ามุ่งถึงเรื่องที่ว่า ฝ่ายใดครอบครองเป็นเจ้าของที่พิพาท ไม่ได้เจตนาถึงเรื่องแย่งการครอบครองภายใน 2 - 3 ปี จึงต้องถือว่าพยานคนกลางเบิกความสมข้างจำเลย
of 21