พบผลลัพธ์ทั้งหมด 566 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 972/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำลายเครื่องหมายทะเบียนอาวุธปืน ไม่ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 369 หากไม่ใช่ประกาศหรือเอกสารโฆษณา
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 369 เป็นบทบัญญัติเกี่ยวกับการกระทำแก่ประกาศภาพโฆษณาหรือเอกสารของเจ้าพนักงานที่ปิดหรือแสดงไว้อันเป็นทำนองโฆษณาต่อประชาชนให้หลุดฉีกหรือไร้ประโยชน์ หาได้หมายความรวมถึงเอกสารใดๆ ที่มิใช่เป็นลักษณะประกาศหรือโฆษณาด้วยไม่ ฉะนั้น ผู้ที่ทำลายเลขหมายซึ่งเจ้าพนักงานแกะประทับไว้ที่ปืนให้หลุดออก จึงไม่มีความผิดตามมาตรานี้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 22/2505)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 856/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หัวกระสุนปืนที่เหลือจากการใช้แล้ว ไม่ถือเป็นเครื่องกระสุนปืนตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ
คำว่าเครื่องหรือสิ่งสำหรับอัด ทำ หรือใช้ประกอบกระสุนอันเป็นเครื่องกระสุนปืนตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 4(2) นั้นคงมีแต่เฉพาะดินส่งกระสุนเท่านั้นที่บัญญัติไว้โดยตรง จึงไม่หมายถึงแต่เพียงส่วนหนึ่งส่วนใดของกระสุนปืน เช่น หัวกระสุน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่เหลือมาจากการใช้กระสุนปืนไปแล้วเท่านั้น ฉะนั้น การที่จำเลยมีหัวกระสุนไว้จึงไม่เป็นความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 856/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองหัวกระสุนไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ หากไม่ใช่ส่วนหนึ่งของการประกอบกระสุน
คำว่าเครื่องหรือสิ่งสำหรับอัด ทำ หรือใช้ประกอบกระสุนอันเป็นเครื่องกระสุนปืนตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ พ.ศ.2490 มาตรา 4(2) นั้น คงมีแต่เฉพาะดินส่งกระสุนเท่านั้นที่บัญญัติไว้โดยตรงจึงไม่หมายถึงแต่เพียงส่วนหนึ่งส่วนใดของกระสุนปืน เช่น หัวกระสุน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่เหลือมาจากการใช้กระสุนปืนไปแล้วเท่านั้น ฉะนัน การที่จำเลยมีหัวกระสุนไว้จึงไม่เป็นความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 847/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงปากเปล่าเกี่ยวกับการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการทำถนน ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของสัญญากู้ สามารถนำสืบพยานได้และหักกลบลบหนี้ได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำสัญญากู้เงินไปจากโจทก์แล้วไม่ชำระจำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ขายที่ดินให้จำเลย จำเลยชำระราคายังไม่ครบเงินจำนวนที่ยังค้างอยู่นั้น โจทก์ให้จำเลยทำสัญญากู้ตามฟ้องให้โจทก์ไว้ โดยตกลงกันด้วยปากเปล่าว่าเมื่อจำเลยทำถนนในที่ดินนั้นแล้ว โจทก์จะช่วยออกค่าใช้จ่ายให้ครึ่งหนึ่ง จะคิดหักเงินให้เมื่อทำเสร็จแล้ว ต่อมาจำเลยทำถนนเสร็จแล้วเมื่อคิดหักเงินส่วนที่โจทก์จะต้องออกแล้วจำเลยยังคงเป็นหนี้โจทก์น้อยกว่าจำนวนที่โจทก์ฟ้อง ดังนี้ ข้อตกลงเช่นนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหากจากสัญญากู้ จำเลยจึงนำสืบพยานบุคคลได้ ไม่ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94 และหนี้ดังกล่าวก็อยู่ในลักษณะที่อาจหักกลบลบหนี้กันได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 847/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงปากเปล่าเรื่องค่าทำถนนกับสัญญากู้: การสืบพยานไม่เป็นการแก้ไขสัญญากู้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำสัญญากู้เงินไปจากโจทก์แล้วไม่ชำระ จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ขายที่ดินให้จำเลยจำเลยชำระราคายังไม่ครบ เงินจำนวนที่ยังค้างอยู่นั้น โจทก์ให้จำเลยทำสัญญากู้ตามฟ้องให้โจทก์ไว้ โดยตกลงกันด้วยปากเปล่าว่าเมื่อจำเลยทำถนนในที่ดินนั้นแล้ว โจทก์จะช่วยออกค่าใช้จ่ายให้ครึ่งหนึ่ง จะคิดหักเงินให้เมื่อทำเสร็จแล้ว ต่อมาจำเลยได้ออกโฉนดและทำถนนเสร็จแล้ว เมื่อคิดหักเงินส่วนที่โจทก์จะต้องออกให้แล้วจำเลยยังคงเป็นหนี้โจทก์น้อยกว่าจำนวนที่ฟ้องข้อตกลงเช่นนี้กฎหมายไม่ได้บังคับว่าต้องทำเป็นหนังสือและเป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหากจากสัญญากู้ การที่จะขอสืบพยานเรื่องข้อตกลงนี้จึงไม่เป็นการสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขสัญญากู้ และหนี้ดังกล่าวนี้ไม่อยู่ในลักษณะที่ไม่เปิดซองให้หักลบกันได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 810/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อุทธรณ์ภาษีเกินกำหนด: ศาลไม่รับฟ้อง แม้มีคำวินิจฉัยเนื้อหา
เมื่อปรากฏว่า โจทก์ได้อุทธรณ์การประเมินภาษีของเจ้าพนักงานต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเกินกำหนด 15 วันแล้วผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งยกอุทธรณ์เพราะยื่นเกินกำหนดแล้วแม้สั่งวินิจฉัยเนื้อหาที่อุทธรณ์มาด้วยก็ไม่ทำให้โจทก์มีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลรื้อการประเมินขึ้นโต้แย้งต่อไปได้
การอุทธรณ์ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา24 วรรค 3 มาตรา 227,247 นั้น เสียค่าขึ้นศาลตามตาราง 1 ข้อ 2 ข.
การอุทธรณ์ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา24 วรรค 3 มาตรา 227,247 นั้น เสียค่าขึ้นศาลตามตาราง 1 ข้อ 2 ข.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 810/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์ภาษีเกินกำหนด ไม่สามารถรื้อการประเมินได้ แม้ผู้ว่าฯ จะให้เหตุผลเพิ่มเติม
เมื่อปรากฎว่าได้อุทธรณ์การประเมินภาษีของเจ้าพนักงานเกินกำหนดเวลา 15 วันแล้วแม้ผู้ว่าราชการจังหวัดจะสั่งยกอุทธณ์เพราะยื่นเกินกำหนดแล้วจะได้ให้เหตุผลไว้ในคำสั่งด้วยว่า ผู้อุทธรณ์ขายที่ดินเป็นการค้ากำไร ก็ไม่ทำให้คำชี้ขาดยกอุทธรณ์นั้นเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น และผู้อุทธรณ์ก็ไม่มีอำนาจจะโต้แย้งการประเมินต่อไป
การอุทธรณ์ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 24 วรรค 3 มาตรา 227,247 นั้น เสียค่าขึ้นศาลเพียง 50 บาทตามตาราง 1 ข้อ 2 ข. ถึงแม้จะได้ความว่าในศาลชั้นต้นได้เสียค่าขึ้นศาลตามทุนทรัพย์มาแล้วก็ตาม.
การอุทธรณ์ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 24 วรรค 3 มาตรา 227,247 นั้น เสียค่าขึ้นศาลเพียง 50 บาทตามตาราง 1 ข้อ 2 ข. ถึงแม้จะได้ความว่าในศาลชั้นต้นได้เสียค่าขึ้นศาลตามทุนทรัพย์มาแล้วก็ตาม.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 797/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเผาขยะลุกลาม: ฟ้องผิดฐานประมาทต้องอาศัยการบรรยายในฟ้อง
ฟ้องว่าจำเลยเผาขยะและใบไม้กิ่งไม้แห้งในสวนยาง ในลักษณะอันน่าจะเกิดอันตรายแก่ทรัพย์ของผู้อื่นขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 220 โดยมิได้บรรยายเรื่องประมาทมาด้วยเมื่อศาลฟังข้อเท็จจริงว่าเป็นการเผาที่ไม่น่าจะเกิดอันตรายแก่ทรัพย์ผู้อื่นหากแต่เป็นการประมาทปราศจากการระมัดระวังเพลิงจึงลุกลามเข้าไปในสวนของผู้อื่น เช่นนี้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา192 จะลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 225 ไม่ได้(อ้างฎีกาที่ 546/2498) (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 19/2505)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 794/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยอมความโอนที่ดินมือเปล่าไม่ถือเป็นการส่งมอบการครอบครอง สิทธิยังอยู่กับเจ้าของเดิม
สามีจำเลยทำยอมความโอนที่ดินมือเปล่า ซึ่งจำเลยและสามีเป็นเจ้าของร่วมกันตีใช้หนี้ให้ผู้ร้อง โดยจะไปโอนทะเบียนให้ซึ่งศาลพิพากษาตามยอมแล้ว ถือได้ว่ามีเจตนาเพียงจะสละการครอบครองเท่านั้น หากผู้ร้องยังมิได้เข้าครอบครองที่ดินนั้นแล้ว ผู้ร้องก็ยังไม่ได้ที่ดินดังกล่าวโดยการครอบครองอย่างใด สิทธิครอบครองที่ดินนั้นยังอยู่กับจำเลยและสามีเจ้าหนี้อื่นของจำเลยมีสิทธิยึดที่ดินนั้นขายชำระหนี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 774-776/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการฟ้องขับไล่ของผู้เช่าใหม่ต่อสิ่งปลูกสร้างของอดีตผู้เช่าที่ดิน ซึ่งไม่มีนิติสัมพันธ์กัน
โจทก์ซึ่งเป็นผู้เช่าที่ดินคนใหม่จะฟ้องขับไล่หรือให้รื้อสิ่งปลูกสร้างที่จำเลยได้รับอนุญาตให้ปลูกจากผู้เช่าคนเดินไม่ได้ เพราะโจทก์จำเลยต่างไม่มีนิติสัมพันธ์ต่อกัน ทั้งจำเลยก็มิได้ครอบครองโดยอาศัยสิทธิของโจทก์แต่อย่างใด