พบผลลัพธ์ทั้งหมด 566 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 457/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกทรัพย์สินสมรสโดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากภริยา ทำให้การจดทะเบียนยกให้เป็นโมฆะ
การที่สามีเอาที่นาที่สวนและสิ่งปลูกน้างอันเป็นสินบริคณห์ ไปจดทะเบียนยกให้จำเลยโดยมิได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากโจทก์ซึ่งเป็นภริยา การนั้นย่อมไม่สมบูรณ์ จำเลยจะยกขึ้นยันโจทก์ไม่ได้ และโจทก์ขอให้เพิกถอนการยกให้นั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 457/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกทรัพย์สินสมรสโดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากภริยา การนิติกรรมนั้นไม่สมบูรณ์
การที่สามีเอาที่นาที่สวนและสิ่งปลูกสร้างอันเป็นสินบริคณห์ไปจดทะเบียนยกให้จำเลยโดยมิได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากโจทก์ซึ่งเป็นภริยา การนั้นย่อมไม่สมบูรณ์จำเลยจะยกขึ้นยันโจทก์ไม่ได้และโจทก์ขอให้เพิกถอนการยกให้นั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 323/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของร่วมทางพฤติการณ์ - สัญญาประนีประนอม - การรับผิดร่วม
ผู้ตายทำสัญญากับโจทก์กว่าจะปลูกห้องแถวแล้วแบ่งห้องให้ โดยโจทก์จะยกที่ดินส่วนที่ปลูกห้องแถวให้เป็นการตอบแทน จำเลยซึ่งอยู่กินกับผู้ตายฉันสามีภริยา โดยมิได้สมรสและได้รู้เห็นมีส่วนได้เสียเป็นเจ้าของรวมในที่ดิน ที่ได้มาตามสัญาด้วยเช่นนี้ จำเลยก็ต้องรับผิดต่อโจทก์ที่จะต้องปฏิบัติตามสัญญานั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 323/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาแบ่งห้องแถว - ความรับผิดของคู่สมรสโดยไม่จดทะเบียน
ผู้ตายทำสัญญากับโจทก์ว่าจะปลูกห้องแถวแล้วแบ่งห้องให้โจทก์โดยโจทก์ยกที่ดินส่วนที่ปลูกห้องแถวให้ผู้ตายเป็นการตอบแทนจำเลยซึ่งอยู่กินกับผู้ตายฉันสามีภริยาโดยมิได้จดทะเบียนสมรส และได้รู้เห็นมีส่วนได้เสียเป็นเจ้าของรวมในที่ดินที่ได้มาตามสัญญาด้วยเช่นนี้จำเลยก็ต้องรับผิดต่อโจทก์ที่จะต้องปฏิบัติตามสัญญาดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 306-307/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารต่างประเทศเป็นหลักฐานได้, ความผิดอันยอมความได้ไม่ต้องบรรยายร้องทุกข์, การร่วมกระทำผิดทางอาญา
อ้างต้นฉบับเอกสารภาษาต่างประเทศที่บุคคลภายนอกทำขึ้นทั้งฉบับ แต่เอกสารนั้นยืดยาว จึงแปลเป็นไทยเฉพาะส่วนที่ผู้อ้างต้องการก็รับฟังเป็นหลักฐานได้ ไม่จำต้องแปลทั้งฉบับเพราะหากอีกฝ่ายหนึ่งเห็นว่ามีข้อความอื่นในเอกสารเป็นประโยชน์แก่ตน ย่อมแสดงข้อความนั้นต่อศาลได้
ความผิดอันยอมความได้นั้น โจทก์ไม่ต้องบรรยายฟ้องมาด้วยว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์แล้ว เพราะตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 มิได้บัญญัติให้ต้องบรรยายมาด้วย เมื่อศาลพอใจฟ้องสั่งรับฟ้อง และโจทก์นำสืบว่ามีการร้องทุกข์โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ก็ลงโทษจำเลยได้
ความผิดอันยอมความได้นั้น โจทก์ไม่ต้องบรรยายฟ้องมาด้วยว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์แล้ว เพราะตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 มิได้บัญญัติให้ต้องบรรยายมาด้วย เมื่อศาลพอใจฟ้องสั่งรับฟ้อง และโจทก์นำสืบว่ามีการร้องทุกข์โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ก็ลงโทษจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 306-307/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หลักฐานเอกสารต่างประเทศ, ความผิดยอมความได้, การพิสูจน์ความรู้ของจำเลยในคดีเครื่องหมายการค้า
อ้างต้นฉบับเอกสารภาษาต่างประเทศที่บุคคลภายนอกทำขึ้นทั้งฉบับ แต่แปลเป็นไทยเฉพาะส่วนที่ผู้อ้างต้องการก็รับฟังเป็นหลักฐาน ได้ ไม่จำต้องแปลทั้งฉบับ เพราะหากอีกฝ่ายหนึ่งเห็นว่า มีข้อความอื่นในเอกสารเป็นประโยชน์แต่ตน ย่อมแสดงข้อความนั้นต่อศาลได้
ความผิดอันยอมความได้นั้น โจทก์ไม่ต้องบรรยายฟ้องมาด้วยว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์แล้ว เพราะตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 มิได้บัญญัติให้ต้องบรรยายมาด้วย เมื่อศาลพอใจฟ้องสั่งรับฟ้อง และโจทก์นำสืบว่ามีการร้องทุกข์โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ก็ลงโทษจำเลยได้
ความผิดอันยอมความได้นั้น โจทก์ไม่ต้องบรรยายฟ้องมาด้วยว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์แล้ว เพราะตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 มิได้บัญญัติให้ต้องบรรยายมาด้วย เมื่อศาลพอใจฟ้องสั่งรับฟ้อง และโจทก์นำสืบว่ามีการร้องทุกข์โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ก็ลงโทษจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 272-273/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การดูหมิ่นซึ่งหน้า: ถ้อยคำที่มีนัยยะทางเพศถือเป็นการดูหมิ่น แม้จะมีความผิดพลาดในการใช้คำ
จำเลยเป็นชายพูดต่อหน้าผู้เสียหายซึ่งเป็นภริยาผู้ใหญ่บ้านว่า เมียผู้ใหญ่บ้านนี้แต่งตัวสวยน่าอยากล่ำสักที ซึ่งหมายความว่า ผู้เสียหายแต่งตัวสวยอยากเย็ดสักทีนั้น คำที่จำเลยกล่าว และวิธีที่จำเลยกล่าว ฟังได้ว่า เป็นการดูหมิ่นผู้เสียหายซึ่งหน้าแล้ว (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 8/2505)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 272-273/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การดูหมิ่นซึ่งหน้า: ถ้อยคำมีความหมายในเชิงชู้สาว แม้มีการสะกดผิดเล็กน้อย ก็ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 393
จำเลยเป็นชายพูดต่อหน้าผู้เสียหายซึ่งเป็นภริยาผู้ใหญ่บ้านว่า 'เมียผู้ใหญ่บ้านนี้แต่งตัวสวยน่าอยากล่ำสักที'ซึ่งหมายความว่าผู้เสียหายแต่งตัวสวยอยากเย็ดสักทีนั้นคำที่จำเลยกล่าว และวิธีที่จำเลยกล่าว ฟังได้ว่าเป็นการดูหมิ่นผู้เสียหายซึ่งหน้าแล้ว (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 8/2505
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 235/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับระยะเวลาใบอนุญาตขนข้าว: วันเริ่มต้นและวันหมดอายุ
ใบอนุญาตให้ขนข้าวระบุว่ามีกำหนดอายุ 30 วัน นับแต่วันอนุญาตวันอนุญาตตรงกับวันที่ 8 พฤษภาคม 2502 ต้องเริ่มนับ 1 ตั้งแต่วันที่ 9 เดือนนั้นเป็นต้นไป ครบกำหนด 30 วันในวันที่ 7 มิถุนายน 2502
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 235/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับระยะเวลาใบอนุญาตขนข้าว: เริ่มนับวันถัดจากวันอนุญาต และหมดอายุตามกำหนด
ใบอนุญาตให้ขนข้าวระบุว่ามีกำหนดอายุ 30 วันนับแต่วันอนุญาต วันอนุญาตตรงกับวันที่ 8 พฤษภาคม 2502 ต้องเริ่มนับ 1 ตั้งแต่วันที่ 9 เดือน นั้นเป็นต้นไป ครบกำหนด 30 วันในวันที่ 7 มิถุนายน 2502