พบผลลัพธ์ทั้งหมด 566 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 411/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาคดีใหม่เมื่อจำเลยมิได้ขาดนัดโดยจงใจ และผลกระทบต่อจำเลยอื่นร่วมในคดี
จำเลยที่ 2 จงใจขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ส่วนจำเลยที่ 1 มิได้จงใจขาดนัด กรณีเช่นนี้จะนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 59 (1) มาปรับเพื่อให้จำเลยที่ 2 ได้รับประโยชน์ด้วยกับจำเลยที่ 1 หาได้ไม่ คดีต้องพิจารณาใหม่โดยให้จำเลยที่ 1 มีโอกาสให้การ แต่จำเลยที่ 2 คงถือว่าขาดนัดยื่นคำให้การเช่นเดิม ต่อจากนั้นไปจำเลยที่ 2 จะได้รับประโยชน์ในชั้นพิจารณาอย่างใดหรือไม่ ก็ต้องแล้วแต่รูปคดีเป็นอีกตอนหนึ่ง
คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้พิจารณาใหม่ภายหลังเมื่อตัดสินแล้ว ไม่เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา คือ อุทธรณ์ฎีกาได้
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 1/2504 และครั้งที่ 6/2504)
คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้พิจารณาใหม่ภายหลังเมื่อตัดสินแล้ว ไม่เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา คือ อุทธรณ์ฎีกาได้
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 1/2504 และครั้งที่ 6/2504)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 211/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิขอคืนไม้ของกลาง: เจ้าของไม้มีสิทธิแม้ศาลตัดสินแล้วว่าไม้เป็นไม้หวงห้าม หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นไม้ในสวนของตน
ถึงแม้ศาลพิพากษาเสร็จเด็ดขาดแล้วว่าไม่ของกลางเป็นไม้หวงห้าม จำเลยมีไว้เป็นความผิดและให้ริบไม้ของกลางแล้วก็ดี เจ้าของไม่ยอมใช้สิทธิตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 36 ขอคืนไม้ของกลางโดยอ้างว่าไม่ใช่เป็นไม้หวงห้าม เพราะขึ้นอยู่ในสวนของตนได้ เพราะเจ้าของไม้ไม่มีโอกาสต่อสู้คดีกับโจทก์ คำพิพากษานั้นไม่มีผลผูกพันเจ้าของไม้
เมื่อผู้ร้องร้องขอคืนไม้ของกลางในกรณีเช่นนี้ ถึงแม้ศาลแขวงสั่งยกคำร้องก็ดี ผู้ร้องมีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ไม่อยู่ในบังคับแห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงฯ มาตรา 22 ที่ห้ามอุทธรณ์ข้อเท็จจริง
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 5/2504
เมื่อผู้ร้องร้องขอคืนไม้ของกลางในกรณีเช่นนี้ ถึงแม้ศาลแขวงสั่งยกคำร้องก็ดี ผู้ร้องมีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ไม่อยู่ในบังคับแห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงฯ มาตรา 22 ที่ห้ามอุทธรณ์ข้อเท็จจริง
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 5/2504
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 211/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิขอคืนไม้ของกลาง: เจ้าของไม้มีสิทธิแม้ศาลตัดสินถึงที่สุดแล้วว่าไม้เป็นไม้หวงห้าม หากพิสูจน์ได้ว่าไม้ไม่ได้มีลักษณะเป็นไม้หวงห้าม
ถึงแม้ศาลพิพากษาเสร็จเด็ดขาดแล้วว่าไม้ของกลางเป็นไม้หวงห้าม จำเลยมีไว้เป็นความผิดและให้ริบไม้ของกลางแล้วก็ดีเจ้าของไม้ย่อมใช้สิทธิตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36 ขอคืนไม้ของกลางโดยอ้างว่าไม่ใช่เป็นไม้หวงห้ามเพราะขึ้นอยู่ในที่สวนของตนได้เพราะเจ้าของไม้ไม่มีโอกาสต่อสู้คดีกับโจทก์ คำพิพากษานั้นไม่มีผลผูกพันเจ้าของไม้
เมื่อผู้ร้องร้องขอคืนไม้ของกลางในกรณีเช่นนี้ถึงแม้ศาลแขวงสั่งยกคำร้องก็ดี ผู้ร้องมีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาไม่อยู่ในบังคับแห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงฯ มาตรา 22 ที่ห้ามอุทธรณ์ข้อเท็จจริง
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 5/2504)
เมื่อผู้ร้องร้องขอคืนไม้ของกลางในกรณีเช่นนี้ถึงแม้ศาลแขวงสั่งยกคำร้องก็ดี ผู้ร้องมีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาไม่อยู่ในบังคับแห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงฯ มาตรา 22 ที่ห้ามอุทธรณ์ข้อเท็จจริง
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 5/2504)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 210/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นบัญชีระบุพยานล่าช้าจากความหลงลืม ศาลอาจอนุญาตได้หากไม่ทำให้คู่ความเสียเปรียบ
การที่จำเลยมิได้ยื่นบัญชีระบุพยานภายในกำหนดเพราะความหลงลืม มิใช่เป็นเพราะจำเลยมีเจตนาจงใจไม่ยื่นโดยมีเล่ห์เหลี่ยมประการใดและที่จำเลยขอยื่นบัญชีระบุพยานภายหลังนี้ ก็ไม่ทำให้โจทก์เสียเปรียบศาลควรอนุญาต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 202/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานที่เกิดเหตุในฟ้องอาญา ความผิดเช็ค การระบุภูมิลำเนาผู้สั่งจ่ายเพียงพอ
คำฟ้องต่อศาลแขวง จะต้องกล่าวระบุให้ปรากฏสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำผิดด้วยพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีตามที่มีบทบังคับอยู่ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คนั้น เมื่อได้ระบุถึงเลขที่ของเช็คและชื่อธนาคารที่จำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายอันเป็นมูลแห่งความผิดมาในฟ้องแล้วแม้จะมิได้ระบุสถานที่ตั้งของธนาคารก็ตามแต่โจทก์ก็ได้ระบุภูมิลำเนาของผู้สั่งจ่าย คือจำเลยไว้ จึงพอถือได้ว่าฟ้องโจทก์ได้ระบุสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำผิดพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว (ประชุมใหญ่ ครั้งที่6/2504)
ความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คนั้น เมื่อได้ระบุถึงเลขที่ของเช็คและชื่อธนาคารที่จำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายอันเป็นมูลแห่งความผิดมาในฟ้องแล้วแม้จะมิได้ระบุสถานที่ตั้งของธนาคารก็ตามแต่โจทก์ก็ได้ระบุภูมิลำเนาของผู้สั่งจ่าย คือจำเลยไว้ จึงพอถือได้ว่าฟ้องโจทก์ได้ระบุสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำผิดพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว (ประชุมใหญ่ ครั้งที่6/2504)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 202/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การระบุสถานที่เกิดเหตุในฟ้องอาญาคดีเช็ค การระบุชื่อธนาคารและภูมิลำเนาจำเลยเพียงพอ
คำฟ้องต่อศาลแขวง จะต้องกล่าวระบุให้ปรากฏสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำผิดด้วยพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีตามที่มีบทบังคับอยู่ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คนั้น เมื่อได้ระบุถึงเลขที่ของเช็คและชื่อธนาคารที่จำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายอันเป็นมูลแห่งความผิดมาในฟ้องแล้ว แม้จะมิได้ระบุสถานที่ตั้งของธนาคารก็ตามแต่โจทก์ก็ได้ระบุภูมิลำเนาของผู้สั่งจ่าย คือ จำเลยไว้ จึงพอถือได้ว่า ฟ้องโจทก์ได้ระบุสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำผิดพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 6/2504)
ความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คนั้น เมื่อได้ระบุถึงเลขที่ของเช็คและชื่อธนาคารที่จำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายอันเป็นมูลแห่งความผิดมาในฟ้องแล้ว แม้จะมิได้ระบุสถานที่ตั้งของธนาคารก็ตามแต่โจทก์ก็ได้ระบุภูมิลำเนาของผู้สั่งจ่าย คือ จำเลยไว้ จึงพอถือได้ว่า ฟ้องโจทก์ได้ระบุสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำผิดพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 6/2504)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 165/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การร้องสอดในคดีหนี้สินของภริยา: สามีมีสิทธิร้องสอดได้เฉพาะเมื่อเป็นหนี้ร่วมกันเท่านั้น
ภริยาถูกฟ้องเรียกหนี้เงินกู้ การที่สามีจะร้องสอดเข้าเป็นจำเลยร่วมขอบอกล้างนิติกรรม ต้องปรากฎว่าเป็นหนี้ร่วมระหว่างสามีภริยา ถ้าไม่ใช่หนี้ร่วม สามีจะร้องสอดไม่ได้
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 37/2503)
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 37/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 165/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิร้องสอดสามีในคดีหนี้สินของภริยา: ต้องเป็นหนี้ร่วมเท่านั้น
ภริยาถูกฟ้องเรียกหนี้เงินกู้ การที่สามีจะร้องสอดเข้าเป็นจำเลยร่วมขอบอกล้างนิติกรรม ต้องปรากฏว่าเป็นหนี้ร่วมระหว่างสามีภริยาถ้าไม่ใช่หนี้ร่วม สามีจะร้องสอดไม่ได้
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 37/2503)
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 37/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 106/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดอกเบี้ยค้างชำระ: สิทธิเรียกร้องดอกเบี้ยยังไม่ขาดอายุความ แม้ฟ้องเรียกเกิน 5 ปี
กฎหมายมิได้ห้ามคิดเอาดอกเบี้ยจากต้นเงินกู้เกิน 5 ปี เป็นแต่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 166 บัญญัติเกี่ยวกับสิทธิฟ้องเรียกดอกเบี้ยที่ค้างส่งหรือค้างชำระว่า ให้มีกำหนดอายุความ 5 ปีเท่านั้น
จำเลยมิได้ยกเรื่องอายุความขึ้นเป็นประเด็นต่อสู้ไว้ จะมายกข้อนี้ขึ้นในชั้นฎีกาหาได้ไม่
จำเลยมิได้ยกเรื่องอายุความขึ้นเป็นประเด็นต่อสู้ไว้ จะมายกข้อนี้ขึ้นในชั้นฎีกาหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 106/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดอกเบี้ยจากเงินกู้ระยะยาว: สิทธิฟ้องเรียกดอกเบี้ยค้างชำระมีอายุความ 5 ปี
กฎหมายมิได้ห้ามคิดเอาดอกเบี้ยจากต้นเงินกู้เกิน 5 ปี เป็นแต่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 166เกี่ยวกับสิทธิฟ้องเรียกดอกเบี้ยที่ค้างส่งหรือค้างชำระว่าให้มีกำหนดอายุความ 5 ปี เท่านั้น