คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
การุณย์นราทร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 566 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 410/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขาดนัดพิจารณา: เหตุสมควรเชื่อหรือไม่ และหน้าที่ทนายความในการมาศาลตามนัด
ข้อวินิจฉัยตาม ป.วิ.พ. มาตรา 209 อยู่ที่มีเหตุสมควรเชื่อว่าคู่ความฝ่ายที่ขาดนัดพิจารณานั้น มาศาลไม่ได้หรือไม่ เท่านั้น
ในวันนัดสืบพยานจำเลย การที่ทนายจำเลยทราบวันและเวลานัดพิจารณาแล้วมิได้มาศาลตามนัด แม้ศาลให้โอกาศรออยู่อีก 1 ชั่วโมงกับ 40 นาที ก็ยังไม่มาศาลเช่นนี้ ทนายจำเลยจะอ้างว่าตัวความหรือพยานยังไม่มาพบกันตนจึงยังไม่มาศาลเช่นนี้ เป็นข้ออ้างที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง และถ้ายอมให้อ้างกันได้โดยง่าย เมื่อเป็นเรื่องที่ทนายจำเลย จะมาให้ทันนัดของศาลก็มาได้ หากเห็นไม่สำคัญจึงไม่มาเช่นนี้ ไม่ถือว่า มีเหตุสมควรเชื่อว่าคู่ความฝ่ายที่ขาดนัดนั้นมาศาลไม่ได้ ตามป.วิ.พ. มาตรา 209 กรณีเช่นนี้ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้มีการพิจารณาคดีใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 398/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความผิดฐานแจ้งความเท็จเพื่อแกล้งให้ผู้อื่นต้องโทษ แม้ไม่มีการฟ้องดำเนินคดี
ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 200 เพียงแต่จำเลยจับผู้อื่นเพื่อจะแกล้งให้ต้องรับโทษทางอาญา ไม่จำเป็นต้องเอาตัวผู้นั้นมาฟ้องศาลจำเลยก็มีความผิดแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 398/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความผิดฐานใส่ร้ายผู้อื่นเพื่อให้ต้องโทษอาญา แม้ไม่มีการฟ้องดำเนินคดี
ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 200 เพียงแต่จำเลยจับผู้อื่นเพื่อจะแกล้งให้ต้องรับโทษทางอาญา ไม่จำเป็นต้องเอาตัวผู้นั้นมาฟ้องศาล จำเลยก็มีความผิดแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 362/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาระการพิสูจน์ในคดีซื้อขายที่ดิน: โจทก์ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าที่ดินที่ฟ้องคือที่ดินที่จำเลยขายให้จริง
ประเด็นในคดีมีว่า จำเลยได้ตกลงขายที่ดินตามโฉนดซึ่งได้รับมรดกมาจากบิดาเฉพาะส่วนของจำเลยและไม่ใช่ที่ริมแม่น้ำให้แก่โจทก์ตามที่โจทก์ฟ้อง หรือว่าจำเลยขายที่ดินอีกส่วนหนึ่งซึ่งเป็นที่ริมแม่น้ำอันจำเลยได้มรดกเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษให้แก่โจทก์ดั่งที่จำเลยต่อสู้เช่นนี้หน้าที่นำสืบก่อนย่อมตกแก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 362/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาระการพิสูจน์ในคดีซื้อขายที่ดิน: โจทก์ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าที่ดินที่ฟ้องคือที่ดินที่จำเลยขายให้จริง
ประเด็นในคดีมีว่า จำเลยได้ตกลงขายที่ดินที่ดินตามโฉนดซึ่งได้รับมรดกมาจากบิดาเฉพาะส่วนของจำเลยและไม่ใช่ที่ริมแม่น้ำให้แก่โจทก์ตามที่โจทก์ฟ้อง หรือว่าจำเลยขายที่ดินอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ริมแม่น้ำ อันจำเลยได้มรดกเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ ให้แก่โจทก์ดั่งที่จำเลยต่อสู้ เช่นนี้ หน้าที่นำสืบก่อนย่อมตกแก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 337/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์ฎีกาในคดีที่ศาลแขวงพิพากษาว่าคดีไม่มีมูล: ข้อจำกัดการอุทธรณ์ตามกฎหมายเฉพาะ
คดีที่อยู่ในอำนาจศาลแขวงเมื่อศาลแขวงไต่สวนมูลฟ้องแล้วพิพากษาว่า คดีโจทก์ไม่มีมูล ให้ยกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 170 ที่ให้โจทก์อุทธรณ์ฎีกาได้ เมื่อศาลสั่งว่าคดีไม่มีมูลนั้นเป็นบทบัญญัติถึงการไต่สวนมูลฟ้องซึ่งมิใช่เป็นคดีที่ต้องบังคับตาม พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 337/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลแขวงและการอุทธรณ์คดีไม่มีมูล: ป.วิ.อ. ม.170 ไม่ขัดกับ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแขวงฯ
คดีที่อยู่ในอำนาจศาลแขวง เมื่อศาลแขวงไต่สวนมูลฟ้อง แล้วพิพากษาว่าคดีโจทก์ไม่มีมูล ให้ยกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้
ป.วิ.อ. มาตรา 170 ที่ให้โจทก์อุทธรณ์ฎีกาได้ เมื่อศาลสั่งว่าคดีไม่มีมูลนั้น เป็นบทบัญญัติถึงการไต่สวนมูลฟ้องซึ่งมิใช่เป็นคดีที่ต้องบังคับตาม พ.ร.บ. จัดตั้งศาลแขวงฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 335/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์ที่ไม่รับอุทธรณ์คดีอาญา: ศาลฎีกาไม่รับฎีกาเนื่องจากคำสั่งศาลอุทธรณ์ยังไม่ถึงที่สุด
ในคดีอาญาที่ศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้นที่สั่งไม่รับอุทธรณ์ แม้ศาลชั้นต้นนั้นจะเป็นศาลแขวงคำสั่งของศาลอุทธรณ์ก็หาถึงที่สุดไม่ยังชอบที่จะฎีกาคัดค้านคำสั่งของศาลอุทธรณ์ต่อมาได้ตามกระบวนความ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 2/2503)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 335/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์ในคดีอาญา แม้ศาลชั้นต้นเป็นศาลแขวง และการใช้กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ในคดีอาญาที่ศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้นที่สั่งไม่รับอุทธรณ์ แม้ศาลชั้นต้นนั้นจะเป็นศาลแขวงคำสั่งของศาลอุทธรณ์ก็หาถึงที่สุดไม่ ยังชอบที่จะฎีกาคัดค้านคำสั่งของศาลอุทธรณ์ต่อมาได้ตามกระบวนความ
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 2/2503)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 332/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปลอมเงินตรา: เจตนาสำคัญในการพิจารณาความผิดตามมาตรา 240 หรือ 249
กรณีตาม มาตรา 249 แห่งประมวลกฎหมายอาญา เป็นเรื่องที่กระทำบัตรหรือโลหะธาตุอย่างใดให้มีลักษณะและขนาดคล้ายคลึงกับเงินตราขึ้นเท่านั้น โดยผู้กระทำไม่เจตนาทำปลอมให้เป็นเงินตราเพื่อนำออกลวงใช้เป็นเงินตราที่แท้จริง
ฉะนั้น เมื่อจำเลยเจตนาทำปลอมให้เป็นเงินตราเพื่อนำออกลวงใช้เป็นเงินตราที่แท้จริง กรณีจึงปรับด้วย มาตรา249 ไม่ได้ต้องปรับด้วย มาตรา 240
of 57