พบผลลัพธ์ทั้งหมด 566 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 980/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพยายามฆ่าด้วยอาวุธที่มีกระสุน หากกระสุนด้านแต่ยังมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดอันตราย ต้องลงโทษตามมาตรา 80 ไม่ใช่ 81
กรณีที่จะปรับด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 81 นั้นเกี่ยวกับปัจจัยซึ่งใช้ในการกระทำผิดไม่สามารถจะกระทำให้บรรลุผลได้อย่างแน่แท้ เช่น ใช้ปืนที่มิได้มีกระสุนบรรจุอยู่เลยยิงคน โดยเข้าใจผิดคิดว่ามีกระสุนบรรจุอยู่พร้อมแล้ว ซึ่งอย่างไรๆ ก็ย่อมจะทำให้ผู้ถูกยิงได้รับอันตรายจากการยิงมิได้เลย ดั่งนี้ จึงจะถือได้ว่า เป็นกรณีที่ไม่สามารถบรรลุผลได้อย่างแน่แท้
จำเลยใช้ปืนที่มีกระสุนบรรจุอยู่ถึง 7 นัดยิงโจทก์ร่วม กระสุนนัดแรกด้านไม่ระเบิดออกซึ่งอาจเป็นเพราะกระสุนเสื่อมคุณภาพหรือเพราะเหตุบังเอิญอย่างใดไม่ปรากฏ มิฉะนั้นแล้ว กระสุนก็ต้องระเบิดออกและอาจเกิดอันตรายแก่โจทก์ร่วมได้ หาเป็นการแน่แท้ไม่ว่าจะไม่สามารถกระทำให้ผู้ถูกยิงได้รับอันตรายจากการยิงของจำเลยเช่นนั้นกรณีนี้ต้องปรับด้วย มาตรา 80 ไม่ใช่มาตรา 81และถ้าหากไม่มีคนเข้าขัดขวางจำเลยไว้ทันท่วงที จำเลยอาจยิงโจทก์ร่วมด้วยกระสุนที่ยังเหลือบรรจุอยู่นั้นต่อไปอีกก็ได้ ย่อมเห็นชัดว่า ไม่ใช่กรณีที่ปัจจัยซึ่งใช้ในการกระทำผิดไม่สามารถจะกระทำให้บรรลุผลได้อย่างแน่แท้ตามความหมายใน มาตรา 81
จำเลยใช้ปืนที่มีกระสุนบรรจุอยู่ถึง 7 นัดยิงโจทก์ร่วม กระสุนนัดแรกด้านไม่ระเบิดออกซึ่งอาจเป็นเพราะกระสุนเสื่อมคุณภาพหรือเพราะเหตุบังเอิญอย่างใดไม่ปรากฏ มิฉะนั้นแล้ว กระสุนก็ต้องระเบิดออกและอาจเกิดอันตรายแก่โจทก์ร่วมได้ หาเป็นการแน่แท้ไม่ว่าจะไม่สามารถกระทำให้ผู้ถูกยิงได้รับอันตรายจากการยิงของจำเลยเช่นนั้นกรณีนี้ต้องปรับด้วย มาตรา 80 ไม่ใช่มาตรา 81และถ้าหากไม่มีคนเข้าขัดขวางจำเลยไว้ทันท่วงที จำเลยอาจยิงโจทก์ร่วมด้วยกระสุนที่ยังเหลือบรรจุอยู่นั้นต่อไปอีกก็ได้ ย่อมเห็นชัดว่า ไม่ใช่กรณีที่ปัจจัยซึ่งใช้ในการกระทำผิดไม่สามารถจะกระทำให้บรรลุผลได้อย่างแน่แท้ตามความหมายใน มาตรา 81
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 974/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสืบพยานคนกลางเพื่อพิสูจน์การครอบครองที่ดิน: เจตนาคำท้าต้องมุ่งพิสูจน์เจ้าของที่ดิน ไม่ใช่การครอบครองระยะสั้น
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของครอบครองที่พิพาทตลอดมา 30 ปีแล้ว จำเลยต่อสู้ว่า จำเลยครอบครองเป็นเจ้าของตลอดมาถึง 17 ปีแล้ว คู่ความตกลงกันขอให้สืบพยานคนกลาง หากพยานคนกลางเบิกความว่า ที่พิพาทเป็นของฝ่ายใด โดยได้ครอบครองตลอดมาจนก่อนพิพาทกันชั้นอำเภอแล้ว อีกฝ่ายหนึ่งยอมแพ้ พยานคนกลางเบิกความว่า เห็นจำเลยครอบครองตลอดมา 17 ปีแล้ว เมื่อ 2-3 ปีมานี้ โจทก์ได้ยื่นแบบ ส.ค. 1 สำหรับที่รายพิพาท ดังนี้ถือว่า เจตนาตามคำท้ามุ่งถึงเรื่องที่ว่า ฝ่ายใดครอบครองเป็นเจ้าของที่พิพาท ไม่ได้เจตนาถึงเรื่องแย่งการครอบครองภายใน 2 - 3 ปี จึงต้องถือว่าพยานคนกลางเบิกความสมข้างจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 974/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสืบพยานคนกลางเพื่อพิสูจน์การครอบครองที่ดิน เจตนาคำท้าอยู่ที่การครอบครองเดิม ไม่ใช่การแย่งภายหลัง
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของครอบครองที่พิพาทตลอดมา30 ปีแล้ว จำเลยต่อสู้ว่า จำเลยครอบครองเป็นเจ้าของตลอดมาถึง 17 ปีแล้ว คู่ความตกลงกันขอให้สืบพยานคนกลาง หากพยานคนกลางเบิกความว่า ที่พิพาทเป็นของฝ่ายใด โดยได้ครอบครองตลอดมาจนก่อนพิพาทกันชั้นอำเภอแล้ว อีกฝ่ายหนึ่งยอมแพ้ ทนายคนกลางเบิกความว่า เห็นจำเลยครอบครองตลอดมา 17 ปีแล้ว เมื่อ 2-3 ปีมานี้ โจทก์ได้ยื่นแบบ ส.ค.1 สำหรับที่รายพิพาท ดังนี้ถือว่า เจตนาตามคำท้ามุ่งถึงเรื่องที่ว่า ฝ่ายใดครอบครองเป็นเจ้าของที่พิพาท ไม่ได้เจตนาถึงเรื่องแย่งการครอบครองภายใน2-3 ปี จึงต้องถือว่า พยานคนกลางเบิกความสมข้างจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 930/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายสุราเสร็จเด็ดขาด: การจำหน่ายสุราโดยร้านค้าตัวแทน ไม่ถือเป็นตัวการตัวแทน จึงต้องเสียอากรแสตมป์
เจ้าของร้านขายส่งสุราเป็นคนอื่น มิได้เกี่ยวข้องอะไรกับบริษัทซึ่งทำการต้มกลั่นสุราเลย ส่วนได้ส่วนเสียแยกต่างหาก มิได้มีอะไรเกี่ยวพันกัน แม้ในฐานะของลูกจ้างกับนายจ้างก็มิได้มีปรากฏ เจ้าของร้านขายส่งสุราหลายรายต้องวางเงินประกันไว้ต่อบริษัทต้มกลั่น ซึ่งบางรายต้องวางเงินประกันไว้ก่อนถึง 80,000 บาท ก็มี ข้อสำคัญที่สุดก็คือ สุราที่ส่งไปให้ร้านขายส่งสุราเหล่านี้ บริษัทต้มกลั่นถือว่า เป็นการจำหน่ายเสร็จเด็ดขาดจากบริษัทต้มกลั่นไปแล้วทั้งสิ้น มิใช่ทรัพย์ของบริษัทต้มกลั่นอีกต่อไป บัญชีงบดุลก็มิได้แสดงว่าเป็นทรัพย์ของบริษัทต้มกลั่นเลย พฤติการณ์ทั้งมวลประกอบกันแสดงชัดว่า บริษัทต้มกลั่นได้ขายขาดสุราให้แก่ร้านขายส่งสุราเหล่านี้ไปแล้ว ไม่ใช่เรื่องของตัวการกับตัวแทนหรือลูกจ้างกับนายจ้าง การรับเงินค่าสุราจากร้านขายส่งดังกล่าวจึงจำต้องออกใบรับและปิดอากรแสตมป์ เพราะกรณีไม่เข้าข้อยกเว้นตามข้อ ฌ.แห่งลักษณะตราสาร ข้อ 28
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 920/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานรับของโจร ต้องมีหลักฐานการลักทรัพย์ก่อน จึงจะมีความผิด
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา357 บัญญัติเกณฑ์ความผิดฐานรับของโจรไว้ว่า การรับด้วยประการใดๆ ซึ่งทรัพย์อันได้มาโดยการกระทำความผิดอันจำกัดไว้ว่า ความผิดนั้น ต้องเข้าลักษณะความผิดฐานลักทรัพย์, วิ่งราวทรัพย์ ฯลฯ ซึ่งหมายความว่าทรัพย์นั้นจะต้องเป็นทรัพย์ที่ถูกลัก ฯลฯมาเสียก่อนจึงจะเกิดความผิดฐานรับของโจรต่อไปได้ เมื่อกรณีเป็นอันยุติตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ว่ามิได้มีการกระทำผิดฐานลักทรัพย์เกิดขึ้น ก็ย่อมไม่อาจมีความผิดฐานรับของโจรเกิดขึ้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 896/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจตัวแทนบังคับคดีหลังตัวการเสียชีวิต: ทายาทยังไม่เป็นผู้จัดการมรดก
ตัวการได้มอบอำนาจให้ตัวแทนเป็นโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ของตัวการ ศาลพิพากษาให้ขับไล่จำเลย คดีถึงที่สุด ในระหว่างดำเนินการขอบังคับคดี ตัวการถึงแก่กรรม ดังนี้ การที่ตัวแทนดำเนินการร้องขอบังคับคดีให้เป็นไปตามคำพิพากษาต่อไป จึงเป็นการกระทำเพื่อปกปักรักษาประโยชน์อันตัวการได้มอบหมายแก่ตัวแทนโดยสมควร ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 828 แล้ว
ทายาทของตัวการซึ่งได้ถึงแก่กรรมแล้ว กำลังพิพาทกับตัวแทนเกี่ยวด้วยแย่งกันเป็นผู้จัดการมรดกของตัวการอยู่ดังนี้ ยังถือว่าทายาทของตัวการยังมิได้เป็นผู้จัดการมรดก และยังหาอาจเข้ามาดำเนินการขอบังคับคดีซึ่งกำลังดำเนินอยู่ในศาลก่อนตัวการถึงแก่กรรมอย่างใดไม่
ทายาทของตัวการซึ่งได้ถึงแก่กรรมแล้ว กำลังพิพาทกับตัวแทนเกี่ยวด้วยแย่งกันเป็นผู้จัดการมรดกของตัวการอยู่ดังนี้ ยังถือว่าทายาทของตัวการยังมิได้เป็นผู้จัดการมรดก และยังหาอาจเข้ามาดำเนินการขอบังคับคดีซึ่งกำลังดำเนินอยู่ในศาลก่อนตัวการถึงแก่กรรมอย่างใดไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 880/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานที่ให้การเพื่อแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี ถือเป็นพยานที่ไม่น่าเชื่อถือ คำรับสารภาพในชั้นสอบสวนที่ปฏิเสธในชั้นศาลใช้ลงโทษไม่ได้
พยานที่เกิดจากการจูงใจให้คำมั่นสัญญาว่าจะไม่เอาพยานเป็นผู้ต้องหา รับฟังไม่ได้
ลำพังแต่คำรับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวน ซึ่งจำเลยปฏิเสธในชั้นศาลจะฟังมาลงโทษจำเลยยังไม่ได้
ลำพังแต่คำรับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวน ซึ่งจำเลยปฏิเสธในชั้นศาลจะฟังมาลงโทษจำเลยยังไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 862/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีอาญาของผู้อุทิศทรัพย์สินให้มูลนิธิ กรณีถูกยักยอกและทำให้มูลนิธิเลิก
ราษฎรเป็นโจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยซึ่งเป็นกรรมการมูลนิธิยักยอกทรัพย์ ร้องเรียนเท็จและเบิกความเท็จ โดยกล่าวในฟ้องว่า โจทก์ได้อุทิศที่ดินที่ได้รับมรดกมาให้เป็นทรัพย์กองกลางพร้อมด้วยสิ่งปลูกสร้างและดอกผลสำหรับบำรุงสุสานในตระกูลโจทก์ ต่อมาได้ก่อตั้งเป็นมูลนิธิจนได้รับอำนาจจากรัฐบาลแล้ว ที่ดินสิ่งปลูกสร้างและดอกผลที่โจทก์อุทิศจึงตกเป็นของมูลนิธิตั้งแต่นั้นมา หลังจากนั้น จำเลยซึ่งเป็นกรรมการมูลนิธิได้ยักยอกเอาที่ดินแปลงนั้นเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสีย และจำเลยได้ยื่นคำร้องต่อศาลขอให้สั่งเลิกมูลนิธิดังกล่าว โดยเอาความเท็จมาร้องเรียนว่ามูลนิธิไม่มีทรัพย์สินใดจะใช้เป็นทุนดำเนินการตามวัตถุประสงค์ได้ ความจริงทรัพย์ของมูลนิธิยังมีอยู่ และจำเลยได้เบิกความเท็จว่า มูลนิธิไม่มีทรัพย์สินใดจะใช้เป็นทุนดำเนินการตามวัตถุประสงค์ได้ ขอให้ลงโทษ เช่นนี้ในชั้นพิจารณาอำนาจฟ้องของโจทก์ ถือได้ว่า โจทก์เป็นผู้เสียหายตามความใน มาตรา 2(4) และมีอำนาจฟ้องคดีได้ตาม มาตรา 28(2) แห่ง ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา แล้ว เพราะตามที่โจทก์กล่าวในฟ้องว่า ทรัพย์สินย่อมตกเป็นของมูลนิธิแล้วนั้น โจทก์ได้วงเล็บ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 87 มาในฟ้องด้วย แสดงให้เห็นว่า เป็นความเข้าใจของโจทก์ในข้อกฎหมายเกี่ยวกับมาตรา87 แห่ง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ จึงไม่ใช่ข้อยืนยันของโจทก์ จะถือเป็นยุติตามที่โจทก์เข้าใจในข้อกฎหมายดังที่กล่าวมาในฟ้องเสียทีเดียวหาชอบไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมื่อโจทก์โอนโฉนดให้เป็นในนามของนายประสพกับพวกถือกรรมสิทธิ์ตามหน้าโฉนดก็ยังหาได้มีการโอนโฉนดใส่ชื่อมูลนิธิไม่(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 13/2502)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 845/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์: การกำหนดบทลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 แทนกฎหมายลักษณะอาญา
จำเลยเป็นเสมียนแผนกตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดพังงา ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดพังงาผู้เป็นหัวหน้าได้มอบหมายการงานซึ่งอยู่ในแผนกให้แก่จำเลยปฏิบัติ จำเลยได้ยักยอกเงินและสิ่งของที่ได้รับมอบหมายไว้ตามหน้าที่ ดังนี้ จำเลยย่อมมีผิดฐานเจ้าพนักงานยักยอก
อัตราโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ย่อมเบากว่าตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 131
อัตราโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ย่อมเบากว่าตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 131
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 829/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าใหม่ย่อมตัดสิทธิบริวารเดิม แม้จะยังไม่ได้จดทะเบียนเลิกห้างหุ้นส่วน
แม้เดิมนายเซ่งกั้วจะอยู่ในตึกพิพาทระหว่างอายุสัญญาเช่าที่ห้างหุ้นส่วนจำเลยได้ทำกับโจทก์ โดยนายเซ่งกั้วเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ อันเป็นการอยู่ในฐานะเป็นบริวารของจำเลยมาก่อนก็ตาม แต่เมื่อห้างหุ้นส่วนจำเลยเลิกกิจการตามวัตถุประสงค์แห่งการเช่าและกำหนดเวลาตามสัญญาเช่าที่ผูกพันห้างหุ้นส่วนจำเลยหมดไปแล้ว แม้ถึงว่าห้างหุ้นส่วนจำเลยจะยังไม่ได้จดทะเบียนเลิกห้างหุ้นส่วนตามกฎหมายก็ดี หากโจทก์ได้ตกลงให้นายเซ่งกั้วเช่าแม้ด้วยวาจาและนายเซ่งกั้วเปิดห้องพิพาทเป็นร้านขายอาหารชื่อพัฒนาหาร และทั้งโจทก์ก็ออกใบเสร็จรับเงินค่าเช่าเป็นรับเงินจากร้านพัฒนาหาร ไม่เกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจำเลยตามวัตถุประสงค์เดิมแต่อย่างใดเลย เช่นนี้ เป็นการตกลงกันใหม่ ระหว่างโจทก์กับนายเซ่งกั้วเจ้าของกิจการร้านพัฒนาหารแล้ว นายเซ่งกั้วจึงไม่ใช่บริวารของห้างหุ้นส่วนจำเลยเดิม