คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สอาด นาวีเจริญ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,016 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 166/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินจากการบังคับคดีและการลักทรัพย์: ผลต่อกรรมสิทธิ์และเจตนา
ที่ดินซึ่งเจ้าของที่ดินมีแต่เพียงสิทธิครอบครอง (ส.ค.1) เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีได้จัดการยึดแล้วที่ดินรายนี้ย่อมตกอยู่ในความยึดถือของเจ้าพนักงานบังคับคดี เจ้าพนักงานบังคับคดีจัดการขายทอดตลาดตามคำสั่งของศาล ผู้ซื้อชำระราคาแล้ว ย่อมเป็นกรณีที่เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ได้ยึดถือทรัพย์ที่ยึดนั้นต่อไป แต่เป็นที่เข้าใจว่าได้โอนความเป็นเจ้าของตลอดจนความยึดถือทรัพย์นั้นให้แก่ผู้ซื้อ ผู้ซื้อย่อมเป็นเจ้าของทรัพย์รายนี้ ส่วนการที่ศาลมีหนังสือถึงนายอำเภอท้องที่ ขอให้จัดการทำหนังสือสัญญาซื้อขายให้ผู้ซื้อนั้น เป็นเพียงให้ทางอำเภอจัดการเกี่ยวกับหนังสือสำคัญสำหรับที่ดินอีกชั้นหนึ่ง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 49/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ศาลไม่จำเป็นต้องชี้สองสถานหากพยานหลักฐานเพียงพอ และไม่ต้องวินิจฉัยทุกประเด็นหากข้อเท็จจริงที่ยกขึ้นเพียงพอ
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมิได้บังคับให้ศาลจำต้องชี้สองสถานเสมอไป ฉะนั้น การที่ศาลมิได้ชี้สองสถานในคดีที่โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามสัญญากู้ แต่จำเลยต่อสู้ว่าสัญญากู้โจทก์ทำขึ้นเอง และลายเซ็นช่องผู้กู้ไม่ใช่ลายเซ็นของจำเลยนั้น จึงไม่เป็นการขัดต่อกฎหมาย
การวินิจฉัยพยานหลักฐานนั้น เมื่อศาลเห็นว่าข้อเท็จจริงที่ยกขึ้นวินิจฉัยเพียงพอแก่การชี้ขาดแล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องหยิบยกข้อเท็จจริงอื่นขึ้นวินิจฉัยต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 49/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการวินิจฉัยพยานหลักฐานและการไม่ชี้สองสถาน
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มิได้บังคับให้ศาลจำต้องชี้สองสถานเสมอไปฉะนั้น การที่ศาลมิได้ชี้สองสถานในคดีที่โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามสัญญากู้ แต่จำเลยต่อสู้ว่าสัญญากู้โจทก์ทำขึ้นเอง และลายเซ็นช่องผู้กู้ไม่ใช่ลายเซ็นของจำเลยนั้นจึงไม่เป็นการขัดต่อกฎหมาย
การวินิจฉัยพยานหลักฐานนั้น เมื่อศาลเห็นว่าข้อเท็จจริงที่ยกขึ้นวินิจฉัยเพียงพอแก่การชี้ขาดแล้วก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องหยิบยกข้อเท็จจริงอื่นขึ้นวินิจฉัยต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1642/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นายจ้างไม่มีสิทธิเรียกร้องภาษีจากลูกจ้างที่มิได้หักไว้ แม้ตามกฎหมายจะกำหนดให้เป็นผู้รับผิด
ตามประมวลรัษฎากร แม้จะบัญญัติให้นายจ้างหักเงินภาษีของลูกจ้าง และให้นายจ้างต้องรับผิดในเงินภาษีที่มิได้หักไว้จริง แต่ก็มิได้มีบทบัญญัติให้นายจ้างมีสิทธิเรียกร้องภาษีจากลูกจ้างในกรณีที่มิได้หักเงินภาษีไว้ และบัญญัติให้ลูกจ้างหลุดพ้นความรับผิดในการชำระภาษีเงินได้เฉพาะแต่กรณีที่นายจ้างหักเงินภาษีไว้แล้ว มิได้ให้สิทธินายจ้างฟ้องเรียกเงินภาษีที่มิได้หักไว้ นายจ้างจึงไม่มีสิทธิฟ้องเรียกเงินภาษีที่ยังมิได้หักจากลูกจ้าง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1642/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นายจ้างไม่มีสิทธิฟ้องเรียกภาษีเงินได้จากลูกจ้าง หากมิได้หักภาษีไว้แต่แรก ตามประมวลรัษฎากร
ตามประมวลรัษฎากร แม้จะบัญญัติให้นายจ้างหักเงินภาษีของลูกจ้าง และให้นายจ้างต้องรับผิดในเงินภาษีที่มิได้หักไว้จริง แต่ก็มิได้มีบทบัญญัติให้นายจ้างมีสิทธิเรียกร้องภาษีจากลูกจ้างในกรณีที่มิได้หักเงินภาษีไว้ และบัญญัติให้ลูกจ้างหลุดพ้นความรับผิดในการชำระภาษีเงินได้ เฉพาะแต่กรณีที่นายจ้างหักเงินภาษีไว้แล้วมิได้ให้สิทธินายจ้างฟ้องเรียกเงินภาษีที่มิได้หักไว้ นายจ้างจึงไม่มีสิทธิฟ้องเรียกเงินภาษีที่ยังมิได้หักจากลูกจ้าง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1619/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหลอกลวงเงินยืมราชการเป็นความผิดอาญา แม้มีการหักเงินเดือนคืน
การที่จำเลยร่วมกันแสดงข้อความอันเป็นเท็จ เป็นเหตุให้ได้เงินยืมของทางราชการไป อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาโดยครบถ้วนแล้ว การที่จำเลยทำสัญญายืมเงินให้กรมตำรวจไว้ตามระเบียบ ตลอดจนเมื่อเรื่องปรากฏความจริงขึ้น และจำเลยมิได้ส่งใช้เงินคืนกรมตำรวจ กรมตำรวจจึงได้หักเงินเดือนจำเลยใช้เงินยืม ก็เป็นเรื่องภายหลัง การที่หลอกลวงได้รับเงินยืมสำเร็จไปก่อนแล้ว เมื่อเรื่องปรากฏความจริงขึ้นภายหลัง กรมตำรวจจึงถือปฏิบัติไปตามสัญญายืมอันเป็นความรับผิดที่จำเลยมีอยู่ในทางแพ่งควบคู่กับความรับผิดทางอาญา หาทำให้การที่จำเลยร่วมกระทำผิดทางอาญากลับไม่เป็นความผิดไปอีกไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1619/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฉ้อโกงโดยการแสดงข้อความเท็จเพื่อยืมเงิน การทำสัญญาและการชำระคืนหลังเกิดเหตุ ไม่กระทบความผิดทางอาญา
การที่จำเลยร่วมกันแสดงข้อความอันเป็นเท็จเป็นเหตุให้ได้เงินยืมของทางราชการไป อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาโดยครบถ้วนแล้ว การที่จำเลยทำสัญญายืมเงินให้กรมตำรวจไว้ตามระเบียบ ตลอดจนเมื่องเรื่องปรากฏความจริงขึ้น และจำเลยมิได้ส่งใช้เงินคืนกรมตำรวจ กรมตำรวจจึงได้หักเงินเดือนจำเลยใช้เงินยืม ก็เป็นเรื่องภายหลังการที่หลอกลวงได้รับเงินยืมสำเร็จไปก่อนแล้ว เมื่อเรื่องปรากฏความจริงขึ้นภายหลัง กรมตำรวจจึงถือปฏิบัติไปตามสัญญายืมอันเป็นความรับผิดที่จำเลยมีอยู่ในทางแพ่งควบคู่กับความรับผิดทางอาญา หาทำให้การที่จำเลยร่วมกระทำผิดทางอาญากลับไม่เป็นความผิดไปอีกไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1618/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประมาทต้องมีเหตุเฉพาะเจาะจง การถือปืนเตรียมยิงไม่ใช่ความประมาท
การบรรยายข้อเท็จจริงในฟ้องที่ไม่แสดงว่าจำเลยทำให้ปืนลั่นถูกผู้ตายโดยประมาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1618/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประมาทจากการถือปืน: จำเลยไม่มีความผิดหากไม่มีเหตุให้ผู้ตายแย่งปืน
การบรรยายข้อเท็จจริงในฟ้องที่ไม่แสดงว่าจำเลยทำให้ปืนลั่นถูกผู้ตายโดยประมาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1563/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การออกใบหุ้นโดยไม่มีการโอนจริงทำให้ผู้รับซื้อหุ้นเสียหาย และจำเลยอาจต้องรับผิดในฐานะละเมิด
ฟ้องของโจทก์ที่บรรยายว่า บุคคลสามคนซึ่งเป็นกรรมการบริษัทจำเลย หลอกลวงให้โจทก์ซื้อหุ้นของผู้ถือหุ้นคนหนึ่ง โจทก์ตกลงรับซื้อ และบริษัทจำเลยได้ออกใบหุ้นให้แก่โจทก์ โจทก์ได้ชำระเงินค่าหุ้นไปแล้ว ความจริงมิได้มีการโอนหุ้นให้แก่โจทก์ และทั้งไม่สามารถโอนหุ้นได้ด้วย เพราะหุ้นของผู้ถือคนนั้นได้นำไปค้ำประกันหนี้บุคคลอื่นก่อน โจทก์จึงฟ้องให้จำเลยรับผิดชดใช้เงินที่โจทก์ต้องเสียไปในการซื้อหุ้นดังกล่าวนั้น ถ้าข้อเท็จจริงได้ความว่าถ้าไม่มีการโอนหุ้นและโจทก์ไม่ได้เป็นเจ้าของหุ้นจริงดังที่บริษัทจำเลยออกใบหุ้นให้แก่โจทก์ ก็ย่อมเป็นเหตุให้โจทก์เสียหาย และจำเลยก็ได้ชื่อว่าได้ทำละเมิดต่อโจทก์ด้วย ฟ้องของโจทก์เช่นนี้จึงควรได้รับการพิจารณาต่อไป
of 102