พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,016 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1563/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การออกใบหุ้นโดยไม่มีการโอนจริงทำให้ผู้รับซื้อหุ้นเสียหาย และจำเลยอาจต้องรับผิดในฐานะละเมิด
ฟ้องของโจทก์ที่บรรยายว่า บุคคลสามคนซึ่งเป็นกรรมการบริษัทจำเลย หลอกลวงให้โจทก์ซื้อหุ้นของผู้ถือหุ้นคนหนึ่ง โจทก์ตกลงรับซื้อ และบริษัทจำเลยได้ออกใบหุ้นให้แก่โจทก์ โจทก์ได้ชำระเงินค่าหุ้นไปแล้ว ความจริงมิได้มีการโอนหุ้นให้แก่โจทก์ และทั้งไม่สามารถโอนหุ้นได้ด้วย เพราะหุ้นของผู้ถือคนนั้นได้นำไปค้ำประกันหนี้บุคคลอื่นก่อน โจทก์จึงฟ้องให้จำเลยรับผิดชดใช้เงินที่โจทก์ต้องเสียไปในการซื้อหุ้นดังกล่าวนั้น ถ้าข้อเท็จจริงได้ความว่าถ้าไม่มีการโอนหุ้นและโจทก์ไม่ได้เป็นเจ้าของหุ้นจริงดังที่บริษัทจำเลยออกใบหุ้นให้แก่โจทก์ ก็ย่อมเป็นเหตุให้โจทก์เสียหาย และจำเลยก็ได้ชื่อว่าได้ทำละเมิดต่อโจทก์ด้วย ฟ้องของโจทก์เช่นนี้จึงควรได้รับการพิจารณาต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1559/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำให้การชั้นสอบสวนใช้ยันจำเลยในชั้นพิจารณาได้ หากมีหลักฐานสนับสนุนว่าเป็นการให้การโดยสมัครใจและเป็นความจริง
คำให้การของจำเลยในชั้นสอบสวนใช้ยันจำเลยในชั้นพิจารณาของศาลได้ หากมีพยานหลักฐานประกอบฟังได้วว่าจำเลยให้การรับสารภาพโดยสมัครใจและตามความสัตย์จริง
โจทก์บรรยายในฟ้องว่า จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน ชั้นศาลจำเลยให้การปฏิเสธลอยๆ และเมื่อโจทก์นำพนักงานสอบสวนเข้าเบิกความเป็นพยานโจทก์ประกอบคำให้การรับสารภาพชั้นสอบสวนที่โจทก์อ้าง จำเลยก็ไม่ได้ถามค้านให้เห็นว่าจำเลยไม่เคยให้การรับสารภาพ คำให้การชั้นสอบสวนที่โจทก์อ้างมิใช่ลายมือของจำเลย การที่จำเลยนำสืบในภายหลังว่าคำให้การชั้นสอบสวนนั้นไม่ใช่ลายมือชื่อของจำเลย จึงเป็นการนำสืบเอาข้างเดียว ไม่มีน้ำหนัก
โจทก์บรรยายในฟ้องว่า จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน ชั้นศาลจำเลยให้การปฏิเสธลอยๆ และเมื่อโจทก์นำพนักงานสอบสวนเข้าเบิกความเป็นพยานโจทก์ประกอบคำให้การรับสารภาพชั้นสอบสวนที่โจทก์อ้าง จำเลยก็ไม่ได้ถามค้านให้เห็นว่าจำเลยไม่เคยให้การรับสารภาพ คำให้การชั้นสอบสวนที่โจทก์อ้างมิใช่ลายมือของจำเลย การที่จำเลยนำสืบในภายหลังว่าคำให้การชั้นสอบสวนนั้นไม่ใช่ลายมือชื่อของจำเลย จึงเป็นการนำสืบเอาข้างเดียว ไม่มีน้ำหนัก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1559/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำให้การชั้นสอบสวนใช้ยันในชั้นพิจารณาได้ หากมีพยานหลักฐานสนับสนุนและจำเลยไม่โต้แย้ง
คำให้การของจำเลยในชั้นสอบสวนใช้ยันจำเลยในชั้นพิจารณาของศาลได้ หากมีพยานหลักฐานประกอบฟังได้ว่าจำเลยให้การรับสารภาพโดยสมัครใจและตามความสัตย์จริง
โจทก์บรรยายในฟ้องว่า จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนชั้นศาล จำเลยให้การปฏิเสธลอยๆ และเมื่อโจทก์นำพนักงานสอบสวนเข้าเบิกความเป็นพยานโจทก์ประกอบคำให้การรับสารภาพ ชั้นสอบสวนที่โจทก์อ้างจำเลยก็ไม่ได้ถามค้านให้เห็นว่าจำเลยไม่เคยให้การรับสารภาพคำให้การชั้นสอบสวนที่โจทก์อ้างมิใช่ลายมือชื่อของจำเลย การที่จำเลยนำสืบในภายหลังว่าคำให้การชั้นสอบสวนนั้นไม่ใช่ลายมือชื่อของจำเลยจึงเป็นการนำสืบเอาข้างเดียว ไม่มีน้ำหนัก
โจทก์บรรยายในฟ้องว่า จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนชั้นศาล จำเลยให้การปฏิเสธลอยๆ และเมื่อโจทก์นำพนักงานสอบสวนเข้าเบิกความเป็นพยานโจทก์ประกอบคำให้การรับสารภาพ ชั้นสอบสวนที่โจทก์อ้างจำเลยก็ไม่ได้ถามค้านให้เห็นว่าจำเลยไม่เคยให้การรับสารภาพคำให้การชั้นสอบสวนที่โจทก์อ้างมิใช่ลายมือชื่อของจำเลย การที่จำเลยนำสืบในภายหลังว่าคำให้การชั้นสอบสวนนั้นไม่ใช่ลายมือชื่อของจำเลยจึงเป็นการนำสืบเอาข้างเดียว ไม่มีน้ำหนัก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1461/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายทอดตลาดบังคับคดี: ความล่าช้าในการขายและการตรวจสอบราคา ไม่เป็นเหตุให้การขายเป็นโมฆะ
การขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดของลูกหนี้ตามคำพิพากษานั้น ไม่ใช่หน้าที่ของโจทก์หรือผู้แทนโจทก์เพราะเป็นเรื่องอยู่ในหน้าที่ของเจ้าพนักงานบังคับคดีที่จะทำการขายตามประกาศ โดยใช้ดุลพินิจในการขายเพื่อให้ได้ราคาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ฉะนั้น การขายที่ล่าช้าไปกว่ากำหนดตามประกาศไปบ้าง ย่อมจะปรับให้เป็นความผิดแก่โจทก์ไม่ได้ และเมื่อไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานได้ทำการขายผิดระเบียบแล้ว จำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ก็ไม่มีสิทธิที่จะขอให้ศาลสั่งทำการขายใหม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1461/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายทอดตลาดทรัพย์ยึด: โจทก์ไม่ต้องรับผิดชอบความล่าช้า เจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำนาจใช้ดุลพินิจ
การขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดของลูกหนี้ตามคำพิพากษานั้นไม่ใช่หน้าที่ของโจทก์หรือผู้แทนโจทก์ เพราะเป็นเรื่องอยู่ในหน้าที่ของเจ้าพนักงานบังคับคดีที่จะทำการขายตามประกาศ โดยใช้ดุลพินิจในการขายเพื่อให้ได้ราคาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ฉะนั้นการขายที่ล่าช้าไปกว่ากำหนดตามประกาศไปบ้าง ย่อมจะปรับให้เป็นความผิดแก่โจทก์ไม่ได้ และเมื่อไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานได้ทำการขายผิดระเบียบแล้ว จำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ไม่มีสิทธิที่จะขอให้ศาลสั่งทำการขายใหม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1414/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้สั่งจ่ายเช็คต้องรับผิดต่อผู้ทรงเช็ค แม้มีการผิดสัญญาหรือฉ้อฉลระหว่างผู้ทรงเช็คคนก่อน
เมื่อไม่ปรากฏว่ามีการคบคิดกันฉ้อฉลระหว่างผู้ทรงเช็คกับผู้ทรงเช็คคนก่อน ผู้สั่งจ่ายเช็คจะต้องรับผิดต่อผู้ทรงตามเช็คที่ตนสั่งจ่าย ผู้สั่งจ่ายจะอ้างข้อต่อสู้อันอาศัยความเกี่ยวพันเฉพาะตนกับผู้ทรงเช็คคนก่อนมาใช้ยันต่อผู้ทรงเช็คคนหลังหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1414/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้สั่งจ่ายเช็คต่อผู้ทรงเช็คคนหลัง แม้ไม่มีความคบคิดกับผู้ทรงเช็คคนก่อน
เมื่อไม่ปรากฏว่า มีการคบคิดกันฉ้อฉลระหว่างผู้ทรงเช็คกับผู้ทรงเช็คคนก่อน ผู้สั่งจ่ายเช็คจะต้องรับผิดต่อผู้ทรงตามเช็คที่ตนสั่งจ่าย ผู้สั่งจ่ายจะอ้างข้อต่อสู้อันอาศัยความเกี่ยวพันเฉพาะตนกับผู้ทรงเช็คคนก่อนมาใช้อันต่อผู้ทรงเช็คคนหลังหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1374/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องในคดีอาญา: โจทก์ฟ้องในฐานะใด - ผู้เสียหายโดยตรงหรือผู้แทนโดยชอบธรรม
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 2 ปี จำเลยฎีกา และในฎีกานั้นจำเลยได้อ้างอิงหลักฐานและเหตุผลเพื่อแสดงว่าโจทก์ฟ้องในนามของตนเอง มิใช่ฟ้องในฐานะผู้แทนโดยชอบธรรมของผู้เสียหาย ดังนี้ ฎีกาของจำเลยจึงเป็นฎีกาในข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1374/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของโจทก์: การฟ้องในฐานะตนเองหรือผู้แทนโดยชอบธรรม มีผลต่อการรับคำฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 2 ปี จำเลยฎีกา และในฎีกานั้นจำเลยได้อ้างอิงหลักฐานและเหตุผลเพื่อแสดงว่าโจทก์ฟ้องในนามของตนเอง มิใช่ฟ้องในฐานะผู้แทนโดยชอบธรรมของผู้เสียหาย ดังนี้ ฎีกาของจำเลยจึงเป็นฎีกาในข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1365/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องคดีทรัพย์มรดก: การครอบครองแทนโจทก์ของผู้เยาว์และการไม่เปลี่ยนแปลงลักษณะการยึดถือ
คำบรรยายฟ้องที่พอฟังได้ ว่าจำเลยได้ครอบครองทรัพย์มรดกแทนโจทก์ตลอดมาถึงวันฟ้อง
การที่จำเลยได้ครอบครองทรัพย์มรดกแทนโจทก์ซึ่งเป็นผู้เยาว์ตลอดมาตั้งแต่เจ้ามรดกตาย แม้ต่อมาโจทก์บรรลุนิติภาวะแล้ว จำเลยก็ยังคงครอบครองแทนต่อมาอีก โจทก์ย่อมฟ้องคดีเกิน 10 ปีนับตั้งแต่เจ้ามรดกตายได้ คดีไม่ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1748
การที่จำเลยบอกโจทก์ว่าจะไม่ให้ทรัพย์มรดกที่เจ้ามรดกให้นั้น เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยพูดไปด้วยความโมโห ไม่มีเจตนาจริงจังก็ไม่ถือว่าจำเลยได้เปลี่ยนลักษณะการยึดถือตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1381 กรณีไม่ใช่โจทก์ถูกจำเลยแย่งการครอบครอง โจทก์จึงไม่ต้องฟ้องคดีภายใน 1 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375
การที่จำเลยได้ครอบครองทรัพย์มรดกแทนโจทก์ซึ่งเป็นผู้เยาว์ตลอดมาตั้งแต่เจ้ามรดกตาย แม้ต่อมาโจทก์บรรลุนิติภาวะแล้ว จำเลยก็ยังคงครอบครองแทนต่อมาอีก โจทก์ย่อมฟ้องคดีเกิน 10 ปีนับตั้งแต่เจ้ามรดกตายได้ คดีไม่ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1748
การที่จำเลยบอกโจทก์ว่าจะไม่ให้ทรัพย์มรดกที่เจ้ามรดกให้นั้น เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยพูดไปด้วยความโมโห ไม่มีเจตนาจริงจังก็ไม่ถือว่าจำเลยได้เปลี่ยนลักษณะการยึดถือตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1381 กรณีไม่ใช่โจทก์ถูกจำเลยแย่งการครอบครอง โจทก์จึงไม่ต้องฟ้องคดีภายใน 1 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375