คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สอาด นาวีเจริญ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,016 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 773/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายสังหาริมทรัพย์มูลค่า 500 บาทขึ้นไป ถือเป็นการชำระหนี้และฟ้องบังคับคดีได้
การซื้อขายสังหาริมทรัพย์ที่มีราคา 500 บาท หรือกว่านั้นขึ้นไปถ้าได้มีการส่งมอบและรับมอบทรัพย์ที่ซื้อขายกันแล้ว ย่อมเป็นการชำระหนี้ตามความในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456 คู่สัญญาย่อมฟ้องร้องบังคับคดีกันได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 770/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรื้อถอนสิ่งรุกล้ำลำน้ำ: อำนาจบังคับคดีของศาลและเจ้าท่าตามกฎหมายเฉพาะ
เมื่อศาลได้พิพากษาลงโทษปรับจำเลยฐานปลูกสร้างอาคารล่วงล้ำในลำแม่น้ำเจ้าพระยาโดยมิได้รับอนุญาต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 385 และพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 มาตรา 117,118 กับสั่งให้จำเลยรื้อถอนอาคารที่สร้างเพิ่มเติมล่วงล้ำลงไปในลำแม่น้ำเจ้าพระยาภายในกำหนด 1 เดือนแล้ว หากจำเลยขัดขืนไม่ยอมรื้อถอนภายในกำหนดเวลาดังกล่าว เจ้าท่าหรือเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ชอบที่จะดำเนินการตามคำสั่งของศาลจัดการรื้อถอนโดยคิดเอาค่าใช้จ่ายในการนั้นแก่จำเลยได้ดังที่พระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 มาตรา118 บัญญัติไว้ หาใช่มาขอให้ศาลบังคับจำเลยโดยวิธีการอย่างอื่น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 297,298 ไม่ เพราะมิใช่เป็นการบังคับคดีแพ่ง ดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายนั้นและมิใช่เป็นการบังคับให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์สิน ค่าทดแทนหรือค่าธรรมเนียมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 249 เป็นเรื่องที่เจ้าท่าหรือเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่จะต้องเข้าดำเนินการตามคำสั่งศาลต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 751/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบของกลางแม้ไม่มีความผิดฐานพนัน: ศาลสั่งริบโพยสลากที่ใช้ในการกระทำผิดได้ แม้จำเลยพ้นผิด
ฟ้องว่า จำเลยเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้และจำหน่ายสลากกินรวบโดยไม่รับอนุญาต เมื่อศาลพิพากษายกฟ้องเพราะข้อเท็จจริงไม่พอฟังลงโทษ แต่โพยสลากกินรวบของกลางฟังได้ว่าเป็นโพยที่จำเลยอื่นซึ่งถูกศาลพิพากษาลงโทษไปแล้วใช้ในการเล่นสลากกินรวบรายนี้กัน ดังนี้ ศาลก็ย่อมสั่งริบเสียได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 15/2507)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 736/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงท้าแพ้ชนะคดีแพ่งอิงคำพิพากษาคดีอาญา ศาลต้องวินิจฉัยเฉพาะประเด็นที่ตกลงกันไว้
การที่คู่ความตกลงท้ากันต่อหน้าศาล ขอให้ถือเอาผลคำพิพากษาในคดีอาญาแต่เพียงว่าโจทก์ถูกกระสุนปืนของจำเลยหรือไม่ เป็นข้อแพ้ชนะกันนั้น หาขัดต่อกฎหมายไม่ ฉะนั้นเมื่อศาลฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์ถูกกระสุนปืนที่จำเลยยิง จำเลยก็ต้องแพ้คดีตามคำท้านั้น ส่วนคำพิพากษาคดีอาญาที่ฟังต่อไปว่า การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุไม่มีความผิดนั้น เป็นการนอกเหนือคำท้า จึงไม่มีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยถึง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 707/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสัมพันธ์นายอำเภอ-นายไปรษณีย์อนุญาต มิใช่ตัวแทนทางสัญญา จึงไม่เกิดความรับผิดในฐานะตัวแทน
เมื่อฟังว่า ตามข้อตกลงระหว่างกระทรวงมหาดไทยกับกระทรวงคมนาคมและข้อบังคับไปรษณีย์อนุญาต ผู้ใดดำรงตำแหน่งนายอำเภอที่มีไปรษณีย์อนุญาต ก็ต้องเป็นนายไปรษณีย์อนุญาตอำเภอนั้นด้วย ดังนี้ การเป็นนายไปรษณีย์อนุญาตจึงมิใช่เกิดจากสัญญาระหว่างกรมไปรษณีย์ฯกับนายอำเภอ ในการพิจารณาถึงความรับผิดระหว่างกรมไปรษณีย์ฯกับนายอำเภอนั้นๆ นายอำเภอจึงมิใช่ตัวแทนของกรมไปรษณีย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 706/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่ชอบด้วยกฎหมายเมื่ออ้างปัญหาข้อกฎหมายคลุมเครือ ไม่ระบุข้อกฎหมายที่อ้างในฎีกา
คดีอาญาที่ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่า อุทธรณ์ของโจทก์เป็นอุทธรณ์ข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์ชอบแล้ว ให้ยกอุทธรณ์คำสั่งของโจทก์เสียนั้น หากโจทก์ฎีกาคำสั่งต่อมากล่าวเพียงคลุมๆว่า อุทธรณ์ของโจทก์เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมายโดยมิได้ระบุข้อกฎหมายที่โจทก์ยกขึ้นอ้างอิงมาในฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 225 ประกอบด้วยมาตรา 193 วรรคสองแล้ว ก็เป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 705/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทำให้เสียทรัพย์สำคัญกว่าการกระทำ: ถอนเสารั้วเพื่อใช้ทางเดิม ไม่ถือเป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์
ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา358 นั้น ผู้กระทำจะต้องมีเจตนากระทำเพื่อให้ทรัพย์ของผู้อื่นเสียหาย จึงจะเป็นผิด
เพราะฉะนั้น การที่จำเลยเพียงแต่ถอนเสารั้วของโจทก์แล้วเอาไปกองไว้ เพื่อใช้ทางเดินตามที่เคยใช้เท่านั้น มิได้มีเจตนากระทำเพื่อให้ทรัพย์ของโจทก์เสียหายอย่างใด จึงยังไม่ผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 14/2507)
หมายเหตุ เคยมีฎีกาที่ 1111/2504 ว่าไม่จำเป็นต้องทำโดยแกล้งหรือทำให้เสียหายถึงขนาด ก็ผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 690/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อพิบัติในการฟ้องคดีอาญา: จำนวนเงินของกลางต่างจากที่ฟ้อง ไม่ถึงเหตุยกฟ้อง
ข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง โดยโจทก์ฟ้องว่า จำเลยเล่นการพนันไพ่ผสมสิบ ไม่ได้รับอนุญาตจับได้เงินของกลาง 21 บาท แต่บันทึกการจับกุมของพยานโจทก์ปรากฏว่าจับได้เงินเพียง 20 บาท เห็นว่า เป็นแต่เพียงปรากฏว่าจำนวนเงินของกลางตามฟ้องกับตามบันทึกการจับกุมต่างกันไม่ใช่เป็นเรื่องที่ได้ความว่าจำนวนเงินตามคำฟ้องไม่ใช่ความจริง ถึงหากความจริงเป็นดังบันทึกการจับกุม ก็เป็นข้อเท็จจริงที่ผิดเพี้ยนกับคำฟ้องเล็กน้อย ไม่ใช่เป็นเหตุสำคัญที่จะยกฟ้องโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 688/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายเล็กน้อยไม่ถึงขั้นอันตราย ศาลลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391
เตะและถีบผู้เสียหายเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายถึงถลอกและช้ำ ต้องรักษาประมาณ 2 วันจึงจะหาย ดังนี้ถือว่ายังไม่ถึงขั้นเกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้เสียหาย คงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391 เท่านั้น (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 11/2507)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 687/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินมือเปล่าและการละเมิดสิทธิในที่ดิน การพิสูจน์การครอบครองและอายุความ
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ครอบครองที่ดินมือเปล่าไว้แปลงหนึ่งสำหรับทำนาและบำรุงต้นไม้ไว้เผาถ่าน ได้ทำประโยชน์ในที่ดินนี้ตลอดมาจนทุกวันนี้ จำเลยได้บุกรุกเข้าตัดฟันต้นไม้ในที่ดินของโจทก์เพื่อทำฟืนหรือเผาถ่าน ขอให้ใช้ค่าเสียหายและห้ามเข้าเกี่ยวข้อง แล้วโจทก์แถลงรับสมดังคำให้การของจำเลยว่า เมื่อ 5-6 ปีมานี้จำเลยเข้าไปตัดฟันไม้ในที่พิพาทนี้ ฝ่ายโจทก์ไปแจ้งความ จำเลยต่อสู้ว่าที่ดินเป็นของจำเลยแล้วเรื่องก็เงียบไป คำแถลงของโจทก์ดังนี้ ไม่เป็นการตัดคำฟ้องของโจทก์ในข้อที่ว่าโจทก์เป็นผู้ครอบครองที่พิพาทมายังฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้ครอบครองมาในระหว่าง 5-6 ปีมานี้ ต้องสืบพยานกันในข้อนี้ต่อไป
of 102