พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,016 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 59/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาออกเช็คเกินจำนวนเงินในบัญชี ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เช็ค แม้ผู้ทรงเช็คยื่นเช็คล่าช้า
เช็คซึ่งให้ใช้เงินในเมืองเดียวกันกับที่ออกเช็ค ถ้าผู้ทรงเช็คไม่ยื่นเช็คแก่ธนาคารเพื่อให้ใช้เงินภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันออกเช็คนั้นก็ทำให้ผู้ทรงเช็คเสียสิทธิบางอย่างดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 990 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เท่านั้น ไม่ทำให้ผู้กระทำผิดพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ พ้นผิดไปด้วย
จำเลยที่ 2 เป็นกรรมการผู้จัดการของจำเลยที่ 1 อันเป็นบริษัทนิติบุคคลจำเลยที่ 3 เป็นกรรมการของบริษัทจำเลยที่ 2 กับที่ 3 เซ็นชื่อสั่งจ่ายเงินในเช็คในนามของบริษัทจำเลยที่ 1 ให้ใช้เงินสูงกว่าจำนวนที่มีอยู่ในบัญชีในขณะที่ออกเช็คโดยเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น ดังนี้ จำเลยที่ 2,3 ย่อมได้ชื่อว่าได้ร่วมกับจำเลยที่ 1 ออกเช็ครายนี้ จึงต้องมีความผิดในฐานเป็นตัวการด้วย
จำเลยที่ 2 เป็นกรรมการผู้จัดการของจำเลยที่ 1 อันเป็นบริษัทนิติบุคคลจำเลยที่ 3 เป็นกรรมการของบริษัทจำเลยที่ 2 กับที่ 3 เซ็นชื่อสั่งจ่ายเงินในเช็คในนามของบริษัทจำเลยที่ 1 ให้ใช้เงินสูงกว่าจำนวนที่มีอยู่ในบัญชีในขณะที่ออกเช็คโดยเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น ดังนี้ จำเลยที่ 2,3 ย่อมได้ชื่อว่าได้ร่วมกับจำเลยที่ 1 ออกเช็ครายนี้ จึงต้องมีความผิดในฐานเป็นตัวการด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1-6/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการฟ้องขับไล่เมื่อสัญญาเช่าสิ้นสุด และสถานะของผู้เช่าช่วง
คดีเดิม ชั้นบังคับคดีโจทก์ยื่นคำร้องอ้างว่าจำเลยนี้เป็นบริวารของผู้เช่า ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วมีคำสั่งว่าจำเลยมิใช่บริวารให้ยกคำร้อง โจทก์นำคดีนี้มาฟ้องจำเลยใหม่ขอให้ขับไล่ได้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ
สัญญาที่โจทก์ทำกับผู้เช่าโดยให้ผู้เช่าที่ดินปลูกตึกพิพาทแล้วเอาตึกให้ผู้อื่นเช่าได้มีกำหนด 10 ปีนั้น มีผลผูกพันระหว่างโจทก์กับผู้เช่าส่วนจำเลยจะมีสิทธิอยู่ในตึกพิพาทได้เพียงใดต้องเป็นไปตามสัญญาเช่าที่จำเลยทำไว้กับผู้เช่าเมื่อสัญญาเช่าระหว่างจำเลยกับผู้เช่าไม่ได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ย่อมมีผลใช้บังคับได้เพียง 3 ปีจำเลยอยู่มาครบ 3 ปีแล้ว โจทก์บอกเลิกสัญญาเช่าโดยชอบแล้ว โจทก์มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยได้
เมื่อข้อเท็จจริงเท่าที่ศาลชั้นต้นไปเผชิญสืบและบันทึกไว้พอวินิจฉัยได้แล้วว่า ห้องพิพาทมิใช่เคหะอันได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าฯ ศาลก็ไม่จำต้องสืบพยานบุคคลต่อไป
สัญญาที่โจทก์ทำกับผู้เช่าโดยให้ผู้เช่าที่ดินปลูกตึกพิพาทแล้วเอาตึกให้ผู้อื่นเช่าได้มีกำหนด 10 ปีนั้น มีผลผูกพันระหว่างโจทก์กับผู้เช่าส่วนจำเลยจะมีสิทธิอยู่ในตึกพิพาทได้เพียงใดต้องเป็นไปตามสัญญาเช่าที่จำเลยทำไว้กับผู้เช่าเมื่อสัญญาเช่าระหว่างจำเลยกับผู้เช่าไม่ได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ย่อมมีผลใช้บังคับได้เพียง 3 ปีจำเลยอยู่มาครบ 3 ปีแล้ว โจทก์บอกเลิกสัญญาเช่าโดยชอบแล้ว โจทก์มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยได้
เมื่อข้อเท็จจริงเท่าที่ศาลชั้นต้นไปเผชิญสืบและบันทึกไว้พอวินิจฉัยได้แล้วว่า ห้องพิพาทมิใช่เคหะอันได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าฯ ศาลก็ไม่จำต้องสืบพยานบุคคลต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2029/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะเจ้าพนักงาน: การแต่งตั้งเป็นกรรมการจัดงานพิเศษไม่ถือเป็นเจ้าพนักงานกระทำการตามหน้าที่
การที่ผู้เสียหายซึ่งเป็นพนักงานที่ดินอำเภอได้รับแต่งตั้งจากนายอำเภอให้เป็นเจ้าหน้าที่จัดงานปีใหม่ และเป็นกรรมการจำหน่ายบัตรผ่านประตูนั้น หาทำให้ผู้เสียหายมีฐานะเป็นเจ้าพนักงานกระทำการตามหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมายไม่ แต่เป็นเรื่องช่วยเหลือนายอำเภอปฏิบัติงานพิเศษเป็นการส่วนตัวเท่านั้น ฉะนั้น การพยายามทำร้ายผู้เสียหายที่ไม่ยอมให้ผ่านประตูเข้าไปในบริเวณงานโดยไม่มีบัตร จึงมีความผิดตามมาตรา 295 ประกอบด้วยมาตรา 80 ไม่ใช่มาตรา 296 ประกอบด้วยมาตรา 80
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2029/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะเจ้าพนักงาน: การแต่งตั้งเป็นกรรมการจัดงานพิเศษมิใช่การปฏิบัติหน้าที่ในราชการ
การที่ผู้เสียหายซึ่งเป็นพนักงานที่ดินอำเภอได้รับแต่งตั้งจากนายอำเภอให้เป็นเจ้าหน้าที่จัดงานปีใหม่ และเป็นกรรมการจำหน่ายบัตรผ่านประตูนั้น หาทำให้ผู้เสียหายมีฐานะเป็นเจ้าพนักงานกระทำการตามหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมายไม่ แต่เป็นเรื่องช่วยเหลือนายอำเภอปฏิบัติงานพิเศษเป็นการส่วนตัวเท่านั้นฉะนั้น การพยายามทำร้ายผู้เสียหายที่ไม่ยอมให้ผ่านประตูเข้าไปในบริเวณงานโดยไม่มีบัตร จึงมีความผิดตามมาตรา 295 ประกอบด้วยมาตรา 80 ไม่ใช่มาตรา 296 ประกอบด้วยมาตรา 80
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2014/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เสรีภาพในการทำสัญญาและการระวังประโยชน์ตนเอง คู่สัญญามีสิทธิกำหนดเงื่อนไขได้ตามความสมัครใจ
การทำสัญญานั้น จะตกลงให้ได้เปรียบเสียเปรียบแก่กันอย่างไร แล้วแต่ความสมัครใจของคู่สัญญาซึ่งจะต้องระวังรักษาประโยชน์ของตน
สัญญาที่โจทก์มีหน้าที่ส่งเสริมและจัดหาคู่ชกให้จำเลยโดยโจทก์ยังไม่คิดค่าตอบแทนจนกระทั่งจำเลยมีชื่อเสียงแล้ว จำเลยยอมให้โจทก์รับเงินรางวัลโดยหักค่าป่วยการร้อยละห้า และจะไปหาคู่ชกโดยมิได้รับความยินยอมจากโจทก์ไม่ได้ ทั้งจะย้ายสังกัดคณะมวยก็ไม่ได้นั้น หาขัดต่อกฎหมายหรือความสงบเรียบร้อยหรือคิลธรรมอันดีของประชาชนไม่
สัญญาที่โจทก์มีหน้าที่ส่งเสริมและจัดหาคู่ชกให้จำเลยโดยโจทก์ยังไม่คิดค่าตอบแทนจนกระทั่งจำเลยมีชื่อเสียงแล้ว จำเลยยอมให้โจทก์รับเงินรางวัลโดยหักค่าป่วยการร้อยละห้า และจะไปหาคู่ชกโดยมิได้รับความยินยอมจากโจทก์ไม่ได้ ทั้งจะย้ายสังกัดคณะมวยก็ไม่ได้นั้น หาขัดต่อกฎหมายหรือความสงบเรียบร้อยหรือคิลธรรมอันดีของประชาชนไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2014/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เสรีภาพในการทำสัญญาและการยินยอมโดยสมัครใจ คู่สัญญามีสิทธิกำหนดเงื่อนไขและผลประโยชน์ได้เอง
การทำสัญญานั้นจะตกลงให้ได้เปรียบเสียเปรียบแก่กันอย่างไรแล้วแต่ความสมัครใจของคู่สัญญาซึ่งจะต้องระวังรักษาประโยชน์ของตน
สัญญาที่โจทก์มีหน้าที่ส่งเสริมและจัดหาคู่ชกให้จำเลยโดยโจทก์ยังไม่คิดค่าตอบแทนจนกระทั่งจำเลยมีชื่อเสียงแล้วจำเลยยอมให้โจทก์รับเงินรางวัลโดยหักค่าป่วยการร้อยละห้า และจะไปหาคู่ชกโดยมิได้รับความยินยอมจากโจทก์ไม่ได้ ทั้งจะย้ายสังกัดคณะมวยก็ไม่ได้นั้น หาขัดต่อกฎหมายหรือความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนไม่
สัญญาที่โจทก์มีหน้าที่ส่งเสริมและจัดหาคู่ชกให้จำเลยโดยโจทก์ยังไม่คิดค่าตอบแทนจนกระทั่งจำเลยมีชื่อเสียงแล้วจำเลยยอมให้โจทก์รับเงินรางวัลโดยหักค่าป่วยการร้อยละห้า และจะไปหาคู่ชกโดยมิได้รับความยินยอมจากโจทก์ไม่ได้ ทั้งจะย้ายสังกัดคณะมวยก็ไม่ได้นั้น หาขัดต่อกฎหมายหรือความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1958/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำแจ้งความไม่ใช่คำร้องทุกข์, อายุความเบียดบังทรัพย์
คำแจ้งความของโจทก์ซึ่งได้แจ้งไว้ต่อสถานีตำรวจว่า "เมื่อวันที่ 31 ก.ค.05 เวลาประมาณ 16.00 น.เศษ นางทองใบหรือนางสมใจ ฤทธิ์ธรรยุทธร อายุ 31 ปี ภรรยาของผู้แจ้ง อยู่กันมา 10 ปีแล้ว ได้หนีออกจากบ้านไปพร้อมทั้งได้เอาของมีค่าไปด้วย คือ เงินสด 9,340 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึง พระนางพญาเลี่ยมทอง 1 องค์ และพาบุตรไปด้วย 2 คน ไม่ทราบว่าไปที่ใด ตามหาไม่พบ จึงมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐานตาม ป.จ.ว.นี้" ไม่เป็นคำร้องทุกข์ตามกฎหมายถือได้ว่าโจทก์มิได้ร้องทุกข์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1902/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขฟ้องคดีเช็ค: แม้ฟ้องอ้างมาตราไม่ครบถ้วน แต่เนื้อหาความผิดชัดเจน ศาลอนุญาตให้แก้ไขได้
หน้าฟ้องข้อหาว่า ผิดพระราชบัญญัติว่าด้วยการใช้เข็ด คำบรรยายฟ้องก็ชัดแจ้งว่าจำเลยออกเช็คสั่งจ่ายเงินโดยมีเจตนาจะมิให้มีการใช้เงินตามเช็ค แก่ในช่องกฎหมายและบทมาตราที่โจทก์ถือว่าจำเลยกระทำความผิดนั้นลงไว้แต่เพียงว่า มาตรา 3(1) (3) (5) ดังนี้ เมื่อมีพฤติการณ์แสดงว่าน่าจะเนื่องจากความพลั้งเผลอ โจทก์จึงมิได้พิมพ์หรือเขียนชื่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497 ลงข้างหน้ามาตรา และหากให้โจทก์ทำเสียให้ครบบริบูรณ์ก็ไม่ทำให้จำเลยเสียหายแล้ว ศาลย่อมสั่งให้โจทก์แก้ไขคำขอท้ายฟ้องให้ครบบริบูรณ์ (คดีนี้จำเลยให้การปฏิเสธ แล้วแถลงข้อบกพร่องนี้ก่อนสืบพยานโจทก์)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1902/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขฟ้องคดีเช็ค: แม้พิมพ์ชื่อ พ.ร.บ. ผิดพลาด แต่ฟ้องยังชอบด้วยกฎหมาย หากแก้ไขได้โดยไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ
หน้าฟ้องลงข้อหาว่า ผิดพระราชบัญญัติว่าด้วยการใช้เช็คคำบรรยายฟ้องก็ชัดแจ้งว่าจำเลยออกเช็คสั่งจ่ายเงินโดยมีเจตนาจะมิให้มีการใช้เงินตามเช็ค แต่ในช่องกฎหมายและบทมาตราที่โจทก์ถือว่าจำเลยกระทำความผิดนั้นลงไว้แต่เพียงว่า มาตรา 3(1)(3)(5) ดังนี้ เมื่อมีพฤติการณ์แสดงว่าน่าจะเนื่องจากความพลั้งเผลอ โจทก์จึงมิได้พิมพ์หรือเขียนชื่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497 ลงข้างหน้ามาตรา และหากให้โจทก์ทำเสียให้ครบบริบูรณ์ก็ไม่ทำให้จำเลยเสียหายแล้ว ศาลย่อมสั่งให้โจทก์แก้ไขคำขอท้ายฟ้องให้ครบบริบูรณ์ (คดีนี้จำเลยให้การปฏิเสธ แล้วแถลงข้อบกพร่องนี้ก่อนสืบพยานโจทก์)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1897/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เขตที่จับสัตว์น้ำต้องมีประกาศกำหนดโดยชัดเจน การเชื่อมต่อกับลำคลองไม่ทำให้บ่อกลายเป็นเขตที่จับสัตว์น้ำ
การที่บ่อก่อสัตว์น้ำของจำเลยมีช่องสำหรับสัตว์น้ำเข้าออกติดต่อกับลำคลองหน้าวัดซึ่งเป็นเขตที่คณะกรมการจังหวัดประกาศให้เป็นที่จับสัตว์น้ำประเภทที่รักษาพืชพันธ์ เช่นนี้ หาทำให้บ่อนี้กลายสภาพเป็นที่รักษาพืชพันธุ์สัตว์น้ำไปไม่