คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สอาด นาวีเจริญ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,016 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1756/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาประสงค์ต่อทรัพย์ vs. เสรีภาพ: การลงโทษฐานพยายามกระทำผิดต่อเสรีภาพ แม้ไม่มีเจตนาชิงทรัพย์
ฟ้องอ้างบทลงโทษมาตรา 339 ฐานชิงทรัพย์โดยบรรยายฟ้องด้วยว่าจำเลยใช้มีดบังคับข่มขืนใจให้ผู้เสียหายขับรถยนต์เลี้ยวเข้าไปในถนนสุขาภิบาล 1 และขู่เข็ญว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้ายโดยใช้มีดแทงทำร้ายให้เกิดอันตรายแก่ชีวิต ร่างกาย ดังนี้ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยมิได้ประสงค์ต่อทรัพย์และผู้เสียหายยังไม่ทันได้กระทำตามที่ถูกข่มขู่ ศาลย่อมลงโทษจำเลยฐานพยายามทำผิดต่อเสรีภาพตามมาตรา 309 ประกอบด้วยมาตรา 80 ได้ (นัยฎีกาที่ 1683/2500)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1697/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมายเมื่อถูกข่มขู่ด้วยอาวุธมีด ศาลฎีกาพิพากษายกฟ้อง
ผู้ตายและจำเลยโต้เถียงกันด้วยเรื่องที่จำเลยทวงเงินจากผู้ตาย จนจำเลยออกปากไล่ผู้ตายซึ่งเป็นผู้ใหญ่กว่าให้ไปเสียให้พ้น ผู้ตายก็ลุกพรวดพราดชักมีดออกจากเอวห่างจำเลย 1 วา เช่นนั้น ย่อมเป็นเหตุการณ์ที่มีเหตุสมควรจะให้บุคคลในฐานะเช่นจำเลยตกใจกลัวว่าผู้ตายจะเข้ามาฟันหรือแทงจำเลย ซึ่งเป็นการจวนตัวเป็นอันตรายที่ใกล้จะถึงตัวเต็มที จำเลยจึงชักปืนยิงไปที่ผู้ตาย 1 นัด โดยนั่งยิงอยู่ตรงนั้นเอง แล้วจำเลยก็วิ่งโดดนอกชานเรือนหนีไป ดังนี้ เป็นการที่จำเลยป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68 จำเลยจึงไม่มีความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1697/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: เหตุจวนเจียนอันตรายจากอาวุธมีด
ผู้ตายและจำเลยโต้เถียงกันด้วยเรื่องที่จำเลยทวงเงินจากผู้ตาย จนจำเลยออกปากไล่ผู้ตายซึ่งเป็นผู้ใหญ่กว่าให้ไปเสียให้พ้นผู้ตายก็ลุกพรวดพราดชักมีดออกจากเอวห่างจำเลย 1 วา เช่นนั้น ย่อมเป็นเหตุการณ์ที่มีเหตุสมควรจะให้บุคคลในฐานะเช่นจำเลยตกใจกลัวว่าผู้ตายจะเข้ามาฟันหรือแทงจำเลย ซึ่งเป็นการจวนตัวเป็นอันตรายที่ใกล้จะถึงตัวเต็มที จำเลยจึงชักปืนยิงไปที่ผู้ตาย 1 นัด โดยนั่งยิงอยู่ตรงนั้นเอง แล้วจำเลยก็วิ่งโดดนอกชานเรือนหนีไป ดังนี้ เป็นการที่จำเลยป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 68 จำเลยจึงไม่มีความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1694/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีอาญา: ผู้เสียหายต้องเป็นเจ้าของทรัพย์ที่ถูกกระทำ
โจทก์จำเลยเป็นลูกจ้างหน่วยแจ๊สแม็ค จังหวัดอุดรธานี จำเลยได้รับมอบหมายเช็คจากสำนักงานกรุงเทพฯเพื่อให้จำเลยจ่ายให้โจทก์เป็นเงินเดือนที่โจทก์ทำงานเป็นลูกจ้างเมื่อจำเลยไม่ได้จ่ายให้แก่โจทก์ โจทก์ยังไม่ได้รับไป เช็คนั้นก็ยังไม่เป็นของโจทก์ เมื่อโจทก์ยังมิได้เป็นเจ้าของเช็ค การกระทำที่โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตยักยอกเช็คของโจทก์ไป จึงไม่ใช่เป็นเรื่องที่จำเลยกระทำต่อทรัพย์ของโจทก์ ดังนี้ โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายตามกฎหมาย และไม่มีอำนาจฟ้อง ศาลชอบที่จะยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1694/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีอาญา: ผู้เสียหายต้องเป็นเจ้าของทรัพย์ที่ถูกกระทำ
โจทก์จำเลยเป็นลูกจ้างหน่วยแจ๊สแม็ค จังหวัดอุดรธานี จำเลยได้รับมอบหมายเช็คจากสำนักงานกรุงเทพฯเพื่อให้จำเลยจ่ายให้โจทก์เป็นเงินเดือนที่โจทก์ทำงานเป็นลูกจ้าง เมื่อจำเลยไม่ได้จ่ายให้แก่โจทก์ โจทก์ยังไม่ได้รับไป เช็คนั้นก็ยังไม่เป็นของโจทก์เมื่อโจทก์ยังมิได้เป็นเจ้าของเช็ค การกระทำที่โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตยักยอกเช็คของโจทก์ไป จึงไม่ใช่เป็นเรื่องที่จำเลยกระทำต่อทรัพย์ของโจทก์ ดังนี้ โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายตามกฎหมาย และไม่มีอำนาจฟ้อง ศาลชอบที่จะยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1690/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหลอกลวงบุคคลจำนวนจำกัดไม่ถึงขั้นเป็นหลอกลวงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343
ฟ้องของโจทก์บรรยายแต่เพียงว่าจำเลยหลอกลวงผู้เสียหาย 4 คนกับหลอกลวงคนอื่นอีก 7 คน ผู้ถูกหลอกลวงส่งเงินให้แก่จำเลย มิได้กล่าวให้เห็นว่าการหลอกลวงของจำเลยเป็นการหลอกลวงประชาชน เพียงแต่กล่าวว่าหลอกลวงบุคคล 11 คนเท่านั้น การหลอกลวงบุคคล 11 คน ไม่พอจะถือว่าเป็นการหลอกลวงประชาชนอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343
เมื่อคำบรรยายฟ้องของโจทก์ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 343แล้ว ก็ไม่มีทางลงโทษจำเลยตามมาตรา 343 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1690/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหลอกลวงบุคคลทั่วไปไม่ถือเป็นการหลอกลวงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343
ฟ้องของโจทก์บรรยายแต่เพียงว่าจำเลยหลอกลวงผู้เสียหาย 4 คน กับหลอกลวงคนอื่นอีก 7 คน ผู้ถูกหลอกลวงส่งเงินให้แก่จำเลย มิได้กล่าวให้เห็นว่าการหลอกลวงของจำเลยเป็นการหลอกลวงประชาชน เพียงแต่กล่าวว่าหลอกลวงบุคคล 11 คน เท่านั้น การหลอกลวงบุคคล 11 คน ไม่พอจะถือว่าเป็นการหลอกลวงประชาชนอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 343
เมื่อคำบรรยายฟ้องของโจทก์ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 343 แล้ว ก็ไม่มีทางลงโทษจำเลยตามมาตรา 343 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1647/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์โดยการครอบครอง และการใช้สำเนาเอกสารมหาชนเป็นหลักฐาน
บัญชีบันทึกคำร้องทุกข์ของประชาชนและคำเปรียบเทียบของพนักงานผู้มีหน้าที่เป็นหลักฐานเก็บไว้ที่อำเภอ เป็นเอกสารมหาชน เมื่ออำเภอได้ส่งสำเนาเอกสารซึ่งมีพนักงานเจ้าหน้าที่รับรองถูกต้องไปยังศาลตามที่ถูกอ้าง ก็ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าสำเนาเอกสารที่ส่งไปนั้นเป็นของแท้จริงและถูกต้อง ไม่จำเป็นต้องอ้างเจ้าหน้าที่ที่รับรองสำเนานั้นมาเป็นพยานเบิกความรับรองอีก
เจ้าของที่ดินเดิมกับพวกได้ครอบครองที่พิพาทซึ่งเป็นที่ข้างเคียงมาโดยความสงบและเปิดเผยอย่างเป็นเจ้าของติดต่อกันมาเกินกว่า 10 ปี จึงได้กรรมสิทธิ์โดยทางครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 จำเลยได้รับโอนที่ดินมารวมทั้งที่พิพาทจากผู้ครอบครองโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทน และได้ครอบครองที่พิพาทสืบต่อมาจากผู้ครอบครอง จึงยกอายุความครอบครองขึ้นยันโจทก์ผู้เป็นเจ้าของที่พิพาทได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1647/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์และการรับรองเอกสารมหาชน
บัญชีบันทึกคำร้องทุกข์ของประชาชนและคำเปรียบเทียบของพนักงานผู้มีหน้าที่เป็นหลักฐานเก็บไว้ที่อำเภอ เป็นเอกสารมหาชน เมื่ออำเภอได้ส่งสำเนาเอกสารซึ่งมีพนักงานเจ้าหน้าที่รับรองถูกต้องไปยังศาลตามที่ถูกอ้าง ก็ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าสำเนาเอกสารที่ส่งไปนั้นเป็นของแท้จริงและถูกต้อง ไม่จำเป็นต้องอ้างเจ้าหน้าที่ที่รับรองสำเนานั้นมาเป็นพยานเบิกความรับรองอีก
เจ้าของที่ดินเดิมกับพวกได้ครอบครองที่พิพาทซึ่งเป็นที่ข้างเคียงมาโดยความสงบและเปิดเผยอย่างเป็นเจ้าของติดต่อกันมาเกินกว่า 10 ปี จึงได้กรรมสิทธิ์โดยทางครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 จำเลยได้รับโอนที่ดินมารวมทั้งที่พิพาทจากผู้ครอบครองโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทน และได้ครอบครองที่พิพาทสืบต่อมาจากผู้ครอบครอง จึงยกอายุความครอบครองขึ้นยันโจทก์ผู้เป็นเจ้าของที่พิพาทได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1635/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การออกโฉนดทับที่ดินเดิม และผลของการซื้อขายโดยไม่สุจริต รวมถึงการเพิกถอนนิติกรรม
จำเลยที่ 1 - 2 ออกโฉนดทับที่ซึ่งโจทก์ครอบครองอยู่ก่อน การออกโฉนดทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำเลยที่ 1 - 2 จึงไม่ได้กรรมสิทธิ์ จำเลยที่ 3 - 4 รับจำนองที่พิพาทโดยไม่สุจริตต่อมาจำเลยที่ 3 - 4 ฟ้องบังคับจำนองและซื้อที่พิพาทจากการขายทอดตลาดของศาล ย่อมเป็นการซื้อโดยไม่สุจริต ต่อมาจำเลยที่ 3 โอนทะเบียนยกที่พิพาทให้จำเลยที่ 5 - 6 โดยเสน่หา โจทก์ย่อมขอให้ศาลเพิกถอนนิติกรรมได้
การที่จำเลยขอให้ออกและรับโฉนดที่พิพาทโดยโจทก์ไม่รู้ และการที่จำเลยฟ้องขับไล่โจทก์จากที่พิพาท ไม่ใช่การแย่งการครอบครองที่พิพาท
of 102