พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,016 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 281/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดุลพินิจศาลในการนับโทษจำคุกต่อจากคดีอื่น โดยเฉพาะเมื่อจำเลยได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิตแล้ว
การจะนับโทษจำคุกจำเลยต่อจากคดีเรื่องอื่นหรือไม่นั้นเป็นดุลพินิจของศาล หากปรากฏว่าจำเลยได้รับโทษในคดีเรื่องอื่นถึงจำคุกตลอดชีวิตอยู่แล้ว โดยปกติเมื่อไม่มีเหตุพิเศษศาลก็ไม่นับโทษต่อให้(ประชุมใหญ่ ครั้งที่9/2505)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 281/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดุลยพินิจศาลในการนับโทษจำคุกต่อจากคดีก่อน โดยเฉพาะเมื่อจำเลยได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิตแล้ว
การจะนับโทษจำคุกจำเลย ต่อจากคดีเรื่องอื่นหรือไม่นั้น เป็นดุลยพินิจของศาล หากปรากฏว่า จำเลยได้รับโทษในคดีเรื่องอื่นถึงจำคุกตลอดชีวิตอยู่แล้ว โดยปกติเมื่อไม่มีเหตุพิเศษ ศาลก็ไม่นับโทษต่อให้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 9/2505)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 178/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทิ้งฟ้องเนื่องจากไม่ส่งหมายนัดและสำเนาฟ้องอุทธรณ์
การที่ผู้อุทธรณ์ไม่นำส่งหมายนัด และสำเนาฟ้องอุทธรณ์ให้แก่อีกฝ่ายหนึ่งจะเป็นโดยจงใจหรือหลงลืมก็เป็นการทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 178/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทิ้งฟ้องอุทธรณ์เนื่องจากไม่นำส่งเอกสาร หมายถึงการสละสิทธิ์ในการอุทธรณ์
การที่ผู้อุทธรณ์ไม่นำส่งหมายนัดและสำเนาฟ้องอุทธรณ์ให้แก่อีกฝ่ายหนึ่งจะเป็นไปโดยจงใจหรือหลงลืมก็เป็นการทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความแพ่ง มาตรา 174,
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 170/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบรถยนต์ของผู้เช่าซื้อที่ใช้ในการกระทำผิดป่าไม้ แม้เจ้าของมิได้รู้เห็นเป็นใจ
รถยนต์ที่จำเลยใช้บรรทุกไม้สักยังมิได้แปรรูป ไม่มีตราค่าภาคหลวงหรือรอยตราของรัฐบาลประทับ (อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 - มาตรา 69) ซึ่งจะต้องถูกริบตามมาตรา 74 และพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่4) พ.ศ. 2503 มาตรา 18 นั้น เมื่อปรากฏว่ารถยนต์นั้นจำเลยเช่าซื้อมาจากผู้ร้องชำระเงินยังไม่ครบ กรรมสิทธิ์จึงยังเป็นของผู้ร้องอยู่ การริบทรัพย์เป็นการลงโทษอย่างหนึ่ง เมื่อปรากฏว่าผู้ร้องมิได้มีส่วนกระทำหรือรู้เห็นด้วย ก็ต้องคืนรถยนต์ให้แก่ผู้ร้องไป เพราะพระราชบัญญัติป่าไม้ไม่มุ่งหมายที่จะลงโทษบุคคลอื่นที่มิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำผิดนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 170/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์รถยนต์ของผู้ให้เช่าซื้อเมื่อผู้เช่าซื้อกระทำผิดกฎหมายป่าไม้ ผู้ให้เช่าซื้อไม่ต้องรับผิด
รถยนต์ที่จำเลยใช้บรรทุกไม้สัก อันยังมิได้แปรรูป.ไม่มีตราค่าภาคหลวง อันเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ 2484มาตรา 69 นั้นเมื่อปรากฏว่าเป็นรถยนต์ที่จำเลยเช่าซื้อมาจากผู้ร้อง ชำระเงินยังไม่ครบกรรมสิทธิ์จึงยังเป็นของผู้ร้องอยู่ผู้ร้องมิได้รู้เห็นในการกระทำผิดของจำเลยศาลต้องคืนรถยนต์ให้แก่ผู้ร้องไป เพราะ พระราชบัญญัติป่าไม้ไม่มุ่งหมายที่จะลงโทษบุคคลอื่นที่มิได้รู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิดด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 165/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความหมายของคำว่า 'บังอาจ' ในความผิดฐานมีแสตมป์สุราปลอม เพียงพอต่อการฟ้องคดีอาญา
ฟ้องบรรยายว่า จำเลยได้บังอาจมีแสตมป์สุราปลอมและได้เสนอขายแสตมป์สุราปลอมดังกล่าว อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 257 นั้น คำว่าบังอาจพอเป็นที่เข้าใจว่าจำเลยมีแสตมป์สุราปลอมโดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นของปลอม ย่อมเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 165/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา มาตรา 257: คำว่า 'บังอาจ' แสดงเจตนา
ฟ้องบรรยายว่า จำเลยได้บังอาจมีแสตมป์สุราปลอมและได้เสนอขายแสตมป์สุราปลอมดังกล่าว อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 257 นั้นคำว่า 'บังอาจ'พอเป็นที่ให้เข้าใจว่า จำเลยมีแสตมป์สุราปลอมโดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นของปลอมย่อมเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 150/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาปัญหาข้อเท็จจริง: การโต้แย้งเจตนาทุจริตและอำนาจฟ้องร้องในคดีเช็ค
จำเลยฎีกาว่าจำเลยไม่มีเจตนาทุจริตออกเช็คจะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คและกล่าวถึงข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่แสดงว่า โจทก์ร่วมไม่มีอำนาจที่จะร้องทุกข์ดำเนินคดีได้ ฎีกาดังกล่าวเป็นการอ้างอิงพยานหลักฐานว่าควรจะฟังพยานหลักฐานดังที่จำเลยชี้แจงฎีกาของจำเลยจึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 24/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่ชัดเจน: เหตุผลการไม่อนุมัติทรัพย์มรดกทั้งหมด และการอ้างอิงคำให้การแทนข้อกฎหมาย
ฎีกาที่บรรยายว่า 'โจทก์ไม่ควรได้รับทรัพย์รายพิพาททั้งหมดดังข้อต่อสู้ของจำเลย' เพียงเท่านี้มิได้กล่าวมาให้ชัดแจ้งว่าโจทก์ไม่ควรได้รับทรัพย์มรดกทั้งหมดเพราะเหตุใด หรือโจทก์ควรได้รับเท่าใด นั้น เป็นฎีกาที่มิได้ยกข้อเท็จจริง หรือข้อกฎหมายขึ้นอ้างอิงโดยชัดแจ้งในฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 และจะไปอ้างอิงคำให้การมาเป็นส่วนหนึ่งของฎีกาไม่ได้ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัยในข้อนี้ให้