พบผลลัพธ์ทั้งหมด 322 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1214/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแซงรถที่จอดนิ่งไม่ผิด พ.ร.บ.จราจร มาตรา 11 เน้นการแซงรถที่กำลังวิ่ง
พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2477 มาตรา 11 มีความมุ่งหมายที่จะห้ามขับรถแซงขึ้นหน้ารถคันอื่นซึ่งกำลังแล่นอยู่ตรงที่ที่ไม่ปลอดภัยดังที่ระบุไว้ คือ ตรงทางร่วม ทางแยกหัวเลี้ยวฯลฯ คำว่า "เดินรถขึ้นหน้ารถคันอื่น" ในมาตรานี้หมายความว่า ขับรถแซงขึ้นหน้ารถที่กำลังแล่นอยู่ด้วยกัน
การที่จำเลยขับรถหลีกผ่านรถบรรทุกดินที่จอดนิ่งอยู่ขึ้นไปนั้น ไม่เป็นการต้องห้ามตามมาตรา 11 นี้
(ฎีกาที่ 1988/2497 ก็วินิจฉัยว่ามาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบกนั้นหมายความถึงการแซงขึ้นหน้ารถคันอื่นที่กำลังแล่นอยู่ มิใช่แล่นหลีกรถที่จอดอยู่ขึ้นไป)
การที่จำเลยขับรถหลีกผ่านรถบรรทุกดินที่จอดนิ่งอยู่ขึ้นไปนั้น ไม่เป็นการต้องห้ามตามมาตรา 11 นี้
(ฎีกาที่ 1988/2497 ก็วินิจฉัยว่ามาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบกนั้นหมายความถึงการแซงขึ้นหน้ารถคันอื่นที่กำลังแล่นอยู่ มิใช่แล่นหลีกรถที่จอดอยู่ขึ้นไป)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1210/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำไม้เพื่อบำรุงป่าและข้อยกเว้นการขออนุญาตเคลื่อนย้ายไม้ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้
จำเลยเป็นผู้รับจ้างทำไม้จากป่าไม้เขตจังหวัดสุราษฏร์ธานี อันเป็นการทำไม้เพื่อประโยชน์บำรุงป่าในทางวิชาการตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 17 (1) จึงเป็นการทำไม้โดยไม่ต้องได้รับอนุญาตตาม มาตรา 11 และไม้รายนี้เป็นไม้ที่ทำออกโดยไม้ต้องขอรับ อนุญาต มาตรา 38 (2) เมื่อจำเลยนำไม้ ยังไม่ทันพ้นด่านป่าไม้ด่านแรก แม้จำเลยจะไม่มีในเบิกทางของพนักงานเจ้าหน้าที่ จำเลยก็ยังไม่มีผิดตามมาตรา 39
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1210/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำไม้เพื่อประโยชน์บำรุงป่า ไม่ต้องขออนุญาตเคลื่อนย้าย หากยังไม่พ้นด่านป่าไม้แรก
จำเลยเป็นผู้รับจ้างทำไม้จากป่าไม้เขตจังหวัดสุราษฎร์ธานีอันเป็นการทำไม้เพื่อประโยชน์บำรุงป่าในทางวิชาการตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 17(1) จึงเป็นการทำไม้โดยไม่ต้องได้รับอนุญาตตามมาตรา 11 และไม้รายนี้เป็นไม้ที่ทำออกโดยไม่ต้องขอรับอนุญาตตามมาตรา 38(2) เมื่อจำเลยนำไม้ยังไม่ทันพ้นด่านป่าไม้ด่านแรกแม้จำเลยจะไม่มีใบเบิกทางของพนักงานเจ้าหน้าที่ จำเลยก็ยังไม่มีผิดตามมาตรา 39
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1051/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ด้วยข้าวเปลือกแทนเงิน และการระงับหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 321
จำเลยให้การรับว่า ได้ทำสัญญายืมเงิน โจทก์จริง แต่โจทก์ได้ยอมรับชำระหนี้ ด้วยข้าวเปลือก แทนเงินตามสัญญายืม ดังนี้ หนี้เป็นอันระงับสิ้นไปตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 321 จำเลยย่อมสืบได้ ไม่ต้องห้ามตาม มาตรา 653 วรรค 2 (อ้างฎีกาที่ 905/2497)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1051/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ด้วยข้าวเปลือกแทนเงิน และผลของการระงับหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 321
จำเลยให้การรับว่า ได้ทำสัญญายืมเงินโจทก์จริง แต่โจทก์ได้ยอมรับชำระหนี้ด้วยข้าวเปลือกแทนเงินตามสัญญายืม ดังนี้ หนี้เป็นอันระงับสิ้นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 321 จำเลยย่อมสืบได้ ไม่ต้องห้ามตามมาตรา 653 วรรคสอง (อ้างฎีกาที่ 905/2497)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1012/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความอำนาจออกประกาศของสัตวแพทย์ตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ ต้องเป็นหนังสือ เพื่อให้มีหลักฐานชัดเจนและเป็นธรรมต่อประชาชน
ออกประกาศหรือสั่งเป็นหนังสือ ในมาตรา 18 (1) แห่งพระราชบัญญัติ โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2499 คำว่า ออกประกาศ หมายความว่าออกประกาศเป็นหนังสือ หาใช่ออกประกาศด้วยวาจาก็ได้ไม่ เพราะมาตรา นี้มุ่งบังคับเอากับประชาชน ถ้าตีความว่า ออกประกาศด้วยวาจาก็ใช้ได้ ก็ย่อมปราศจากหลักฐานและเป็นช่องทางให้โต้เถียงกันได้
สัตวแพทย์ประกาศเป็นหนังสือกำหนดเขตโรคระบาดชั่วคราว และประกาศด้วยวาจาให้จำเลยและเจ้าของสัตว์แจ้งจำนวน โค กระบือ และให้นำโคกระบือมาให้ตรวจและฉีดยา จำเลยฝ่าฝืน ยังไม่เป็นความผิดเพราะสัตวแพทย์ ประกาศด้วยวาจามิใช่เป็นหนังสือ
สัตวแพทย์ประกาศเป็นหนังสือกำหนดเขตโรคระบาดชั่วคราว และประกาศด้วยวาจาให้จำเลยและเจ้าของสัตว์แจ้งจำนวน โค กระบือ และให้นำโคกระบือมาให้ตรวจและฉีดยา จำเลยฝ่าฝืน ยังไม่เป็นความผิดเพราะสัตวแพทย์ ประกาศด้วยวาจามิใช่เป็นหนังสือ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1012/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประกาศข้อกำหนดทางกฎหมายต้องทำเป็นหนังสือ เพื่อให้มีหลักฐานตรวจสอบได้และเป็นธรรมต่อประชาชน
"ออกประกาศหรือสั่งเป็นหนังสือ"ในมาตรา 18(1) แห่งพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2499 คำว่า"ออกประกาศ"หมายความว่าออกประกาศเป็นหนังสือ หาใช่ออกประกาศด้วยวาจาก็ได้ไม่ เพราะมาตรานี้มุ่งบังคับเอากับประชาชน ถ้าตีความว่าออกประกาศด้วยวาจาก็ใช้ได้ ก็ย่อมปราศจากหลักฐานและเป็นช่องทางให้โต้เถียงกันได้
สัตวแพทย์ประกาศเป็นหนังสือกำหนดเขตโรคระบาดชั่วคราวและประกาศด้วยวาจาให้จำเลยและเจ้าของสัตว์แจ้งจำนวน โค กระบือ และให้นำโคกระบือมาให้ตรวจและฉีดยา จำเลยฝ่าฝืน ยังไม่เป็นความผิดเพราะสัตวแพทย์ประกาศด้วยวาจามิใช่เป็นหนังสือ
สัตวแพทย์ประกาศเป็นหนังสือกำหนดเขตโรคระบาดชั่วคราวและประกาศด้วยวาจาให้จำเลยและเจ้าของสัตว์แจ้งจำนวน โค กระบือ และให้นำโคกระบือมาให้ตรวจและฉีดยา จำเลยฝ่าฝืน ยังไม่เป็นความผิดเพราะสัตวแพทย์ประกาศด้วยวาจามิใช่เป็นหนังสือ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1011/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความประมาททางขับขี่และการตายที่เกิดจากเหตุต่อเนื่อง ศาลฎีกาชี้ความตายเป็นผลโดยตรงจากความประมาท
เมื่อจำเลยขับขี่รถจักรยานยนต์เข้าชนรถ 3 ล้อ โดยประมาทแล้ว ผู้ตายซึ่งโดยสารมาในรถ 3 ล้อ ก็ตกกระเด็นลงไปล้มนอนอยู่ที่ทางรถราง พอดีกับรถรางแล่นมาถึงแล้วทับครูดไปในระยะ 1 วา รถรางจึงสามารถหยุดนิ่งได้ ทำให้ผู้ตายได้รับบาดเจ็บมากและถึงตายเพราะพิษบาดแผลนั้น โดยรถรางมิได้แล่นมาเร็วผิดธรรมดา กรณีเช่นนี้ถือว่า ความตายของผู้ตายเป็นผลโดยตรงจากความประมาทของจำเลย จำเลยย่อมมีความผิดฐานทำให้คนตายโดยประมาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1011/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความประมาททางขับขี่และการตายที่เชื่อมโยง: การพิสูจน์ความสัมพันธ์เชิงเหตุและผล
เมื่อจำเลยขับขี่รถจักรยานยนต์เข้าชนรถสามล้อ โดยประมาทแล้ว ผู้ตายซึ่งโดยสารมาในรถสามล้อก็ตกกระเด็นลงไปล้มนอนอยู่ที่ทางรถราง พอดีกับรถรางแล่นมาถึงแล้วทับครูดไปในระยะ 1 วารถรางจึงสามารถหยุดนิ่งได้ ทำให้ผู้ตายได้รับบาดเจ็บมากและถึงตายเพราะพิษบาดแผลนั้น โดยรถรางมิได้แล่นมาเร็วผิดธรรมดา กรณีเช่นนี้ถือว่า ความตายของผู้ตายเป็นผลโดยตรงจากความประมาทของจำเลย จำเลยย่อมมีความผิดฐานทำให้คนตายโดยประมาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1000/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะผู้เช่าห้องแถวบนที่ดินเช่าช่วง: บริวารจำเลยหรือไม่
โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินทำสัญญาให้เช่าที่ดินเพื่อให้เช่าช่วงปลูกห้องแถว ผู้เช่าที่ดินได้โดยการเช่าที่ดินกันต่อมาจนถึงจำเลย ภายหลังโจทก์จำเลยเป็นความกัน ศาลพิพากษาให้จำเลยส่งมอบที่ดินซึ่งจำเลยเช่าคืนให้โจทก์ ผู้เช่าห้องแถวย่อมไม่ใช่เป็นผู้เช่าช่วงที่ดิน ถือว่าเป็นบริวารของจำเลย