คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สุทธิวาทนฤพุฒิ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 322 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 153/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับใช้กฎหมายคนเข้าเมืองย้อนหลัง: การกระทำก่อนมีกฎหมายไม่มีความผิด
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรไทยเมื่อ พ.ศ. 2463 โดยมิได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2493 ปรากฏว่าพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองได้ประกาศในประเทศไทย เป็นครั้งแรกใน พ.ศ. 2470 จำเลยเข้ามาในราชอาณาจักรไทย เมื่อ พ.ศ. 2493 ซึ่งยังไม่มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติคนเข้าเมืองในขณะนั้น จำเลยจึงไม่มีหน้าที่ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน การเข้ามารในราชอาณาจักรไทยของจำเลยในปี พ.ศ. 2463 เป็นการเข้าได้โดยเสรี จำเลยย่อมไม่มีความผิดตามฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1466/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องร้องคดีละเมิดและการเปลี่ยนแปลงกฎหมายอาญาที่ใช้บังคับ
โจทก์ฟ้องคดีแพ่งขอให้จำเลยชดใช้เงินของโจทก์ที่จำเลยยักยอกเอาไปตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2494 อันเป็นมูลความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 131 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้ในขณะกระทำผิดและมีอายุความฟ้องร้อง 20 ปี ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 78(1) แต่ต่อมากฎหมายลักษณะอาญาได้ถูกยกเลิก และมีประมวลกฎหมายอาญาใช้บังคับแทน มูลความผิดของจำเลย ต้องตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ซึ่งใช้ในภายหลังและมีอัตราโทษก่อนแก้ไขเบากว่าอัตราโทษตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 131 อันเป็นกฎหมายซึ่งเป็นคุณแก่จำเลยซึ่งมีอายุความฟ้องร้อง 15 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 95(2) อายุความฐานละเมิดในทางแพ่งจึงต้องถืออายุความตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 95(2) ดังบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 วรรคสอง แม้จำเลยผู้ยักยอกจะยังมิได้ถูกฟ้องในคดีอาญาก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1466/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องคดีแพ่งที่เกี่ยวข้องกับความผิดอาญา การใช้กฎหมายที่เปลี่ยนแปลง และการพิสูจน์ความรับผิด
โจทก์ฟ้องคดีแพ่งขอให้จำเลยชดใช้เงินของโจทก์ที่จำเลยยักยอกเอาไปตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2494 อันเป็นมูลความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 121 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้ในขณะกระทำผิดและมีอายุความฟ้องร้อง 20 ปี ตามกฎหมายลักษณะอาญามาตา 78 (1) แต่ต่อมากฎหมายลักษณะอาญาได้ถูกยกเลิกและมีประมวลกฎหมายอาญาใช้บังคับแทนมูลความผิดของจำเลยต้องตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ซึ่งใช้ในภายหลังและมีอัตราโทษก่อนแก้ไขเบากว่าอัตราโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 131 อันเป็นกฎหมายซึ่งเป็นคุณแก่จำเลยซึ่งมีอายุความฟ้องร้อง 15 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 95 (2) อายุความฐานละเมิดในทางแพ่งจึงต้องถืออายุความตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 95 (2) ดังบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 วรรค 2 แม้จำเลยผู้ยักยอกจะยังมิได้ถูกฟ้องในคดีอาญาก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1311/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินจากสัญญาจะขายหลายฉบับ ศาลฎีกาพิพากษาว่าคำพิพากษาตามยอมความไม่แสดงกรรมสิทธิ์
คำพิพากษาตามยอมความว่าจำเลยยอมโอนกรรมสิทธิ์ให้ตามสัญญาจะขายนั้น ไม่ใช่คำพิพากษาที่แสดงหรือวินิจฉัยถึงกรรมสิทธิ์ที่ดิน
จำเลยทำสัญญาจะขายที่ดินให้คนหนึ่งแล้ว มาทำสัญญาจะขายที่ดินนั้นให้อีกคนหนึ่ง ผู้ซื้อคนหลังฟ้องขอให้บังคับโอนที่ดินก่อน แล้วผู้ซื้อคนแรกจึงฟ้องขอให้โอนโดยจำเลยทำยอมความไม่สู้คดี ดังนี้ ไม่ขัดข้องที่ศาลจะพิพากษาให้จำเลยโอนที่ดินให้ผู้ซื้อคนหลัง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1311/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลของคำพิพากษาตามยอมความและการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน: สิทธิของผู้ซื้อรายหลัง
คำพิพากษาตามยอมความว่า จำเลยยอมโอนกรรมสิทธิ์ให้ตามสัญญาจะขายนั้น ไม่ใช่คำพิพากษาที่แสดงหรือวินิจฉัยถึงกรรมสิทธิ์ที่ดิน
จำเลยทำสัญญาขายที่ดินให้คนหนึ่งแล้ว มาทำสัญญาจะขายที่ดินนั้นให้อีกคนหนึ่ง ผู้ซื้อคนหลังฟ้องขอให้บังคับโอนที่ดินก่อน แล้วผู้ซื้อคนแรกจึงฟ้องขอให้โอนโดยจำเลยทำยอมความไม่สู้คดี ดังนี้ ไม่ขัดข้องที่ศาลจะพิพากษาให้จำเลยโอนที่ดินให้ผู้ซื้อคนหลัง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1227/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลียนเครื่องหมายการค้า รูปจรเข้ หม้ออลูมิเนียม ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 274
โจทก์ร่วมจดทะเบียนเครื่องหมายการค้ารูปจรเข้ตัวเดียวใช้แก่หม้ออลูมิเนียมมาแต่ปี พ.ศ.2501 โดยรูปจรเข้อยู่ในรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนอย่างเดียวกับของโจทก์ร่วมและจรเข้ตัวกลางของจำเลยมีขนาดใกล้เคียงกับของโจทก์ร่วม ทั้งรูปจรเข้อยู่ในรูปลูกไข่มีตัวอักษรโรมันล้อมลูกไข่ไว้เหมือนกับส่วนประกอบเครื่องหมายของโจทก์ร่วม แม้จะผิดกันบ้างที่ของโจทก์ร่วมมีรูปดาว 2 ดาว ซึ่งจำเลยไม่มีและตัวอักษรโรมันอ่านผิดกันก็ดี การกระทำของจำเลยเป็นการเลียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์ร่วมที่จดทะเบียนแล้วเพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นเครื่องหมายการค้าของโจทก์ร่วมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 274 (ประชุมใหญ่ ครั้งที่12/2504)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1187/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินมรดก: สิทธิเจ้าของรวม, สัญญาไม่เป็นโมฆะ แต่บังคับโอนทั้งหมดไม่ได้
ที่ดินพิพาทเป็นกองมรดกยังมิได้แบ่งปันกันระหว่างทายาทหลายคน ทายาทคนหนึ่งไม่มีสิทธิที่จะเอาไปขายทั้งหมดโดยลำพังได้ ถ้าผู้ซื้อฟ้องศาลขอให้บังคับทายาทผู้นั้นโอนขายที่ดินพิพาททั้งหมดโดยไม่ทราบว่าส่วนของทายาทผู้นั้นมีเนื้อที่เท่าใด ศาลย่อมไม่อาจบังคับให้ขายให้แก่ผู้ซื้อได้ แต่สัญญาจะซื้อขายนั้นไม่เป็นโมฆะ
พระบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7 ในสมัยสมบูรณาญาสิทธิราชซึ่งทรงให้จัดแบ่งมรดกของเจ้ามรดกให้แก่ทายาทตามส่วน ย่อมใช้บังคับได้ตามกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1187/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายที่ดินมรดกก่อนแบ่ง: สัญญาไม่เป็นโมฆะ แต่ศาลไม่บังคับโอนทั้งหมด
พระบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7ในสมัยสมบูรณาญาสิทธิราช ซึ่งทรงให้จัดแบ่งมรดกของเจ้ามรดกให้แก่ทายาทตามส่วน ย่อมใช้บังคับได้ตามกฎหมาย
ทายาทคนหนึ่งเอาที่ดินกองมรดกยังมิได้แบ่งปันกันระหว่างทายาทไปขายทั้งหมดโดยไม่ได้รับความยินยอมจากทายาทอื่นผู้ซื้อจะขอให้ศาลบังคับทายาทผู้ขายโอนขายที่ดินกองมรดกทั้งหมด ศาลย่อมไม่อาจบังคับให้ได้ แต่สัญญาจะซื้อขายนั้นไม่เป็นโมฆะ ศาลจึงไม่ตัดสิทธิที่จะไปว่ากล่าวเอาแก่ทายาทผู้ขายในส่วนอันเป็นของทายาทผู้ขายนั้นโดยเฉพาะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1171/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษาเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดินที่เป็นมรดก: ศาลอุทธรณ์ฟังเป็นมรดก ไม่เป็นการพิพากษานอกฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่า ที่พิพาทเป็นของโจทก์ ห้ามจำเลยเกี่ยวข้อง จำเลยต่อสู้ว่าเป็นของจำเลย แต่ศาลพิพากษาว่าที่พิพาทยังเป็นมรดกของย่าจำเลยอยู่ โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลย ดังนี้ ไม่เป็นการพิพากษานอกฟ้อง นอกประเด็นข้อต่อสู้ หากแต่เป็นการฟังข้อเท็จจริงในคดีว่าที่พิพาทเป็นมรดกของย่าจำเลย ซึ่งหมายความว่าศาลไม่ฟังว่าเป็นของโจทก์และไม่เป็นของจำเลย ดังโจทก์จำเลยโต้เถียงกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1115/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ใบมอบอำนาจไม่ติดอากรตั้งแต่แรก ใช้เป็นหลักฐานได้หากติดอากรครบถ้วนในชั้นพิจารณา
ใบมอบอำนาจให้ฟ้องคดีแทน ซึ่งไม่ได้ปิดอากรแสตมป์บริบูรณ์มาแต่แรกนั้น เมื่อได้มีการปิดอากรแสตมป์ในชั้นพิจารณาครบถ้วนเมื่อสืบพยานโจทก์เสร็จก่อนสืบจำเลยแล้ว ย่อมใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีได้ไม่จำต้องเสียอากรเพิ่มตามมาตรา 113,114 แห่งประมวลรัษฎากร
of 33