คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สุทธิวาทนฤพุฒิ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 322 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 515/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประกอบโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้ไม่มีกฎกระทรวงออกใช้ ก็ยังมีความผิดตามกฎหมาย
แม้ขณะจำเลยตั้งโรงงานประกอบเครื่องขีดไฟโดยไม่ได้รับอนุญาตจะยังไม่มีกฎกระทรวงออกใช้ตามเก็บภาษีเครื่องขีดไฟฯ พ.ศ.2476 ก็ตามก็ไม่ทำให้จำเลยพ้นผิดไปได้ เพราะตามมาตรา 6,8, แห่งพระราชบัญญตินี้ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมีอำนาจออกกฎกระทรวงก็เพื่อควบคุมและปฏิบัติการให้เป็นไปตามกฎหมายฉบับนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการที่จะขออนุญาตประกอบเครื่องขีดไฟดังบัญญัติไว้ใน มาตรา 4 นั้นเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 490/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยินยอมมอบทรัพย์คืนหลังทำสัญญากู้ ย่อมไม่ถือเป็นการจำนำทรัพย์เพื่อประกันการชำระหนี้
จำเลยกู้เงินโจทก์และในสัญญากู้มีข้อความด้วยว่า จำเลยได้นำโคมาจำนำไว้เมื่อทำสัญญากู้เงินกันแล้วโจทก์ได้ยินยอมมอบโคกลับคืนไปสู่การครอบครองของจำเลยแม้จำเลยจะเคยนำกลับไปให้โจทก์บ้างเป็นครั้งคราว แต่ผลที่สุดโจทก์ก็ยินยอมมอบคืนแก่จำเลยอีกเช่นนี้ ย่อมถือว่าจำเลยหาได้มอบโคไว้เป็นประกันการชำระหนี้ตามความหมายในลักษณะจำนำตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 349 ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 490/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยินยอมคืนทรัพย์ที่จำนำเป็นการยกเลิกสภาพการจำนำ ทำให้ไม่เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม. 349
จำเลยกู้เงินโจทก์และในสัญญากู้มีข้อความด้วยว่า จำเลยได้นำโคมาจำนำไว้ เมื่อทำสัญญากู้เงินกันแล้ว โจทก์ได้ยินยอมมอบโคกลับคืนไปสู่การครอบครองของจำเลย แม้จำเลยจะเคยนำกลับไปให้โจทก์บ้างเป็นครั้งคราว แต่ผลที่สุดโจทก์ก็ยินยอมมอบคืนแก่จำเลยอีก เช่นนี้ ย่อมถือว่าจำเลยหาได้มอบโคไว้เป็นประกันการชำระหนี้ตามความหมายในลักษณะจำนำตามประมวลกฎหมายอาญา ม. 349 ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 478/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีไม้แปรรูปโดยไม่ระบุว่าเป็นไม้หวงห้าม ฟ้องสมบูรณ์ตามกฎหมาย
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีไม้ประดู่แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 48,73,74 และ พ.ร.บ.ป่าไม้ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2494 มาตรา 17 ดังนี้ถือว่า เป็นฟ้องสมบูรณ์ไม่ต้องระบุว่าเป็นไม้แปรรูปประเภทหวงห้าม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 478/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องร้องคดีไม้แปรรูปโดยไม่ระบุว่าเป็นไม้หวงห้าม ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าฟ้องสมบูรณ์ตามกฎหมาย
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีไม้ประดู่แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484มาตรา 48, 73,74 และพระราชบัญญัติป่าไม้(ฉบับที่ 3) พ.ศ.2494 มาตรา 17 ดังนี้ ถือว่า เป็นฟ้องสมบูรณ์ไม่ต้องระบุว่าเป็นไม้แปรรูปประเภทหวงห้าม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 446-447/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าเสียหายจากการผิดสัญญาต้องเป็นไปตามปกติ ไม่ใช่ความเสียหายไกลเกินเหตุ ศาลไม่อาจบังคับใช้ค่าเสียหายที่ไม่ได้รับการฟ้องขอ
สัญญายอมความในคดีก่อนมีความว่า เมื่อปลูกสร้างโรงภาพยนต์เสร็จแล้วจำเลยจะจัดให้โจทก์ได้เช่าตั้งร้านขายเครื่องดื่มที่หน้าโรงภาพยนต์นั้น ตามสัญญาไม่ได้ระบุว่าที่ ๆ จะจัดให้โจทก์เช่านั้นจะต้องเป็นห้องใช้เป็นที่อยู่อาศัยอย่างใด คงเพียงแต่จะจัดที่เพื่อตั้งร้านขายเครื่องดื่มหน้าโรงภาพยนต์เท่านั้น เมื่อจำเลยผิดสัญญายอมความแล้ว โจทก์จะกลับมาฟ้องเรียกเอาค่าเสียหายที่ไปเซ้งห้องผู้อื่นเพื่ออยู่อาศัยและประกอบการค้าเพียงประการเดียวเช่นนี้ เป็นการไกลกว่าเหตุ ไม่ใช่เป็นค่าเสียหายซึ่งตามปกติย่อมเกิดขึ้นแก่การผิดสัญญาอันโจทก์พึงจะได้ตามกฎหมาย
ค่าเสียหายที่โจทก์ควรจะได้ในการผิดสัญญารายนี้ก็คือค่าขาดประโยชน์ที่เคยได้จากการเช่าขายเครื่องดื่มอยู่เดิม หรือที่จะได้เช่าใหม่ตามสัญญายอมความนั้น แต่โจทก์ไม่ได้ฟ้องตั้งประเด็นเรียกค่าเสียหายในข้อนี้อย่างใดเลย และเพราะเหตุที่โจทก์ไม่ได้ฟ้องตั้งประเด็นเรียกค่าเสียหายอันควรจะได้ตามกฎหมายดังกล่าวมานี้ ศาลก็ไม่อาจจะกำหนดค่าเสียหายในข้อนี้ให้โจทก์ตามสมควรได้ เพราะว่าเป็นการนอกประเด็นตามคำฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 424/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งป่วยผ่านตัวแทนเพื่อขอผัดผ่อนการตรวจเลือกทหาร ถือเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย
การที่จำเลยซึ่งอยู่ต่างจังหวัดมีจดหมายล่วงหน้าถึงนายอำเภอซึ่งเป็นกรรมการตรวจคัดเลือกทหารอยู่ด้วยคนหนึ่งว่าจำเลยป่วยมาให้คณะกรรมการตรวจคัดเลือกไม่ได้ เพื่อให้แจ้งต่อคณะกรรมการด้วยนั้นถือได้ว่าจำเลยได้จัดให้มีผู้แทนมาแจ้งต่อคณะกรรมการตรวจคัดเลือกในวันตรวจคัดเลือกตามความหมายของ มาตรา16 แล้ว จำเลยย่อมได้รับการยกเว้นโทษตาม มาตรา27(7) แห่งพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.2497 ส่วนการที่นายอำเภอหลงลืมไม่ได้แจ้งต่อคณะกรรมการตรวจคัดเลือกทหารนั้นมิใช่ความผิดของจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 424/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งป่วยผ่านตัวแทนและการยกเว้นการตรวจเลือกทหาร
การที่จำเลยซึ่งอยู่ต่างจังหวัดมีจดหมายล่วงหน้าถึงนายอำเภอซึ่งเป็นกรรมการตรวจคัดเลือกทหารอยู่ด้วยคนหนึ่งว่า จำเลยป่วย มาให้คณะกรรมการตรวจคัดเลือกไม่ได้ เพื่อให้แจ้งต่อคณะกรรมการด้วยนั้น ถือได้ว่าจำเลยได้จัดให้มีผู้แทนมาแจ้งต่อคณะกรรมการตรวจคัดเลือกในวันตรวจคัดเลือกตามความหมายของ ม. 16 แล้ว จำเลยย่อมได้รับการยกเว้นโทษาตาม ม.27(7) แห่ง พ.ร.บ. รับราชการทหาร พ.ศ. 2497 ส่วนการที่นายอำเภอหลงลืมไม่ได้แจ้งต่อคณะกรรมการตรวจคัดเลือกทหารนั้นมิใช่ความผิดของจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 400/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาความร้ายแรงของการประพฤติชั่วเพื่อการจ่ายบำนาญตกทอด กรณีวิวาททำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย
ต่างฝ่ายต่างสมัครใจทำร้ายกัน ซึ่งปรากฏว่าฝ่ายนายทหารเรือถูกนายเงินกับพวกยิงมีบาดเจ็บหลายแห่งถึงแก่ความตายฝ่ายนายเงินกับพวกไม่มีบาดเจ็บอย่างไรเลยที่เกิดเหตุเป็นที่สาธารณะตามพฤติการณ์เช่นนี้ยังไม่ถือว่านายทหารเรือผู้นั้นประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงตามความในมาตรา 48 พระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญฯ พ.ศ.2494 เพราะรูปเรื่องเหตุที่จะเกิดเนื่องจากการโต้เถียงท้าทายกันอันไม่ปรากฏว่าเป็นความผิดของฝ่ายนายทหารเรือ ทำให้เกิดบันดาลโทสะขึ้นโดยปัจจุบัน ไม่ทันยั้งคิด ซึ่งย่อมอาจจะมีได้แก่สามัญชนทั่วๆ ไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 400/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณา 'ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง' เพื่อการจ่ายบำนาญตกทอดกรณีวิวาท การกระทำที่เกิดจากบันดาลโทสะไม่ถือเป็นความผิดร้ายแรง
ต่างฝ่ายต่างสมัครใจทำร้ายกัน ซึ่งปรากฏว่าฝ่ายนายทหารเรือถูกนายเงินกับพวกยิงมีบาดเจ็บหลายแห่งถึงแก่ความตาย ฝ่ายนายเงินกับพวกไม่มีบาดเจ็บอย่างไรเลย ที่เกิดเหตุเป็นที่สาธารณะ ตามพฤติการณ์เช่นนี้ยังไม่ถือว่านายทหารเรือผู้นั้นประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงตามความในมาตรา 48 พ.ร.บ. บำเหน็จบำนาญฯ พ.ศ. 2494 เพราะรูปเรื่องเหตุที่จะเกิดเนื่องจากการโต้เถียงท้าทายกันอันไม่ปรากฏว่าเป็นความผิดของฝ่ายนายทหารเรือ ทำให้เกิดบันดาลโทสะขึ้นโดยปัจจุบัน ไม่ทันยั้งคิด ซึ่งย่อมอาจจะมีได้ แก่สามัญชนทั่ว ๆ ไป
of 33