คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สุทธิวาทนฤพุฒิ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 322 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 404/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินยังไม่สมบูรณ์หากยังไม่ได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ แม้ผู้ซื้อจะชำระราคาและครอบครองแล้ว เจ้าหนี้ยังคงมีสิทธิยึดได้
การซื้อขายที่ดินมีโฉนดแม้ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ซื้อจะชำระราคาเรียบร้อยแล้วและได้ยึดถือโฉนดครอบครองถือเอาประโยชน์จากที่ดินนั้นตลอดมาก็ตาม ถ้ายังไม่ได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ การซื้อขายย่อมยังไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย ฉะนั้น โจทก์ในฐานะเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยซึ่งเป็นผู้ขายย่อมมีสิทธิยึดที่ดินนั้นชำระหนี้ได้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่12/2504)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 404/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินยังไม่สมบูรณ์หากยังไม่ได้จดทะเบียน แม้จะชำระราคาและครอบครองแล้ว เจ้าหนี้มีสิทธิยึดได้
การซื้อขายที่ดินมีโฉนดแม้ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ซื้อจะชำระราคาเรียบร้อยแล้วและได้ยึดถือโฉนดครอบครองถือเอาประโยชน์จากที่ดินนั้นตลอดมาก็ตาม ถ้ายังไม่ได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ การซื้อขายย่อมยังไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย ฉะนั้น โจทก์ในฐานะเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยซึ่งเป็นผู้ขายย่อมมีสิทธิยึดที่ดินนั้นชำระหนี้ได้
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 12/2504

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 355/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าของเครื่องหมายการค้าก่อนจดทะเบียน: การเพิกถอนทะเบียนเครื่องหมายการค้า
โจทก์ผู้เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้า ใช้เครื่องหมายการค้ามาก่อนจำเลย แม้จำเลยจะไปจดทะเบียนเครื่องหมายการค้านั้นก่อนหลายปีโจทก์ก็ขอให้ศาลเพิกถอนทะเบียนเครื่องหมายการค้าที่จำเลยขอจดไว้ได้
การที่ศาลพิพากษาให้เพิกถอนการจดทะเบียนทั้งยังห้ามจำเลยใช้เครื่องหมายการค้าและชื่อของโจทก์ต่อไปนั้นโจทก์ย่อมได้รับความคุ้มครองตามคำพิพากษาโดยสมบูรณ์อยู่แล้วจึงไม่จำเป็นต้องให้จำเลยทำลายเครื่องหมายการค้านั้นอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 316/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิหักหนี้จำนองของผู้รับจำนองเมื่อซื้อทรัพย์จำนองในทอดตลาด
ทรัพย์ที่จำนองไว้หลายรายได้ถูกยึดมาขายทอดตลาดในคดีแพ่งสามัญ เมื่อผู้รับจำนองในลำดับแรกเป็นผู้ซื้อได้ก็มีสิทธิหักหนี้จำนองของเขาได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 732

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 316/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิหักหนี้จำนองของผู้ซื้อได้จากการขายทอดตลาด แม้เป็นการขายในคดีแพ่งสามัญ
ทรัพย์ที่จำนองไว้หลายรายได้ถูกยึดมาขายทอดตลาดในคดีแพ่งสามัญ เมื่อผู้รับจำนองในลำดับแรกเป็นผู้ซื้อได้ก็มีสิทธิหักหนี้จำนองของเขาได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 732 ถึงแม้ผู้รับจำนองนั้นซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในคดีที่ขอบังคับจำนองจะมิได้ขอยึดมาขายทอดตลาดในคดีของตนก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 312/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเรียกเงินทดรองจ่ายทำศพโดยไม่มีหลักฐานหนังสือเป็นหนังสือ สิทธิเรียกร้องขาดอายุความและไม่มีอำนาจฟ้อง
ฟ้องเรียกเงินที่โจทก์ทดรองจ่ายในการทำศพแทนจำเลยนั้นเป็นลักษณะกู้ยืม เมื่อไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือแล้วก็ไม่มีอำนาจฟ้องแม้จะถือเอาคำให้การและคำเบิกความของจำเลยในการสู้คดี ซึ่งรับว่าได้รับเงินจริง ก็จะบังคับแก่จำเลยไม่ได้ เพราะขณะฟ้องโจทก์ไม่มีหลักฐานการกู้ยืมเป็นหนังสือ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 287/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายคดีออกจากสารบบเนื่องจากโจทก์ถึงแก่กรรมและไม่มีผู้ขอรับมรดก
คดีแพ่งที่โจทก์ตายในระหว่างฎีกาโดยไม่มีผู้ใดขอเข้ารับมรดกความเกิน 10 ปีแล้ว กฎหมายให้ศาลจำหน่ายคดีเสียจากสารบบความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 19/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความกับการบังคับคดี: การฟ้องร้องตามสัญญา แม้มีคดีก่อน
คดีก่อนศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์ (คือจำเลยในคดีก่อน)ชำระเงิน 3 ล้านบาทเศษแก่จำเลย (คือโจทก์ในคดีก่อน) คดีอยู่ในระหว่าง อุทธรณ์ โจทก์ จำเลย ทำสัญญาประนีประนอมยอมความเป็นหนังสือกันนอกศาลว่าจำเลยยอมรับเงินจากโจทก์เพียง 7 แสนบาท แทนการเรียกให้ชำระหนี้ตามคำพิพากษา และได้รับเงิน 7 แสนบาทไปแล้ว ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ไม่มีฝ่ายใดฎีกาจำเลย (ซึ่งเป็นโจทก์ในคดีก่อน)จะขอให้บังคับคดีตามคำพิพากษานั้นหาได้ไม่
ในกรณีข้างต้น เมื่อโจทก์ในคดีก่อนขอให้ศาลออกคำบังคับคดีตามคำพิพากษา และจำเลยในคดีก่อนอุทธรณ์ฎีกาคัดค้านการที่ศาลชั้นต้นออกคำบังคับโดยอ้างสัญญาประนีประนอมดังกล่าวก็ดี จำเลยในคดีก่อนก็มีสิทธิมายื่นฟ้องโจทก์ในคดีก่อนขอให้บังคับโจทก์ในคดีก่อนปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวอีกได้ไม่เป็นฟ้องซ้ำเพราะคดีก่อนเป็นการโต้เถียงกันชั้นบังคับคดี คดีใหม่เป็นเรื่องฟ้องตามสัญญาประนีประนอมยอมความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 19/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความกับการบังคับคดี: สัญญาผ่อนปรนสิทธิ ไม่เปลี่ยนแปลงคำพิพากษา ไม่ฟ้องซ้ำ
คดีก่อนศาลชั้นต้นตัดสินให้โจทก์ (คือจำเลยในคดีก่อน) ชำระเงิน 3 ล้านบาทเศษแก่จำเลย (คือโจทก์ในคดีก่อน) คดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์ โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความเป็นหนังสือกันนอกศาลว่า จำเลยยอมรับเงินจากโจทก์เพียง 7 แสนบาทแทนการเรียกให้ชำระหนี้ตามคำพิพากษา และได้รับเงิน 7 แสนบาทไปแล้ว ต่อมาคดีนั้นศาลอุทธรณ์พิพาษายืน ไม่มีฝ่ายใดฎีกา จำเลย (ซึ่งเป็นโจทก์ในคดีก่อน) จะขอให้บังคับคดีตามคำพิพากษานั้นหาได้ไม่
ในกรณีข้างต้น เมื่อโจทก์ในคดีก่อนขอให้ศาลออกคำบังคับคดีตามคำพิพากษาและจำเลยในคดีก่อนอุทธรณ์ฎีกาคัดค้านการที่ศาลชั้นต้นออกคำบังคับโดยไม่ยอมรับฟังสัญญาประนีประนอมยอมความที่ทำกันนอกศาลนั้น แล้วจำเลยในคดีก่อนมายื่นฟ้องโจทก์ในคดีก่อนขอให้บังคับโจทก์ในดคีก่อนปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวนั้นได้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1730/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำถนนคอนกรีตบนทางภารจำยอมไม่ถือเป็นการเพิ่มภารจำยอม หรือสละสิทธิ หากยังคงสภาพเดิม และภารจำยอมยังไม่สิ้นสุด
การทำถนนคอนกรีตบนทางภารจำยอมไม่เป็นการเพิ่มภารจำยอม (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 33/2503)
จดทะเบียนภารจำยอมว่าเป็นทางเดินของผู้ที่อยู่ในโฉนดซึ่งจำเลยเป็นเจ้าของ แต่แล้วใช้ทางนี้เป็นทางรถด้วยก็ดี หรือมีคนอื่นซึ่งอยู่ในที่ดินโฉนดของจำเลยได้ใช้เป็นทางเดินด้วยก็ดี ก็ยังไม่เป็นการเพิ่มภารจำยอม
เมื่อการจดทะเบียนภารจำยอมยังคงอยู่แม้ผู้ใช้ทางนั้นจะอ้างว่าเป็นทางสาธารณ ก็ไม่ถือว่าสละสิทธิภารจำยอม
of 33