พบผลลัพธ์ทั้งหมด 184 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 792/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องอัยการ: จำเลยถูกฟ้องในฐานะตัวแทนบริษัทฯ ต้องมีการไต่สวนมูลฟ้องเฉพาะตัวก่อน จึงจะฟ้องจำเลยต่อศาลอาญาได้
จำเลยถูกฟ้องที่ศาลแขวงในมูลคดีเดียวกันกับที่ถูกฟ้องในศาลอาญา ในชั้นศาลอาญาจำเลยถูกฟ้องว่าร่วมกระทำผิดด้วยกันกับบริษัทเคี่ยนหงวน(ไทย) จำกัด เป็นที่ชัดเจนอยู่แล้วว่าโจทก์ฟ้องจำเลยเป็นผู้กระทำผิดเป็นการเฉพาะตัวส่วนในชั้นไต่สวนมูลฟ้องในหน้าฟ้องมีว่า นายจิ้นแซ่เล้าหรือยินจุนแทนบริษัทเคี่ยนหงวน(ไทย) จำกัด จำเลยใจความฟ้องมีว่า จำเลยได้กระทำผิดพระราชบัญญัติควบคุมการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้าบางอย่างโดยจำเลยในนามของบริษัทเคี่ยนหงวน(ไทย) จำกัด ได้นำกระสอบป่านสองแสนใบจากประเทศอินเดีย เข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยมิได้รับอนุญาตและในรายงานกระบวนพิจารณาผู้ว่าคดีแถลงต่อศาลว่าฟ้องจำเลยในฐานะเป็นตัวแทนของบริษัทเคี่ยนหงวน(ไทย) จำกัด หาใช่ฟ้องจำเลยเป็นการเฉพาะตัวไม่ดังนี้ถือว่าจำเลยมิได้ถูกฟ้องหาว่าได้กระทำผิดโดยเฉพาะตัวและยังมิได้ถูกไต่สวนมูลฟ้องอัยการจึงยังไม่มีอำนาจที่จะฟ้องจำเลยต่อศาลอาญาได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 8/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 792/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องอาญา: การฟ้องจำเลยในฐานะตัวแทนบริษัท และการไต่สวนมูลฟ้องที่ไม่ชอบ
จำเลยถูกฟ้องที่ศาลแขวงในมูลคดีเดียวกันกับที่ถูกฟ้องในศาลอาญา ในชั้นศาลอาญา จำเลยถูกฟ้องว่าร่วมกระทำผิดด้วยกันกับบริษัทเคี่ยนหงวน (ไทย) จำกัด เป็นที่ชัดเจนอยู่แล้ว ว่าโจทก์ฟ้องจำเลยเป็นผู้กระทำผิดเป็นการเฉพาะตัว ส่วนในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ในหน้าฟ้องมีว่า นายจิ้น แซ่เล้าหรือยินจุน แทนบริษัทเคี่ยนหงวน (ไทย) จำกัด จำเลย ใจความฟ้องมีว่า จำเลยได้กระทำผิดพระราชบัญญัติควบคุมการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งสินค้าบางอย่าง โดยจำเลยในนามของบริษัทเคี่ยนหงวน (ไทย) จำกัด ได้นำกระสอบป่านสองแสนใบจากประเทศอินเดีย เข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยมิได้รับอนุญาต และในรายงานกระบวนพิจารณา ผู้ว่าคดีแถลงต่อศาลว่าฟ้องจำเลยในฐานะเป็นตัวแทนของบริษัทเคี่ยนหงวน (ไทย) จำกัด หาใช่ฟ้องจำเลยเป็นการเฉพาะตัวไม่ ดังนี้ถือว่าจำเลยมิได้ถูกฟ้องหาว่าได้กระทำผิดโดยเฉพาะตัวและยังมิได้ถูกไต่สวนมูลฟ้อง อัยการจึงยังไม่มีอำนาจที่จะฟ้องจำเลยต่อศาลอาญาได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 8/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 759/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองไม้แปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ และการพิพากษาริบไม้ของกลาง
คดีฟ้องขอให้ลงโทษจำเลย ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ โจทก์ไม่จำต้องบรรยายฟ้องว่าได้มีการปิดประกาศพระราชกฤษฎีกาดังกำหนดไว้ในมาตรา 5 พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. 2484 แต่ประการใด (ฎีกาที่ 1146/2502)
จำเลยมีไม้สักแปรรูปจำนวน 0.53 เมตรลูกบาศก์ไว้โดยไม่ได้รับอนุญาต นับว่าเป็นการกระทำผิดต่อ พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 48, 73 พ.ร.บ. ป่าไม้ (ฉบับที่3) พ.ศ. 2494 มาตรา 17 ไม้ที่จำเลยมีทั้งหมดย่อมมีส่วนก่อให้เกิดความผิด จึงต้องถูกริบทั้งหมด
จำเลยมีไม้สักแปรรูปจำนวน 0.53 เมตรลูกบาศก์ไว้โดยไม่ได้รับอนุญาต นับว่าเป็นการกระทำผิดต่อ พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 48, 73 พ.ร.บ. ป่าไม้ (ฉบับที่3) พ.ศ. 2494 มาตรา 17 ไม้ที่จำเลยมีทั้งหมดย่อมมีส่วนก่อให้เกิดความผิด จึงต้องถูกริบทั้งหมด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 759/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองไม้แปรรูปเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยไม่ต้องพิสูจน์การประกาศพระราชกฤษฎีกา
คดีฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 โจทก์ไม่จำต้องบรรยายฟ้องว่าได้มีการปิดประกาศพระราชกฤษฎีกาดังกำหนดไว้ใน มาตรา 5 พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 แต่ประการใด(ฎีกาที่ 1146/2502)
จำเลยมีไม้สักแปรรูปจำนวน 0.53 เมตร ลูกบาศก์ไว้โดยไม่ได้รับอนุญาต นับว่าเป็นการกระทำผิดต่อ พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 48,73 พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484(ฉบับที่ 3) พ.ศ.2494 มาตรา 17 ไม้ที่จำเลยมีทั้งหมดย่อมมีส่วนก่อให้เกิดความผิด จึงต้องถูกริบทั้งจำนวน
จำเลยมีไม้สักแปรรูปจำนวน 0.53 เมตร ลูกบาศก์ไว้โดยไม่ได้รับอนุญาต นับว่าเป็นการกระทำผิดต่อ พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 48,73 พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484(ฉบับที่ 3) พ.ศ.2494 มาตรา 17 ไม้ที่จำเลยมีทั้งหมดย่อมมีส่วนก่อให้เกิดความผิด จึงต้องถูกริบทั้งจำนวน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 702/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเจ้าของร่วมในการฟ้องแย่งคืนที่ดิน กรณีถูกรบกวนสิทธิ
โจทก์กับพวกร่วมกันยึดถือที่ดินเป็นเจ้าของ โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของร่วมคนหนึ่งย่อมฟ้องผู้ที่เข้ามารบกวนหรือแย่งที่ดินที่โจทก์กับพวกถือสิทธิเป็นเจ้าของนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 702/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเจ้าของร่วมในการฟ้องแย่งคืนที่ดิน: เจ้าของร่วมมีสิทธิฟ้องผู้รบกวนการครอบครองที่ดินที่ตนมีสิทธิร่วมกันได้
โจทก์กับพวกร่วมกันยึดถือที่ดินเป็นเจ้าของโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของร่วมคนหนึ่งย่อมฟ้องผู้ที่เข้ามารบกวนหรือแย่งที่ดินที่โจทก์กับพวกถือสิทธิเป็นเจ้าของนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 700/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานทุจริตต่อหน้าที่ ลักใบเสร็จเก็บเงินค่าไฟฟ้าแล้วนำเงินไปใช้ส่วนตัว
จำเลยเป็นเจ้าพนักงานของเทศบาลมีหน้าที่เก็บเงินของเทศบาลจำเลยลักใบเสร็จเก็บเงินค่ากระแสไฟฟ้าซึ่งอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่อีกผู้หนึ่ง แล้วจำเลยนำใบเสร็จไปเก็บเงินค่ากระแสไฟฟ้าแล้วนำเงินนั้นไปใช้เป็นประโยชน์ส่วนตัว ดังนี้การกระทำของจำเลยจึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องตามบทบัญญัติ มาตรา 157ประมวลกฎหมายอาญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 700/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานทุจริตหน้าที่ลักทรัพย์-เก็บเงินส่วนตัว
จำเลยเป็นเจ้าพนักงานของเทศบาลมีหน้าที่เก็บเงินของเทศบาล จำเลยลักใบเสร็จเก็บเงินค่ากระแสไฟฟ้าซึ่งอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่อีกผู้หนึ่ง แล้วจำเลยนำใบเสร็จไปเก็บเงินค่ากระแสไฟฟ้า แล้วนำเงินนั้นไปใช้เป็นประโยชน์ส่วนตัว ดังนี้การกระทำของจำเลยจึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องตามบทบัญญัติมาตรา 157 ประมวลกฎหมายอาญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 694/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำผิดด้วยความจำเป็น: เจ้าหน้าที่ถูกบังคับด้วยปืนในการแก้ไขคะแนนเลือกตั้งได้รับการยกเว้นโทษ
จำเลยเป็นข้าราชการและเป็นเจ้าหน้าที่ในการเลือกตั้ง แก้จำนวนคะแนนเสียงของผู้สมัครรับเลือกตั้งในเอกสารที่แจ้งผลการเลือกตั้งถึงนายอำเภอ เนื่องจากถูกบีบบังคับด้วยอำนาจปืน ถือว่าเป็นการกระทำด้วยความจำเป็นพอสมควรแก่เหตุ ย่อมได้รับการยกเว้นโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 67
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 694/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดด้วยความจำเป็น: เจ้าหน้าที่ถูกบังคับด้วยอาวุธปืนในการแก้ไขคะแนนเลือกตั้งได้รับการยกเว้นโทษ
จำเลยเป็นข้าราชการและเป็นเจ้าหน้าที่ในการเลือกตั้งแก้จำนวนคะแนนเสียงของผู้สมัครรับเลือกตั้งในเอกสารที่แจ้งผลการเลือกตั้งถึงนายอำเภอเนื่องจากถูกบีบบังคับด้วยอำนาจปืนถือว่าเป็นการกระทำด้วยความจำเป็นพอสมควรแก่เหตุย่อมได้รับการยกเว้นโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 67